โดยภาพที่เรารวมมาให้ได้ดูกันนี้เป็นภาพมาจากเพจ สยามพหุรงค์ โดย หนุ่มรัตนะ ซึ่งภาพถ่ายเก่าๆ บางภาพเขาก็ใช้เทคนิคการลงสีใหม่เพื่อให้ดูสวยงาม ชัดเจนมากขึ้น แต่ทว่าไม่ได้ทำลายองค์ประกอบของภาพให้เปลี่ยนเลย ว่าแล้วก็มาย้อนเวลาไปในอดีตพร้อมๆ กัน เริ่มที่ภาพแรกเลยค่ะ
พระบรมฉายาลักษณ์ล้นเกล้าฯ ของรัชกาลที่ ๗ กับชาวสยาม
ภาพถ่ายในอดีตสยาม บรรยากาศการขายของ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ บริเวณหน้าวิหารซำปอกง (วัดพนัญเชิง) ในภาพพอจะเห็นได้ว่าแม่ค้าที่นุ่งโจงกระเบนสีม่วงนั้น นำปลาแห้งมาวางขาย
ภาพถ่ายในอดีตของไทย โรงงิ้วในสมัยอดีตนั้นใช้เพียงโครงสร้างตอม่อ มีเสาไม้ไผ่ พาดบนไม้กระดาน หลังคาก็ใช้ผ้าขึงแบบในรูปก็สามารถเป็นโรงงิ้วได้เช่นกัน จากภาพผู้คนที่สวมเครื่องแต่งกาย ที่มีทั้งนุ่งกางเกง ขาสั้น และขายาว อีกทั้งยังมีการนิยมสวมใส่หมวกด้วย จึงคาดว่าน่าภาพนี้น่าจะถูกบันทึกในช่วงยุคของจอมพล ป.พิบูลสงคราม
เจ้าจอมมารดาเพ็งในรัชกาลที่ ๔ แต่งกายในชุดสไตล์ยุโรป บ้างก็ให้ความเห็นว่าเป็นการแต่งกายเพื่อเล่นละคร บ้างก็ว่าแต่งการเพื่อต้อนรับคณะทูต
ภาพถ่ายจากสนามหน้าจักรวรรดิ์เข้ามายังศูนย์กลางอำนาจการปกครองในช่วงรัชกาลที่ ๔ - ๕ ตอนต้น
ภาพคุณยายแต่งกายด้วยการใส่ชุดโจงกระเบนกำลังนั่งร้อยดอกไม้พวงมาลัย เพื่อนำไปใช้ในการตกแต่งเทียนบูชา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นภาพในสมัยรัชกาลที่ ๕
ภาพถ่ายกรมขุนวรจักร ในปลายสมัยรัชกาลที่ ๓ (ขุนวรจักร คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปราโมช กรมขุนวรจักรธรานุภาพ ทีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าปราโมช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเจ้าจอมมารดาอัมพา)
มอญ ปากลัด คือกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายจากมอญ และได้อพยพเข้ามาอยู่ในไทย สำหรับภาพนี้เป็นชาวมอญ ปากลัด คาดว่าน่าจะในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕-๖ จะเห็นได้ว่าวิธีการนุ่งผ้าของชาว มอญ ปากลัด มีวิธีการเหน็บที่ต่างจากไทย
ดูจากลักษณะการแต่งกาย มีหมวกคล้ายหมวกตำรวจ ใส่ผ้านุ่งดูดีสวยงาม และพกดาบญี่ปุ่นด้วย น่าจะเป็นผู้มีบรรดาศักดิ์ในสมัยนั้น บริเวณที่นั่งดังกล่าวเป็นตรงทางขึ้นพระอุโบสถวัดพระแก้ว
เจ้าจอมอาบ เจ้าจอมเอื้อน สนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กำลังลงพายเรือ ณ พระราชวังดุสิต (*สนมเอกของร.๕ มีทั้งหมด 5 นาง มีชื่อเรียกว่า เจ้าจอมก๊กออ หรือ เจ้าจอมพงศ์ออ ซึ่งพระสนมทุกนางมีขึ้นต้นด้วยอักษร อ. อ่างทั้งหมด เจ้าจอมมารดาอ่อน, เจ้าจอมเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน นอกจากนี้ทุกนางยังเป็นสตรีจากสายราชินิกุลบุนนาค ซึ่งเป็นบุตรีของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) กับท่านผู้หญิงอู่ ภริยาเอก ด้วย)
แถวบน : เจ้าจอมแก้ว เจ้าจอมเอื้อน เจ้าจอมเอี่ยม แถวล่าง : เจ้าจอมแส พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ เจ้าจอมเอิบ เจ้าจอมมารดาอ่อน พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา
ภาพ: วิกิพีเดีย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายภาพร่วมกับเจ้าจอมอาบ, เจ้าจอมเอี่ยม และเจ้าจอมเอื้อน
ภาพ: วิกิพีเดีย
ดูกันอีกรูปชัดๆ กับพระพักตร์ของเจ้าจอมเอื้อน (ขวา) และเจ้าจอมอาบ (ซ้าย)
ภาพ: วิกิพีเดีย
จีวรลายดอกที่ใช้โดยพระสงฆ์ในปลายรัชกาลที่ ๔
พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายเมื่อปลายแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
วิธีจัดการกับศพในสมัยรัชกาลที่ ๕ สัปเหร่อจะแล่เนื้อศพ แล้วโยนให้แร้งกิน ส่วนกระดูกที่เหลือก็นำไปเผา ว่ากันว่าวิธีการนี้แหละเป็นที่มาของคำว่า 'แร้งวัดสระเกศ' นอกจากนี้ ป่าช้าวัดศระเกศยังเป็นที่ยอดฮิตเวลาชาวต่างชาติมาเยือนสยามจะต้องแวะชม
ห้องเครื่องตำหนักพระวิมาดาเธอสายสวลีภิรมย์ ในพระราชวังดุสิตสมัยรัชกาลที่ ๕
ประตูท่าแพ เมืองเชียงใหม่
ภาพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทางสถลมารคทอดกฐิน ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ ในปีพศ.๒๔๐๘
กรุงเทพฯ เมื่อ 150 ปีที่แล้ว
ที่มา: http://webboard.yenta4.com/topic/569317