นี่เป็นเหมืองแร่ทองคำในแคลิฟอร์เนียที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นยุคทองของเมืองนี้ มันเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งธุรกิจ มีบ้านคนเกือบ 10,000 คน มีร้านอาหาร โรงแรม และลานโบว์ลิ่ง แต่แล้ววันหนึ่งมันกลับถูกปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 100 ปี
เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1860 หลังจากชายคนหนึ่งตั้งใจจะขุดหาทองคำที่นั่น และพบว่ามีถ้ำที่มีทองฝังอยู่ภายในมากมาย หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาขุดทองกลายและกลายเป็นเมืองที่เฟื่องฟู
แต่แล้วในปี 1882 ก็เกิดเหตุไฟไหม้ขนาดใหญ่ขึ้น และหลังจากนั้นมาในปี 1900 จากที่เมืองแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่เกือบ 10,000 คน กลับเหลือเพียงแค่ 700 คนเท่านั้น หลายคนทิ้งบ้านและที่ดินแล้วจากไปจากเมืองนี้ ทองคำที่เคยขุดขึ้นมาได้จำนวนมากก็ร่อยหรอและถูกนำไปใช้จนหมด จากนั้นเมืองก้ไม่ได้ทำเหมืองแร่อีกต่อไป ทั้งหลังจากเหตุไฟไหม้ยังมีการปิดระบบขนส่งทั้งหมดอีกด้วย
ในเมืองนี้มีอาคารเกือบ 170 แห่ง ถือว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่เลยทีเดียว แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น จากเมืองที่มีสีสัน ตอนนี้กลายเป็นเมืองผีที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แถมยังไม่มีคนกล้าเข้าไปอีกด้วย
และหลังจากที่ช่างภายเข้าไปถ่ายภาพในเมืองเขาก็พบว่า ข้าวของภายในบ้านและอาคารยังคงอยู่ที่เดิม ไม่มีใครกล้าย้ายข้าวของไปไหนเลยเพราะเชื่อว่าจะถูกสาปแช่ง
เล่ากันว่ามีหลายคนพบเห็นสิ่งแปลกประหลาดลี้ลับในเมืองนี้ บางคนเจอวิญญาณสองตัวเดินไปทั่วเมือง นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่ามีผีของหญิงชาวจีนที่เคยถูกสังหารอยู่ในเมือง และบางคนก็เล่าว่าเคยเห็นร่างของผีเด็กที่โปร่งใสจนเดินทะลุได้
ส่วนสาเหตุที่เมืองนี้ถูกปล่อยทิ้งร้างน่าจะเป็นเพราะเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นกลางเมือง นั่นทำให้ประชาชนในเมืองส่วนใหญ่จากเมืองนี้ไปโดยไม่เก็บข้าวของเลย
แต่เมืองนี้มีผีไหม ไม่มีใครรู้คำตอบที่แน่นอนได้นอกจากจะเจอกับตัว แต่ที่แน่ๆ มันเป็นเมืองผีเพราะไม่มีคนอาศัยอยู่เลย...!!