"ปู่แบน" อดีตนักกีฬาเพาะกายร่างงาม วัย 74 ปี ฉายา "สิงโตเผือกนครสวรรค์" ใจดี ใช้ลานข้างบ้าน เปิดโรงยิมเทรนฟิตเนสครั้งละ 5 บาท เผยอยากเปิดโอกาสให้เยาวชนหันมาออกกำลังกายอย่างถูกวิธี แต่จ่ายในราคาย่อมเยา
วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ อ.ตาคลี เพื่อตามหาชายสูงวัย แต่ร่างกายสวยงาม ฟิตแอนด์เฟิร์ม มีกล้ามเป็นมัดๆ อีกทั้งยังใจดี ใช้พื้นที่บ้านบางส่วนของตนเอง เปิดเป็นโรงยิม สอนฟิตเนสให้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน โดยเก็บค่าเทรนและค่าใช้บริการต่อครั้งเพียง 5 บาทเท่านั้น
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ชายสูงวัยร่างงามรายนี้ คือ นายดำรง จันทร์นวล อายุ 74 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ปู่แบน" อดีตเคยเป็นนักกีฬาเพาะกายมานานกว่า 40 ปี ผ่านสังเวียนการประกวดชายงามทั่วประเทศมานับไม่ถ้วน การันตีด้วยถ้วยรางวัลต่างๆ มากกว่า 100 ถ้วย จนได้รับฉายาขนาดนามว่า "สิงโตเผือกนครสวรรค์" และปัจจุบัน ปู่แบนมีอาชีพเป็นช่างตัดผมชาย มีร้านของตัวเองอยู่บริเวณริมทางรถไฟใกล้กับสถานีรถไฟตาคลี เขตเทศบาลตำบลตาคลี
เมื่อเสร็จเปิดร้านตัดผม ช่วงเย็นปู่แบน จะเปิดบริการสอนฟิสเนสให้กับบุคคลที่สนใจโดยคิดค่าบริการครั้งละแค่ 5 บาท ซึ่งใช้พื้นที่ลานบริเวณข้างบ้านเปิดเป็นโรงยิม โดยมีการนำเครื่องอุปกรณ์ออกกำลังการสำหรับฟิตเนสมาตั้งในลานกว้างเป็นการชั่วคราว ส่วนเครื่องออกกำลังกาย พบว่า มีหลากหลายชนิด และมีดัมเบลอีกหลายขนาดให้เพาะกายสร้างกล้ามแขน โดยในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ทำขึ้นเองร่วมกับบุตรชายเกือบจะทั้งหมด ไม่แพ้ร้านฟิตเนสทั่วไปเลยทีเดียว ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนวัยรุ่นที่ใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาออกกำลังกาย
จากการสอบถามปู่แบน เล่าว่า สมัยวัยรุ่น ตนเองมีร่างกายที่ซูบผอม แต่ก็มีเพื่อนฝูงที่เป็นนักกีฬาเพาะกาย มักชอบไปออกกำลังกายที่โรงยิมกันทุกเย็น ซึ่งตนก็สนใจ เพราะเห็นเพื่อนแล้วดูหุ่นดี และดูมีสุขภาพดี ตนจึงขอติดตามเพื่อนไปโรงยิมเพื่อออกกำลังกาย หวังจะให้หุ่นดีแบบนี้บ้าง แต่ก็ต้องพบกับเรื่องที่ทำให้น้อยใจ เมื่อตนจะไปเล่นเครื่องเล่นยกน้ำหนักเพิ่มกล้ามอก กลับถูกเจ้าของโรงยิม เข้ามาห้าม โดยบอกว่า กลัวจะถูกเครื่องยกน้ำหนักทับตาย จนเดือดร้อนโรงยิม จึงทำให้ตนรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก และเลือกที่จะใช้เงิน 4 บาทในสมัยนั้น ขอซื้อแผ่นปูนทรงกลม 2 แผ่น พร้อมแท่งแกนเหล็ก จากเจ้าของโรงยิมดังกล่าว แบกกลับไปเล่นเองที่บ้าน ซึ่งดูเหมือนจะประชดแต่ ณ ตอนนั้น มันทำให้ตนรู้สึกฮึกเหิมที่จะเล่นกีฬาเพาะกายอย่างจริงจัง
โดยตนใส่ใจออกกำลังกายในการเพาะกล้ามเนื้อมานานเกือบ 10 ปี และใส่ใจในระเบียบวินัยการพักผ่อน การกิน จะต้องตรงเวลา รวมถึงต้องไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ด้วย จนตนมีร่างกายที่สะดุดสายตาคนอื่นๆ โดยเฉพาะเจ้าของโรงยิมที่เคยห้ามไม่ให้ตนเล่นเครื่องออกกำลังกายก็ยังต้องชม จึงได้ตัดสินใจเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันกีฬาเพาะกาย โดยสนามแรก ตนแพ้แบบหมดรูป เพราะกล้ามขาตนมีน้อย จึงทำให้ตกรอบ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกย่อท้อ เมื่อมีจุดอ่อนตรงไหนของร่างกาย ตนก็กลับมาออกกำลังเน้นเฉพาะจุดนั้น ควบคู่ไปกับจุดอื่น จนในที่สุด ร่างกายตนก็ฟิตแอนด์เฟิร์มสมส่วนทุกจุด หลังจากนั้น ตนก็เดินสายไปประกวดทุกเวที แล้วก็คว้ารางวัลเป็นว่าเล่น กระทั่งถึงอายุ 60 ปี ตนจึงเลิกประกวด เพราะหุ่นสวยสู้คนรุ่นใหม่ไม่ได้แล้ว "ปู่แบน" กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อถามถึงการตั้งโรงยิมเทรนฟิตเนส 5 บาท "ปู่แบน" บอกว่า เพราะคำดูถูกที่ตนได้รับครั้งแรก มันจึงเป็นความตั้งใจที่อยากจะเปิดฟิตเนส นำเครื่องออกกำลังกายมาสอนให้กับคนทุกวัยที่สนใจ โดยเฉพาะเยาวชนนักเรียน ที่มีฐานะยากจน ไม่มีโอกาสที่จะได้ไปเล่นฟิตเนสตามร้านที่ดีๆ ก็สามารถมาออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่โรงยิมของตนได้ ในราคาเพียง 5 บาท ตนมองว่าเป็นเรื่องดี เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างมาออกกำลังกายให้แข็งแรง ดีกว่าไปมั่วสุ่มแข่งรถ หรือไม่ดีก็ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และโรงยิมของตนแห่งนี้ ได้เปิดเทรนสอนให้กับลูกค้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว เคยเปิดให้บริการตั้งแต่ราคาครั้งละ 1 บาท ขึ้นมาเรื่อยจนปัจจุบันให้บริการครั้ง 5 บาท โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 16.30 น. – 20.00 น. ทุกวัน ส่วนลูกค้าปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นนักเรียน เข้ามาออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายดูสวยงามสมส่วนมากกว่าจะไปประกวดแข่งขัน และมีบางส่วนที่มาออกกำลังกายเพื่อฟิตกล้ามเนื้อไว้ เพื่อเตรียมไปสอบโรงเรียนนายร้อยตำรวจทหาร ตนก็จะคอยเทรนวิธีการเล่นเครื่องออกกำลังกายให้ถูกวิธี เนื่องจากหาก เล่นแบบผิดวิธีก็ไม่สามารถช่วยเพาะกล้ามเนื้อได้ แถมอาจจะได้รับบาดเจ็บจากล้ามเนื้อฉีกด้วย
ทั้งนี้ ปู่แบน ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จะทำการรื้อถอนและสร้างโรงยิมขึ้นใหม่ และใช้เวลานานนานกว่า 2 เดือน เนื่องจากต้องการทำโรงยิม ให้อยู่ในสภาพดี โดยได้มีการว่าจ้างช่างไว้แล้ว ทั้งการรื้อโรงยิมเก่า มาสร้างสร้างใหม่ ใช้เงินประมาณ 200,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บมาจากอาชีพตัดผมที่ตนเองทำอยู่ และเงินจากค่าให้บริการโรงยิม และพอหลังจากที่ทำโรงยิมเสร็จ ตนก็ต้องเพิ่มค่าบริการจาก 5 บาท เป็น 10 บาท เพื่อเอาไว้จ่ายค่าไฟ และค่าบำรุงอุปกรณ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้จะขึ้นราคาเพิ่มเป็น 10 บาท แต่ก็ถือว่าราคานี้แสนถูกมากกว่าร้านฟิตเนสดีๆ ที่อื่นหลายเท่า ที่ต้องใช้เงินประมาณ 70-100 บาทเข้าไปเล่นเครื่องออกกำลังกายต่อครั้ง อีกทั้ง หากร้านฟิตเนสไหนมีเครื่องออกกำลังน้อยชิ้น ก็อาจจะต้องไปต่อคิวรอนานเป็นชั่วโมงกว่าจะได้เล่น ซึ่งในส่วนของโรงยิมของปู่แบน หรือค่ายเพาะกายดำรงค์ยิม ถือเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากผู้มาเล่น จะได้เล่นเครื่องเล่นออกกำลังกายหลากหลายในราคาต่อครั้งอย่างสุดถูกแล้ว ยังได้เทรนเนอร์ชั้นยอด อดีตแชมป์ชายงามปี 2513 มาคอยเทรนให้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ชนิดที่ว่า ได้ทั้งสุขภาพ ได้ทั้งร่างกายสวยงาม ความมีสมาธิ ได้ประหยัดเงิน และได้นำเวลาว่างมาให้ให้เกิดประโยนช์ด้วย