ครบวงจรเรื่องโค ที่ คาวบอยแลนด์

 


ฝูงโคแทะ เล็มหญ้าอยู่ในทุ่งกว้าง

   
มอ..มอ..มอ เสียงร้องของเจ้าวัวดังมาแต่ไกลกระทบโซนประสาทของฉัน เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยว่ายินดีต้อนรับการมาเยือน "คาวบอยแลนด์" ดิน แดนแห่งผองวัว โดยคาวบอยแลนด์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน "มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน" จังหวัดนครปฐม

 

ภายในพื้นที่อันกว้าง ใหญ่และทุ่งหญ้าเขียวขจีฉันจะได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าวัวมอมอ ตั้งแต่การกำเนิดสายพันธุ์จนกระทั่งมาเป็นอาหารจานอร่อย โดยมี คุณ วรพงษ์ ว่องกิตติพงษ์ เจ้าหน้าที่ผลิตน้ำเชื้อโคแช่แข็ง เป็นผู้อธิบายรายละเอียดและนำชมกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ แต่ก่อนที่จะได้ทัวร์ดินแดนคาวบอยแห่งนี้ก็ต้องมาทำความรู้จักกับสถานที่กัน ซะก่อน
 



ที่ลานแสดงเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบขนาดตัว ของโคพันธุ์พื้นเมือง
ที่ตัวเล็กกว่าโคพันธุ์ผสม

   

โดย คุณวรพงษ์ ขอท้าวความก่อนว่า จุดเริ่มต้นเริ่มมาจากในมหาวิทยาลัย โดยปี พ.ศ. 2512 ศาสตราจารย์ จรัญ จันทลักษณ์ ได้คิดค้นพัฒนาพันธุ์โคในประเทศไทยขึ้นมา แล้วก็ทดลองมาเรื่อยๆ คือในช่วงแรกได้นำโคพันธุ์อเมริกันบราห์มันจากประเทศอเมริกาเข้ามาผสมกับโค พื้นเมืองในไทย แม้โคอเมริกันบราห์มันจะเป็นโคในเมืองร้อนเหมือนกัน เมื่อผสมกันแล้วได้ลูกที่โครงร่างใหญ่ขึ้นก็จริง แต่ในเรื่องของคุณภาพเนื้อและการเจริญเติบโตยังไม่ดีพอ

 

อาจารย์จึงมองไปว่า ทางยุโรปมีโคเนื้อที่โตไว คุณภาพเนื้อดีอยู่หลายพันธุ์ และมาลงตัวที่โคพันธุ์ชาร์โรเล่ส์ เพราะมีลักษณะเป็นสีขาวซึ่งเป็นที่นิยมของเกษตรกรไทยที่ชอบวัวสีขาว แต่ก่อนหน้านั้นเคยนำโคพันธุ์เฮียร์ฟอร์ดเข้ามาก่อน ซึ่งพวกเรื่องการเจริญเติบโตและคุณภาพของเนื้อใกล้เคียงกันกับพันธุ์ชาร์โร เล่ส์ แต่เฮียร์ฟอร์ดเป็นวัวสีน้ำตาลหน้าขาว พอตอนกลางคืนเห็นแล้วคิดว่าผีหลอก เขาจึงเรียกกันว่าวัวหน้าผี ไม่เป็นที่นิยม ส่วนพันธุ์แองกัสก็เคยนำเข้ามา แต่เป็นวัวสีดำจะมีปัญหาเรื่องของความร้อนที่วัวสีดำจะดูดความร้อนได้เยอะ กว่าวัวสีขาว จึงมาลงตัวที่พันธุ์ชาร์โรเล่ส์



 



การสาธิตการแสดงล้มวัวและการทำหมันวัวตัว ผู้

   

เมื่อตกลงที่พันธุ์ ชาร์โรเล่ส์แล้วก็มาถึงขั้นที่ 2 ว่าจะผสมให้มีระดับสายเลือดเท่าไรจึงจะเหมาะสม โดยรักษาสายเลือดอยู่ที่พันธุ์พื้นเมือง 25% อเมริกันบราห์มัน 25% ชาร์โรเล่ส์ 50% และลองให้เกษตรกรไปเลี้ยงสรุปว่าเจริญเติบโตดี คุณภาพเนื้อดี มีไขมันแทรกซึ่งจะทำให้ความอร่อยของเนื้อมีความหอมและนุ่มเวลาเอาไปย่าง

 

 



โคขุนแผน เจ้าของรางวัลซุปเปอร์แกรนด์แชมเปี้ยนจุดเริ่มต้น
ของคาวบอยแลนด์

   

เมื่อเจ้าขุนแผงได้รับรางวัลกลับมา ทางมหาวิทยาลัยและทางรัฐบาลก็ได้ให้ความสนใจมากขึ้น ในปี พ.ศ.2543 เราจึงได้งบมาสร้าง "คาวบอยแลนด์" เนื่องจากเมื่อเราสร้างพันธุ์ขึ้นมาได้แล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นของการเผยแพร่และทดสอบพันธุ์ คาวบอยแลนด์แห่งนี้จึงถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นที่สาธิตเป็นที่ดูงานที่จัด อบรมให้แก่เกษตรกรเป็นหลัก"


 



คาวบอยแลนด์ ดินแดนแห่งวัวครบวงจร

   

โดย "คาวบอยแลนด์" นี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 150 ไร่ แบ่งเป็นสำนักงานและลานแสดงและประกวดโคเรียกว่า "อารีน่า" ในส่วนนี้นอกจากเราจะได้ฟังการบรรยายเกี่ยวกับโคแล้ว ยังได้ชมการแสดงสาธิตการคล้องโค โดยใช้เชือกผูกเงื่อนเป็นห่วงแล้วก็โยนเชือกเพื่อคล้องโค คล้ายกับที่เราเห็นกันในหนังคาวบอยเลยทีเดียว เมื่อคล้องโคได้แล้วต่อไปเจ้าหน้าที่ก็จะโชว์การล้มโค โดยการล้มโคเป็นการทำให้เจ้าโคลงไปนอนเพื่อเอาเชือกที่คล้องไว้แล้วมามัดขา ทั้งสี่ของเจ้าโคเอาไว้ การล้มโคนี้ทำเพื่อประโยชน์ในหลายทาง เช่น การตัดเขา ตีตรา ฉีดยา การทำหมันโค เป็นต้น

เมื่อชมการแสดงสาธิตต่างๆจบแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินเท้าไปสัมผัสประสบการณ์จริงกับเจ้าโคในคอกทดสอบพันธุ์ คอกเพาะพันธุ์ และคอกทดสอบพันธุ์อีกคอกหนึ่ง โดยเราจะได้ชมการสาธิตการสร้างพันธุ์ การผสมเทียม การทดสอบพันธุ์เพื่อหาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ที่ดี ส่วนพวกที่ทดสอบไม่ผ่านก็จะนำไปขุนเพื่อทำเป็นเนื้อต่อไป เป็นต้น



ฝูงวัวของที่นี่สามารถปล่อยทุ่งได้ตลอดเวลา

   

ซึ่งหากมองไปรอบๆแล้วเราจะเห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเขียว ขจี โดยภายในทุ่งหญ้าสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสมใสนั้นมีฝูงโคหลายสิบตัวแทะ เล็มหญ้าอย่างช้าๆ ดูสบายอารมณ์ บางตัวก็ดูชิลล์ๆนั่งนอนชมวิวใต้เงาต้นไม้ใหญ่ ภาพอันคุ้นตานี้ทำให้ฉันอดย้อนนึกถึงอดีตอันแสนสุขที่บ้านนอกบ้านฉันไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้แทบไม่มีวิวเช่นนี้ให้ได้เห็นกันแล้ว

 

 

คุณวรพงษ์ บอกฉันว่า โคของเราสามารถปล่อยทุ่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้อยู่ตามธรรมชาติ และเราก็จะดูด้วยว่าโคสามารถปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ และอากาศของประเทศไทยได้ นอกจากส่วนต่างๆที่ผ่านมาแล้ว ยังมีส่วนของ "สหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน" เพื่อให้ชมว่าเราเลี้ยงแล้วสุดท้ายเมื่อฆ่าแล้วมันไปอย่างไรต่อ มันแตกต่างจากเนื้อที่อยู่ตามเขียงอย่างไร



สารพันอาหารที่ร้านเท็กซัสสเต็ก

   

โดยที่สหกรณ์นี้ มีห้องตัดแต่งซากโคก่อนไปส่งให้ผู้บริโภค หากใครประสงค์จะซื้อหาเนื้อกลับไปประกอบอาหารก็สามารถเลือกซื้อกันได้ หรือใครที่ต้องการจะกินอาหารที่นี่เลย ในคาวบอยแลนด์แห่งนี้ก็มีร้านอาหารรสชาติดีที่ชื่อ "ร้านเท็กซัส สเต็ก" ไว้บริการด้วย อีกทั้งในดินแดนวัวแห่งนี้ยังมีบริการม้าขี่ของชมรมม้าของนิสิตสำหรับผู้ที่ สนใจ ถ้าขี่เป็นแล้วก็สามารถขี่เองได้เลย หากใครยังขี่ไม่เป็นก็จะมีน้องนิสิตมาคอยดูแลให้สบายใจหายห่วง….มอ มอ

 



โคเนื้อกำแพงแสน โคเนื้อพันธุ์แรกของไทย




"คาวบอยแลนด์"

ตั้ง อยู่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน
จ.นครปฐม

ผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้เรื่องโคหรืออยากเที่ยวชมคาวบอยแลนด์ ต้องแจ้งมาก่อนล่วงหน้า โดยมีอัตราค่าบริการในราคาเหมา 1,500 บาท/กลุ่ม(กี่คนก็ได้)


ส่วนบริการม้าขี่คิดค่าบริการ 120 บาท/ชม.

นอกจากนี้มีรับอบรมการเลี้ยงโคเนื้อ อบรมผสมเทียม และอบรมสุขภาพสัตว์ หากไม่ได้ติดต่อมาล่วงหน้าจะมีกิจกรรมพาไปดูขั้นตอนต่างๆ การเลี้ยงโคเท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-3435-2046-7


http://www.khonkaenlink.info/tour/tour_thai.asp?id=9399

Credit: http://atcloud.com/stories/85429
6 ก.ค. 53 เวลา 23:00 3,292 4 56
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...