หมอ ลืมสายยาง 25 ซม.ในท้อง 5 ปี

ญาติเดือดบุกร้อง สธ.หมอลืมสายยางยาว 25 ซม.อยู่ในท้องนาน 5 ปี เอกซเรย์เจอนิ่วเป็นของแถม ขณะที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์บัตรทอง ไม่รับผิดชอบผลการผ่าตัด ฉุนไม่มีจรรยาบรรณแพทย์

นายสุริยา ศรีสุขสอง น้าชาย นายอนุพงศ์ รอดนุช อายุ 25 ปี สามีของ น.ส.สุวารี ฉัตราภิวัฒน์ อายุ 23 ปี เดินทางมาร้องเรียนกระทรวงสาธารณสุข พร้อมญาติและเพื่อนกว่า 20 คน เนื่องจากแพทย์ตรวจพบว่ามีสายยางยาว 25 เซนติเมตร อยู่ในกระเพาะปัสสาวะและมีก้อนนิ่ว โดยมีเจ้าหน้าที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับเรื่องร้องทุกข์
      
เมื่อ วันที่ 20 ส.ค.ได้นำตัวน.ส.สุวารี เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางแค โดยใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เนื่องจากมีอาการปวดท้อง ไม่สามารถกั้นปัสสาวะได้ เมื่อมาถึง 2-3 วันแรก แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด จนกระทั่งแพทย์ได้ทำการเอกซ์เรย์ที่บริเวณหน้าท้องจึงพบว่ามีสายยางยาว ประมาณ 25 เซนติเมตร อยู่ที่บริเวณกระเพาะปัสสาวะ รวมทั้งมีก้อนนิ่วอยู่ใกล้กับสายยาง จึงเพิ่งรู้ว่ามีสายยางอยู่ในท้องนาน 4-5 ปี แล้ว
      
ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาที่โรง พยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง เพื่อผ่าตัดกระสุนที่เกิดจากถูกลูกหลง ตั้งแต่ปี 29 มีนาคม 2547 แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าแพทย์ใส่สายยางเพราะแพทย์ไม่เคยบอก เมื่อแพทย์ตรวจพบว่ามีสายยางอยู่ในท้องได้ติดต่อเพื่อจะขอเอกสารข้อมูลและ เวชระเบียนผู้ป่วยเพื่อให้หมอนำไปวินิจฉัยก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ซึ่งทางโรงพยาบาลให้เพียงใบส่งต่อผู้ป่วยเท่านั้น ดังนั้น ตนจะดำเนินการเอาผิดโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย

“ล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 27 ส.ค. แพทย์โรงพยาบาลดังกล่าวให้ญาติเซ็นใบยินยอมให้ทำการผ่าตัดนำสายยางออกจาก ช่องท้อง โดยที่ไม่รับผิดชอบผลที่เกิดจากการผ่าตัด ทั้งๆ ที่แพทย์ได้แจ้งว่าจะทำการสลายนิ่ว รู้สึกรับไม่ได้ที่หมอบอกว่าจะไม่รับผิดชอบ อีกทั้งในเอกสารระบุเพียงเป็นการผ่าตัดเอานิ่วออก แต่ไม่บอกว่าผ่าตัดสายยางออกด้วย ญาติจึงไม่ยินยอม เพราะไม่เชื่อใจโรงพยาบาล แถมยังไล่ให้ไปรักษาพยาบาลที่อื่น ซึ่งคนเจ็บยังคงปวดท้องแต่กลับถอดสายน้ำเกลือเร่งให้เคลียร์ค่ารักษา เท่ากับหมอไม่มีจรรยาบรรณแพทย์เพราะปฏิเสธการรักษาทั้งๆ ที่มีสิทธิบัตรทองอยู่ที่นี่ ดังนั้น การมาร้องเรียนครั้งนี้อยากให้สธ.ดำเนินการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น เพราะไม่มีความมั่นใจที่จะรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวอีกต่อไป”

ด้าน สามีคนไข้ กล่าวว่า ภรรยาเริ่มรู้สึกปวดท้องและอั้นปัสสาวะไม่อยู่ช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจึงมาพบแพทย์ เมื่อพบว่ามีสายยางในท้องทุกคนรู้สึกแปลกใจมาก แม้แต่พยาบาลก็แปลกใจ เพราะไม่รู้มาก่อน ขณะที่รักษาที่โรงพยาบาลศรีวิชัย 2 ก็ไปตามแพทย์นัดทุกครั้ง
      
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีวิชัย 2 กล่าวว่า คนไข้คือน.ส.สุวารี ฉัตราภิวัฒน์ ได้เข้ารับการรักษาที่รพ.ศรีวิชัย 2 เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2547 จริง โดยผู้ป่วยถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง ทะลุม้าม อาการสาหัส แพทย์ได้ทำการช่วยชีวิตโดยใส่สายยางเพื่อระบายของเสีย และ ระบายน้ำออก จนกระทั่งคนไข้อาการดีขึ้น ญาติได้แจ้งให้รพ.ทราบว่า มีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล และขอให้ส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ จ.นครปฐม โดยได้แจ้งในใบส่งตัวผู้ป่วยถึงแพทย์ผู้ทำการรักษาต่อแล้วว่า มีการเจาะท่อและใส่สายยางไว้ในช่องท้องของผู้ป่วย ซึ่งโดยปกติ การรักษาในลักษณะนี้จะต้องใส่สายยางไว้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่เนื่องจากผู้ป่วยขอย้ายไปก่อนจะถึงกำหนด โดยรักษาที่รพ.ศรีวิชัย 2 เพียง 10 วัน เมื่อไปรักษาต่อที่รพ.อื่น แพทย์ที่รับรักษาจะต้องเป็นผู้เอาสายยางออก รวมทั้งผู้ป่วยก็จะต้องไปรับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัด
      
คง ต้องพิจารณาหาข้อเท็จจริงว่า แพทย์ที่รับรักษาต่อไม่ได้เอาสายยางออกให้ หรือ นัดผู้ป่วยมาแล้วผู้ป่วยขาดการติดต่อกับรพ.ในส่วนของรพ.ศรีวิชัย ยืนยันว่าใส่สายยางในท้องผู้ป่วยจริง เพื่อช่วยชีวิตในขณะที่ผู้ป่วยมีอาการสาหัส ไม่ได้เป็นการลืมของแพทย์แต่อย่างใด

 

28 ส.ค. 52 เวลา 02:12 2,382 3 32
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...