ปัจจุบันเด็กไทยระดับมัธยมสามารถออกแบบและสร้างเครื่องบินได้แล้ว นับเป็นเครื่องบินลำแรกของประเทศไทยซึ่งสามารถใช้งานจริงได้ ภายใต้โครงการวิศวกรรมการออกแบบและสร้างเครื่องบิน Cozy Mark IV Thailand (โคซี่ มาร์ค โฟร์) ของ สวทช.
Cozy Mark IV Thailand เป็นเครื่องบินชนิด Composite (คอมโพสิท) 4 ที่นั่งสร้างสรรค์ภายใต้โครงการวิศวกรรมการออกแบบและสร้างเครื่องบิน Cozy Mark IV Thailand ของ สวทช.ที่ดำเนินการต่อเนื่องมากกว่า 7 ปี โดยมี ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช. ผศ.ปราโมทย์ อนันต์วราพงษ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.กรุงเทพ และ ดร.สวัสดิ์ ตันติพันธุ์วดี ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการบิน กำกับดูแลและควบคุมโครงการฯ
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า “สวทช. สนับสนุนการสร้างความรู้และความตระหนักในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อต่อยอดให้เกิดผลงานการออกแบบและวิศวกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวไทยของไทย
ซึ่งวิศวกรรมศาสตร์ เป็นศาสตร์หนึ่งที่เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามเด็กไทยโดยเฉพาะระดับชั้นมัธยมศึกษา ได้รับการพัฒนาในสาขานี้ไม่มากนัก ประกอบกับยังขาดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในโรงเรียนที่ให้ความรู้และคำแนะนำ ส่งเสริมให้มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์จนเกิดนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม
จากความสำคัญดังกล่าว สวทช. ได้จัดทำโครงการวิศวกรรมออกแบบและสร้างเครื่องบิน Cozy Mark IV Thailand กิจกรรมหนึ่งในพันธกิจพัฒนากำลังคน เพื่อพัฒนาทักษะทางวิศวกรรมให้กับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา โดยการแนะนำและควบคุมของผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการบิน ได้แก่ ดร.สวัสดิ์ ตันติพันธุ์วดี ด้วย สวทช. ตระหนักดีว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพสูงพอที่จะสร้างเครื่องบินได้ หากได้รับการดูแลให้คำแนะนำที่ถูกต้อง และมีการควบคุมการทำงานอย่างใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญ
ใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการต่อเนื่องมากว่า 7 ปี มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพื่อฝึกทักษะวิศวกรรมที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สวทช. จำนวนถึง 3,105 คน โดยนักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างอากาศยานที่สามารถโดยสารได้จริงตั้งแต่การสร้างส่วนโครงลำตัวเครื่อง การติดตั้งระบบเครื่องยนต์ และการวางระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์
เครื่องบิน Cozy Mark IV ชนิด Composite 4 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์ 360 แรงม้า สามารถรับน้ำหนักได้มากที่สุด 2,050 ปอนด์ ประกอบด้วยวัสดุ composite (คือ วัสดุที่ประกอบด้วยการรวมวัสดุมากกว่า 2 ประเภทเข้าด้วยกัน) โดยโครงการดำเนินการจนถึงขั้นเตรียมพร้อมนำไปทดสอบใช้งานจริง ได้แก่ ระบบน้ำมันเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าเครื่องยนต์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และทดสอบเครื่องยนต์พร้อมใบพัด รวมทั้งได้ทำการ taxi (ขับจริงบนถนน) แล้ว ที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
นับเป็นเครื่องบินลำแรกของไทยที่ประกอบโดยเยาวชนไทยและใช้งานจริงได้ และเพื่อให้เครื่องบิน Cozy Mark IV มีการนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพได้นำเครื่องบินดังกล่าวไปใช้ในการเรียนการสอนในหลักสูตรฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน ภาควิชาวิศวกรรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพด้วย” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว
ด้าน ดร.สาธิต พุทธชัยยงค์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยนักปฏิบัติแห่งหนึ่งของเมืองไทยที่มีความเข้มแข็งในความเป็นช่าง และเคยมีพื้นฐานเปิดการเรียนการสอนด้านอากาศยานมาแล้ว จึงได้เล็งเห็นช่องทางที่จะสร้างคน สร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินที่กำลังเคลื่อนเข้ามาสู่ภูมิภาคแห่งนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมซ่อมบำรุงอากาศยาน
เพื่อพัฒนาและจัดการเรียนการสอนด้านอากาศยานที่ได้มาตรฐานในระดับสากล และยกระดับการศึกษาด้านอากาศยานของประเทศ ให้ตอบโจทย์ความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมของประเทศ และยังนับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทยด้วย โดยมีการดำเนินการหลักสูตรฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน มาตรฐาน EASA Part 66 ( CAT B1.1 และ CAT B2) เปิดสอนในรูปแบบของการฝึกอบรม โดยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร
นอกจากนี้หลักสูตรดังกล่าว ยังเป็นหลักสูตรที่เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การมาตรฐานการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรทางวิชาชีพ (Certificate) สามารถนำไปประกอบอาชีพและต่อยอดเป็นใบอนุญาต (License) ตามมาตรฐาน EASA ได้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มีความสนใจนำเครื่องบิน Cozy Mark IV ไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนในหลักสูตรฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงอากาศยานตามมาตรฐาน EASA PART 66 CAT B1 เพื่อให้นักเรียนสามารถฝึกปฏิบัติตามเนื้อหาบทเรียนในหลักสูตร อาทิ ระบบการทำงานของอากาศยานขนาดเล็ก การฝึกปฏิบัติด้านเครื่องยนต์ชนิดลูกสูบ การฝึกปฏิบัติซ่อมโครงสร้างที่เป็นวัสดุผสม และการฝึกปฏิบัติทางระบบสื่อสารของอากาศยานขนาดเล็ก อีกทั้งยังส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะและเกิดความเคยชินในงานซ่อมอากาศยานขนาดเล็กซึ่งนับว่าเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานเพื่อนำไปสู่การซ่อมบำรุงอากาศยานขนาดใหญ่” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กล่าว
ขอบคุณที่มา: http://www.thaiquote.org/content/13876