วันนี้ผมอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกับ 8 ประเทศที่น่าไปเที่ยวชม ให้ได้รู้จักกัน ซึ่งหลายคนยังไม่รู้จักหรืออาจจะรู้จัก แต่ก็ยังไม่ทราบดีว่ามันมีอะไรน่าเที่ยวน่าชมบ้าง เพราะฉะนั้นตามไปชมพร้อมๆกันเลยครับ!!

8.) สาธารณรัฐรวันดา – หลายปีมาแล้วได้มีเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดาเกิดขึ้น ซึ่งรวันดาเป็นประเทศเล็กๆในทวีปอัฟริกา…

แต่กระนั้นก็ตาม รวันดายังเป็นสภาพที่มีสภาพแวดล้อมที่เขียวชอุ่มเต็มไปด้วยธรรมชาติ ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งภูเขาพันลูก” อีกทั้งยังมีทะเลสาบที่งดงามรับเข้ากับทัศนียภาพของป่าและหุบเขาได้อย่างดีเลยทีเดียว

7.) บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา – สองประเทศนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป แต่เดิมเป็นหนึ่งในหกรัฐภายใต้ยูโกสลาเวีย ปัจจุบันได้รับเอกราชแล้ว แต่ยังคงเหลือร่องรอยจากสงครามครั้งนั้นอยู่ ทำให้ต้องฟื้นฟูประเทศจนถึงทุกวันนี้

แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของสองที่นี้คงไม่พ้นภูเขาที่สวยงามกับร้านกาแฟในกรุงซาราเยโวที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวากับป้อมปราการโบราณ พร้อมด้วยการเที่ยวล่องเรือคายัก ล่องแก่ง หรือปีนเขา ชมโบสถ์คริสต์และมัสยิด อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าของเมืองอยู่อีกมากมาย

6.) สาธารณรัฐสโลวาเกีย – สโลวักหรือสโลวาเกียตั้งอยู่ทางตอนกลางของทวีปยุโรป มีเมืองหลวง คือ กรุงบราติสลาวา… ซึ่งทางไปสโลวาเกียนั้นผ่านยอดเขา อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ แม่น้ำ หรือลานที่เล่นสกี เรียกได้ว่าเป็นเมืองของธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะผสมผสานกันในแบบ Gothic และ vintage country

ปัจจุบัน สโลวาเกียได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป ทำให้มีนักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักและมาเยือนมหานครนี้มากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับสโลวักแห่งนี้ในการเป็นเมืองท่องเที่ยวเลยทีเดียว

5.) สาธารณรัฐโบลิเวีย - ประเทศใจกลางทวีปอเมริกาใต้ที่ปิดกั้นไม่มีทางออกสู่ทะเล ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและได้รับขนานนามว่า “ทิเบตแห่งอเมริกาใต้” เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในอเมริกา แต่กลับเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างป่าไม้และน้ำมัน รวมถึงแร่ต่างๆ อย่างเงิน ดีบุก กำมะถัน ตะกั่ว วุลเฟรม

โดยเมืองหลวงของโบลิเวียนั้นมีด้วยกันถึง 2 แห่ง คือ เมืองหลวงขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย “ซูเกร” กับอีกเมืองที่เป็นศูนย์กลางการปกครองอย่าง “ลาปาซ” และถ้าจะหาทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก คงไม่พ้น Salar de Uyuni แห่งโบลิเวียแน่นอน

4.) สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ – หมู่เกาะมาร์แชลล์ตั้งอยู่ในโฮโนลูลู เป็นรัฐอิสระ ซึ่งมาร์แชลล์มีพื้นที่ครอบคลุมเขตปะการังกว่า 1 ล้านตารางไมล์ ล้อมด้วยทะเลสีฟ้าเข้ม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความโดดเด่นและแปลกตาเป็นอย่างมาก เมืองหลวงคือมาจูโร ประกอบด้วยเกาะอีกราวๆ 64 เกาะ

3.) เลบานอน – ประเทศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งทะเลของชาวฟินีเซียและโรมัน ถึงแม้จะเคยตกอยู่ใต้อำนาจของฝรั่งเศสมากว่า 25 ปี แต่เลบานอน.. ก็ยังคงความงามอยู่เหมือนเดิม อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เหมาะกับการทำกิจกรรมกับครอบครัวตามฤดูต่างๆ อย่างมาก และไหนจะได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งอีกด้วย

2.) เกาหลีเหนือ – หนึ่งในไม่กี่ประเทศที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยือนได้ยากมากที่สุด… โดยการจะไปเที่ยวที่เกาหลีเหนือนั้นจะต้องไปกับบริษัททัวร์ที่ได้รับอนุญาตจากทางการเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อย่างเช่น ที่ทำสงคราม หรือสุสานราชวงศ์

แม้ว่าดูจากภายนอกแล้วอาจจะดูน่ากลัวที่จะเที่ยวเยือนที่ประเทศนี้ แต่หากลองได้ไปซักครั้ง คุณอาจจะพบเจออะไรแปลกใหม่ไม่แพ้กับการไปเกาหลีใต้ก็เป็นได้

1.) มาดากัสการ์ – เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลกเป็นแหล่งกำเนิดสัตว์และพืชแปลกๆ ถึง 5% ของโลก โดยเฉพาะเจ้าถิ่นที่รู้จักกันดีอย่างตัวลีเมอร์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของกิ้งก่าคาร์เมเลียน รวมถึงเคยเป็นที่อยู่ของนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างนกช้างอีกด้วย ที่สำคัญอีกจุดหนึ่งทางประวัติศาสตร์นั้น มาดากัสการ์ยังเป็นศูนย์รวมเรื่องเล่าตำนานโจรสลัดอยู่อีกมากมายย

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับทั้ง 8 ประเทศที่นำมาให้ชมกันวันนี้… เชื่อว่าหลายคนพอได้อ่านแล้ว คงนึกคิดอยากจะไปลองเที่ยวเลยใช่ไหมล่ะ!

ขอบคุณที่มา:http://www.wegointer.com/2014/02/พาชม-7-สุดยอดประเทศน่าเท/