ประเทศทุกประเทศล้วนแล้วแต่มีกำลังทหารไว้เพื่อปกป้องประเทศต่อการรุกรานของประเทศอื่นๆ และนี่คือ 10 อันดับประเทศที่น่าจะปลอดภัยจากการบุกรุกของต่างประเทศเพราะบางประเทศนั้นก็ไม่มีโอกาสที่จะเกิดการบุกรุกเลย และบางประเทศก็มีกำลังในการสู้รบมาก ทั้งยังได้เปรียบในเรื่องภูมิประเทศอีกด้วยทำให้การโจมตีเป็นไปได้ยาก
10. ออสเตรเลีย
มีทหารกว่า 60,000 คน และหน่วยสำรองอีก 44,000 คน รถถัง 59 คัน ปืนใหญ่ 79 อัน เครื่องบินรบอีก 78 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 188 ลำ ทั้งยังมีเรืออีก 47 ลำพร้อมทั้งเรือดำน้ำ 6 ลำ รวมไปถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ
ด้วยความที่ประเทศเป็นเกาะและทะเลทรายจึงมีจุดหลบซ่อนให้ทหารหลายแห่ง แต่ด้วยตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่เป็นเกาะทำให้มีโอกาสน้อยที่จะบุกรุกออสเตรเลียได้
9. สวิสเซอร์แลนด์
มีทหารกว่า 100,000 คน และทหารสำรองอีก 77,000 คน มีรถถัง 224 คัน และปืนใหญ่อีก 224 อัน รวมถึงเครื่องบินรบ 63 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 43 ลำ
แม้สวิสเซอร์แลนด์จะเป็นกลาง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีฐานที่มั่นในการป้องกัน ด้วยความที่ประเทศเป็นภูเขาดังนั้นทางรัฐบาลจึงสร้างแผนป้องกันที่เรียกว่า Swiss National Redoubt ในปี 1880 เป็นป้อมปราการและฐานที่มั่นบนแนวภูเขาและมันช่วยปกป้องประเทศจากการบุกรุกมาตลอดศตวรรษที่ 20
นอกจากนี้ระชาชนในประเทศนับล้านยังได้รับการฝึกทางทหารและสามารถมีอาวุธไว้ครอบครองได้หลังจากการฝึกเสร็จสิ้น และคนเหล่านี้พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศตัวเองอยู่เสมอ
8. ตูวาลู นิวซีแลนด์ ไอซ์แลนด์ และภูฏาน
ทั้ง 4 ประเทศไม่ได้มีการป้องกันหนาแน่นหรือหน่วยทหารจำนวนมากที่จะสามารถป้องกันการบุกรุกของต่างประเทศได้ เพียงแต่ว่าประเทศทั้ง 4 เป็นประเทศที่ไม่มีประโยชน์ที่จะบุกรุกมากกว่า
7. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีทหารกว่า 250,000 คน และทหารสำรองอีกกว่า 42,000 คน ทั้งยังมีรถถังอีก 777 ลำ ปืนใหญ่อีก 839 รวมทั้งเครื่องบินรบ 289 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 741 ลำ และเรือรบอีก 131 ลำ เรือดำน้ำ 17 ลำ และเรือบรรทุกสินค้ากว่า 3 ลำ
การที่ประเทศเป็นเกาะทำให้ญี่ปุ่นมีการป้องกันที่น่าทึ่ง นอกจากจะมีกองทัพขนาดใหญ่แล้ว ยังมีเศรษฐกิจที่ทรงพลัง ทั้งกกองทัพอากาศของญี่ปุ่นยังติดอันดับ 5 ของโลกอีกด้วย
6. อิหร่าน
มีทหารประจำการ 545,000 คน และมีทหารสำรองอีก 1,800,000 คน รถถังอีก 1,658 คัน และปืนใหญ่ 2,400 เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ 140 ลำ เรือดำน้ำอีก 33 ลำ และเรือรบอีก 398 ลำ ดังนั้นอิหร่านจึงกลายเป็นประเทศที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง
5. แคนาดา
มีทหารประจำการ 95,000 คน และทหารสำรองอีก 51,000 คน มีรถถัง 181 คัน และปืนใหญ่ 161 เครื่องบินรบ 63 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 175 ลำ และเรือดำน้ำอีก 4 ลำ
แคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ดังนั้นทำให้ยากต่อการบุกรุกมาก ทั้งยังมีธรรมชาติที่ยากต่อการบุกรุกอีกด้วยทำให้การโจมตีเป็นไปได้ยาก
4. เกาหลีเหนือ
มีทหารประจำการกว่า 700,000 คน และทหารสำรองอีก 4,500,000 คน รถถัง 4,200 คัน และปืนใหญ่ 6,550 เครื่องบินรบ 458 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 222 ลำ เรือดำน้ำอีก 70 ลำ และทหารเรืออีกกว่า 967 คน นอกจากนี้ยังมีขีปนาวุธนิวเคลียร์กว่า 8 ขีปนาวุธ
ในยุค 50 ช่วงสงครามเกาหลีทาสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้พยายามจะบุกเากหลีเหนือ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
3. อังกฤษ
มีทหารประจำการ 150,000 คน และทหารสำรอง 182,000 คน รถถังและปืนใหญ่อีก 227 เครื่องบินรบ 91 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 397 ลำ และขีปนาวุธนิวเคลียร์กว่า 215 ขีปนาวุธ แต่ด้วยความที่อังกฤษเป็นเกะาทำให้ยากต่อการบุกรุกได้
2. รัสเซีย
มีทหารประจำการ 766,000 คนและทหารสำรองอีก 2,485,000 คน ทั้งยังมีรถถัง 15,400 คัน และปืนใหญ่ 10,600 เครื่องบินรบอีก 751 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 1,750 ลำ เรือรบ 352 ลำ เรือดำน้ำ 60 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ ทั้งรัสเซียยังมีขีปนาวุธนิวเคลียร์อีก 7,300 ขีปนาวุธ
แต่ด้วยความที่รัสเซียมีพื้นที่ประเทศกว้างใหญ่มาก ทั้งยังมีฤดูหนาวที่เลวร้ายมากอีกด้วย ดังนั้นจึงได้เปรียบมากทำให้การบุกรุกโจมตีจากต่าประเทศเป็นไปได้ยาก
1. สหรัฐอเมริกา
มีทหารประจำการ 1,400,000 คน และทหารสำรองอีก 1,100,000 คน รถถัง 8,850 คัน เครื่องบินรบ 2,300 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 7,100 ลำ เรือดำน้ำ 75 ลำ ทั้งยังมีหัวรบนิวเคลียนร์อีกกว่า 7,100 หัว และในแต่ละปีรัฐบาลจะจัดสรรเงินกว่า 581 ล้านเหรียญสำหรับทหาร