เรื่องราวชีวิตน่าทึ่งของ "พิลิ ฮุสเซน" หญิงชาวแทนซาเนียที่ต้องเผชิญความยากลำบากถึงขั้นต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปทำงานหนักๆ ในเหมืองแลกกับเงิน สุดท้ายชีวิตกลับได้ดีจนน่าชื่นชม
เธอเปิดเผยว่า เธอโตขึ้นมาในครอบครัวใหญ่ ซึ่งพ่อมีภรรยาถึง 6 คน และลูกอีกกว่า 38 คนเลยทีเดียว ด้วยความที่ครอบครัวยากจนเธอจึงถูกเลี้ยงดูให้ทำงานหนักเหมือนผู้ชาย ทั้งยังต้องแต่งงานกับสามีที่ชอบทำร้ายร่างกายอีกด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหนีไปอยู่ที่เมืองเชิงเขาคิลิมันจาโร
ที่นั่นเป็นเหมืองแทนซาไนต์แห่งเดียวของโลก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปทำงานเป็น เนื่องจากมันเป็นเหมืองใต้ดิน ทั้งแทนซาไนต์ยังเป็นอัญมณีที่หายากกว่าเพชรถึง 1 พันเท่าแต่กลับมีราคาดีมาก ดังนั้นคนงานเหมืองจึงรับแต่ผู้ชายเพราะต้องใช้แรงงานหนักมาก
หลังจากที่หนีมายังเมืองนี้เธอก็ไม่มีทางเลือกในการหารายได้ จึงปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปทำงานในเหมืองที่มีแต่ผู้ชายล้วน โดยเธอสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่ วางท่าทางห้าวๆ พูดจาโวยวาย พกมีดเล่มใหญ่ติดตัว และเปลี่ยนชื่ออีกด้วย
เธอเปิดเผยว่า งานในเหมืองนั้นยากลำบากมาก มันเป็นเหมืองใต้ดินจึงร้อนอบอ้าวและมืดมาก แถมเธอต้องทำงานในเหมืองนาน 10 - 12 ชั่วโมง/วัน ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือเธอทำงานไปตามปกติโดยไม่มีใครรู้หรือจับได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิง ทั้งทุกคนยังสนิทกับเธอจนเรียกเธอว่าลุงฮุสเซนอีกด้วย
แต่หลังจากทำงานในเหมืองมานาน 10 ปีเธอก็ต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง หลังจากมีคนกล่าวหาว่าเธอก่อเหตุข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งจนเธอถูกตำรวจจับ ดังนั้นเธอต้องแสดงเปิดเผยตัวตนอย่างไม่มีทางเลือก
แต่หลังความจริงเปิดเผยทุกคนในเหมืองก็ถึงกับอึ้งเลย และแทบไม่มีใครอยากจะเชื่อเลยว่าลุงฮุสเซนที่พวกเขารู้จักนั้นแท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง จนเธอตัดสินใจแต่งงานใหม่และมีลูกสาวหลายคนจึงพากันเชื่อ
หลังจากความจริงเปิดเผยเธอก็เลิกทำงานในเหมือง แต่มันก้ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนแต่อย่างใด เพราะหลังจากทำงานในเหมืองมาเป็นเวลานานเธอก็สามารถสร้างฐานะและสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัวได้ ทั้งเธอยังหาวิธีหาเงินใหม่ด้วยการซื้อเครื่องมือทำเหมืองมาเปิดธุรกิจจ้างคนงานมาขุดหาแร่แทนจนกลายเป็นเศรษฐี