สอบทฤษฎี
- ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้เตรียมทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน รูป 2 ใบ และใบรับรองแพทย์ ไปยื่นคำร้องที่กรมขนส่งใกล้บ้าน
- จากนั้นไปทดสอบตาบอดสีจากเครื่องทดสอบหรือแผ่นภาพ โดยอยู่ห่างในระดับสายตาประมาณ 3 เมตรและให้อ่านแต่ละสีไม่เกิน 3 ครั้ง ถ้าไม่ผ่าน ก็สามารถแก้ตัวใหม่ในวันนั้น หรือวันทำการถัดไป
- ต่อด้วยเข้ารับการอบรมกฎจราจรประมาณ 2.5 ชม. (มี 2 รอบ 08.30 น. และ 13.30 น.) ซึ่งทุกคนต้องผ่านการอบรมนี้ ตามด้วยสอบข้อเขียน ที่มีทั้งหมด 30 ข้อ ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 22 คะแนน จึงจะถือว่าสอบผ่าน
สอบปฏิบัติ (สามารถนำรถไปเองหรือไปเช่าสอบก็ได้) โดยเริ่มสอบจาก
- การเดินหน้า/ถอยหลังเข้าซอง โดยท้ายรถต้องตั้งฉากกับขอบทาง ล้อต้องไม่ทับเส้นการจอดเทียบฟุตบาทต้องห่างไม่เกิน 25 ซม.การสอบหยุดรถไม่ทับ และห้ามเกิน 1 เมตรหลังเส้นให้หยุดการกลับรถในช่องเดินรถ ที่มีหลักตั้งขนานกัน 2 แถว โดยต้องกลับรถไม่ชน หรือ เบียดหลัก (ไม่เปลี่ยนเกียร์เกินกว่า 7 ครั้ง)
- การหยุดและออกรถบนทางลาด ให้ขับที่ความเร็ว 20-30 กม./ชม. แล้วหยุดในแนวเส้นที่กำหนด ต้องไม่ล้ำหรือต่ำเกินกว่า 1 เมตร
- การหยุดรถและออกรถบนเนิน ต้องขับรถบนเนินหรือสะพานโค้ง แล้วหยุดรถบนเชิงลาดของเนินให้กันชนหน้าอยู่ระหว่าง กึ่งกลางเนิน แล้วออกรถข้ามเนินอย่างปลอดภัย (เครื่องยนต์ต้องไม่ดับเกิน 2 ครั้ง)
- การขับรถตามเครื่องหมายจราจรไม่น้อยกว่า 5 ป้ายเครื่องหมายโดยใช้สัญญาณไฟ หรือสัญญาณมือ ทั้งต้องปฏิบัติตาม เครื่องหมายจราจรบนผิวถนนด้วย
- โดยการทดสอบขับรถทุกชนิดให้ทดสอบเพียง 3 ข้อ จาก 7 ข้อ (ตามความเหมาะสมของสนามทดสอบ) หากมีจุดใดไม่ผ่านต้องมาสอบใหม่วันอื่น และเมื่อสอบผ่านจะได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 1 ปี จากนั้นจึงขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลมีกำหนด 1 ปี เมื่อครบกำหนดจึงขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถชนิดตลอดชีพได้ หากขาดอายุเกิน 1 ปี ท่านจะต้องทดสอบสายตาบอดสี และข้อเขียนใหม่ หากขาดอายุเกิน 3 ปี จะต้องทำการทดสอบใหม่ทั้งหมด