อายุกับการออกกำลัง

อายุกับการออกกำลัง โดย นายแพทย์อวย เกตุสิงห์

          เด็กต้องกินยาอย่างเด็ก ผู้ใหญ่ต้องกินยาอย่างผู้ใหญ่  คนแก่ต้องกินยาอย่างคนแก่   ทั้งนี้เพราะสภาพร่างกายแตกต่างกันไปตามวัย   เพราะเหตุผลอย่างเดียวกัน  การออกกำลังกายก็ต้องเหมาะกับวัย   มิฉะนั้นอาจเกิดโทษ   กล่าวโดยสังเขปการออกกำลังสำหรับคนวัยต่างๆ ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

 



วัยเด็ก
วัยหนุ่มสาว (อายุ ๑๘-๒๕ ปี)
วัยผู้ใหญ่หรือวัยฉกรรจ์ (อายุ ๒๖-๓๕ หรือ ๔๐ ปี)
วัยกลางคน (อายุ ๓๕ หรือ ๔๐-๕๕ ปี)
วัยสูงอายุ (อายุ ๕๕ ปีขึ้นไป)
วัยเด็ก

          เด็กๆ  ก่อนวัยอนุบาลควรปล่อยให้เล่นตามใจชอบ  การวิ่ง  กระโดด ปีนป่ายเป็นวิธีของธรรมชาติสำหรับส่งเสริมการเติบโต ผู้ใหญ่คอยแต่ระวังป้องกันอันตราย  เด็กที่ไม่ชอบเล่นควรกระตุ้นและชักจูงให้ออกกำลังบ่อยๆ จนเปลี่ยนนิสัยได้
          ในวัยอนุบาลเด็กๆ ควรหัดท่ากายบริหารง่ายๆ อาจจัดในรูปของการฟ้อนรำหรือการเล่นสนุก   การปีนป่ายเป็นเรื่องของธรรมชาติและมีประโยชน์  ควรระวังเพียงไม่ให้กระทำอย่างเสี่ยงอันตราย  การออกกำลังหนักยังไม่ควรให้ทำเพราะหัวใจยังเจริญไม่เต็มที่  ควรปล่อยให้วิ่งเล่นตามใจโดยไม่พยายามบีบบังคับ  การพักผ่อนภายหลังเล่นควรจะกำหนดให้พอเพียงเสมอ
          เด็กในวัยประถม (อายุ ๗-๑๒ ปี)  ควรมีเวลาเรียนพลศึกษาสัปดาห์ละ   ๒-๓   ชั่วโมง  และเล่นกีฬาที่ยากขึ้นเป็นลำดับ  ให้เหมาะกับสภาพของสมองและร่างกาย   การวิ่งและกระโดดช่วยเสริมการเติบโตและทำให้ความอดทนดีขึ้นเรื่อยๆ ในวัยนี้ยังไม่ต้องแยกเด็กชายกับเด็กหญิง  แต่ต้องระวังการเล่นหนักเกินไปและต้องแน่ใจว่าได้รับอาหารและการพักผ่อนเพียงพอ
          เด็กในวัยมัธยม  (อายุ  ๑๓ ปีขึ้นไป) ควรแยกระหว่างหญิงกับชาย  เพราะความแตกต่างระหว่างเพศเริ่มปรากฏชัดเจน เด็กหญิงควรให้เล่นกีฬาที่ส่งเสริมทรวดทรงให้สวยงาม  การเคลื่อนไหวนุ่มนวลชดช้อยนาฎศิลป์ (ซึ่งเป็นการออกกำลังแบบหนึ่ง)  ของไทยเรามีประโยชน์ในเรื่องนี้ไม่แพ้การเต้นรำปลายเท้าหรือบัลเล่ต์ของฝรั่ง กีฬาของเด็กชายบางอย่างก็ใช้ได้สำหรับเด็กหญิง  แต่บางอย่างก็ไม่เหมาะสม  เช่น ตะกร้อฟุตบอล ซึ่งนอกจากไม่เหมาะในเรื่องความงดงามทางจิตใจแล้ว  ยังอาจทำอันตรายต่อสุขภาพด้วย  สำหรับเด็กชายในวัยนี้กล่าวโดยสรุปว่าเล่นได้เหมือนผู้ใหญ่เว้นแต่ ต้องลดความหนักและรุนแรงลงบ้าง  ต้องระวังการตกจากที่สูงและหกล้มรุนแรง เพราะอาจทำอันตรายต่อแนวงอกของกระดูก ทำให้การเติบโตชะงักงัน

 
เด็กวัยอนุบาลเล่นสนุกปีนป่าย 
 


 
วัยหนุ่มสาว (อายุ ๑๘-๒๕ ปี)

          ระยะนี้เป็นเวลาที่สมรรถภาพทางกายดีที่สุด  การออกกำลังกายจะใช้วิธีใดก็ได้ทั้งนั้น แต่พึงระวังไม่ให้หนักหรือมากเกินสมควร  ในปัจจุบันนี้มีความโน้มเอียงที่ผู้หญิงจะทำตนเสมอกับผู้ชาย  ในเรื่องอื่นๆ เป็นการสมควรอยู่  แต่ในเรื่องการกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นการไม่สมควรเพราะธรรมชาติสร้างผู้หญิงมาเป็น "แม่" มีความอ่อนหวานนุ่มนวล  จิตใจอ่อนโยน  ส่วนผู้ชายนั้นเป็น "พ่อ" ผู้ต้องหาอาหารและปกป้องครอบครัว  ร่างกายบึกบึนและมีจิตใจเข้มแข็ง องอาจ การที่ผู้หญิงจะเล่นกีฬาเหมือนผู้ชายไปเสียทั้งหมด   นอกจากขัดกับประเพณีนิยม  ยังอาจมีผลร้ายต่อร่างกายเนื่องจากความรุนแรง  ความหนัก หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะและผลทางใจอีกด้วย
 
 
วัยผู้ใหญ่หรือวัยฉกรรจ์ (อายุ ๒๖-๓๕ หรือ ๔๐ ปี)

          ในครึ่งระยะเวลาแรกร่างกายกำลังแข็งแกร่งเต็มที่  พ้นจากนั้นแล้วก็เริ่มเสื่อม ในระยะแข็งแกร่งจะเล่นกีฬาอะไรก็ได้  รวมทั้งกีฬาแข่งขันต่างๆ แต่ใน ระยะหลังต้องลดความหนักลงและงดการแข่งขันในประเภทหนักมากๆ
วัยกลางคน (อายุ ๓๕ หรือ ๔๐-๕๕ ปี)

          ในวัยนี้กำลังความคิดขึ้นสูงเต็มที่  แต่กำลังกายและสมรรถภาพทางกายลดลงเรื่อยๆ ผู้ที่เคยออกกำลังมาก่อนแล้วพึงระลึกถึงความจริงข้อนี้ มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายเนื่องจากออกกำลังหนักเกินไป เพราะคิดว่ายังแข็งแรงเช่นแต่ก่อน

 
วัยสูงอายุ (อายุ ๕๕ ปีขึ้นไป)

          เมื่ออายุย่างเข้าขั้นนี้ความตกต่ำของร่างกายมักปรากฏชัดเจน  แต่ก็ยังออกกำลังได้ และจำเป็นต้องออกกำลัง  เพื่อรักษาสภาพและ  "ชะลอชรา" การออกกำลังและการกีฬาของคนปูนนี้จำเป็นต้องกำหนดเป็นพิเศษ  ให้เหมาะกับความเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิดขึ้นในร่างกาย มีข้อที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ
          (๑) หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่มีการแบ่งหรือออกแรงหนักอย่างกะทันหัน  เช่น ยกน้ำหนัก กระโดด  ฯลฯ
          (๒) หลีกเลี่ยงการแข่งขันแม้แต่ฉันมิตร  (ยกเว้นผู้ที่เคยแข่งขันติดต่อมาตั้งแต่ยังหนุ่ม)
          (๓) หลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องใช้ความเร็วสูง
          (๔) หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่หนักและติดต่อไปเป็นเวลานาน
 

Credit: http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=116119.0
8 ก.ค. 53 เวลา 18:23 6,409 34 262
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...