ตีแผ่ด้วยภาพสะท้อนความจริง ที่เกิดขึ้นเมื่อเธอผู้นี้เป็นโรค ‘คลั่งผอม’ ขั้นรุนแรง

https://www.meekhao.com/art/anorexia-illustrations

บางครั้งคำพูดก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นหรืออยู่ภายในจิตใจของเราออกมาได้ ศิลปินหญิงคนหนึ่งจึงได้ใช้ภาพวาดช่วยบอกเล่าประสบการณ์การป่วยด้วยโรคการกินผิดปกติของตนเอง

Christie Begnell คือนักวาดภาพสาววัย 24 ปี ที่เคยป่วยด้วยโรคอะนอเร็กเซียหรือโรคกลัวอ้วนอย่างรุนแรงมาก่อน เธอจึงนำประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นมาเผยแพร่เป็นผลงานภาพวาดที่ช่วยสะท้อนความรู้สึกต่างๆ ออกมาได้อย่างชัดเจน

หลังจากผ่านมรสุมชีวิตในหลายด้านมาอย่างหนัก คริสตีก็เริ่มรู้ตัวว่าเธอป่วยด้วยโรคอะนอเร็กเซีย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอเครียด หดหู่ และคิดมากจนเกือบจะฆ่าตัวตาย จากเดิมที่เธอแค่กินอาหารอร่อยๆ เพื่อคลายเครียด ต่อมาเธอก็รู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดอาหาร และเกลียดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาเพียงไม่กี่กิโลกรัม

เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และช่วยให้คนทั่วไปเข้าใจอาการของผู้ป่วยโรคการกินผิดปกติมากขึ้น ครีสตีจึงได้วาดภาพชุด Me and My ED ขึ้นมา

ในภาพวาดของเธอ คริสตีได้สร้างตัวละครสะท้อนภาวะโรคกลัวอ้วนขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Anna

เธอบอกว่าแอนนานั้นไม่ใช่ตัวเธอ แต่เป็นสิ่งที่ควบคุมเธอจากภายในให้ลงมือทำสิ่งต่างๆ แอนนามีแนวความคิด ความต้องการ และแรงจูงใจที่แตกต่างออกไป สิ่งเดียวที่แอนนาสนใจก็คือการลดความอ้วนให้ได้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพร่างกายหรือจิตใจของครีสตีเลย

“กุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาก็คือเราต้องไม่ปล่อยให้มันค้างคาอยู่ในนั้น เราต้องกล้าที่จะเล่ามันออกมาและขอความช่วยเหลือ แล้วความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นก็จะหายไป”

การฟื้นฟูตนเองจากโรคกลัวอ้วนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทุกครั้งที่น้ำหนักของเธอกลับสู่ภาวะปกติ คริสตีก็จะรู้สึกล้มเหลวจนเริ่มกลับไปปฏิบัติตัวเหมือนเดิมอีกครั้ง

วิธีรักษาก็คือต้องปรับสภาวะจิตใจของผู้ป่วยไปพร้อมๆ กับการรับประทานอาหารให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือความเข้าใจและกำลังใจจากคนรอบข้างนั่นเอง

สิ่งที่เธอได้กลับคืนมาไม่ใช่แค่รูปร่างที่สมส่วนและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่เธอยังได้เปลี่ยนแนวความคิด เพิ่มความมั่นใจ และสามารถมีความสุขได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้เธอยังสดใส เข้มแข็ง และมีพลัง จนสามารถกลับไปสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ได้อีกมากมาย

ที่มา: BuzzFeed

Credit: ที่มา: BuzzFeed
30 มี.ค. 60 เวลา 06:18 2,726
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...