ยาย่า ซูเปอร์สตาร์กิเลนผยอง แชมป์ไทยลีก ย้ายทีมฟ้าผ่าร่วมทัพ เคเอเอ เกนท์ รองแชมป์ลีกสูงสุดเบลเยียม พร้อมทุบสถิติค่าตัวย้ายทีมสูงสุดในประวัติศาสตร์บอลไทย ด้วย 20 ล้านบาท สัญญา 3 ปี พร้อมออฟชั่น ขณะที่เจ้าตัวฟันค่าเหนื่อยก้อนโตเกือบครึ่งล้านต่อเดือน เตรียมลุยศึกยูฟ่า แชมเOยนส ลีกทันที ด้าน เมืองทองฯ เผยไม่ต้องการขายสตาร์แต่ เพื่ออนาคตนักเตะ
หลังจากที่มีข่าวออกมาตลอดจากค่าย "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก มาอย่างต่อเนื่องถึงนักเตะในสังกัดเป็นเป้าหมายของทีมในต่างประเทศ โดยมีแมวมองและผู้บริหารสโมสรต่างๆ พาเหรดกันมาดูฝีเท้าเหล่าสตาร์ดังของทีม โดยเฉพาะกับซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งวัย 20 ปี ของทีมอย่าง ซูมาโฮโร่ ยาย่า ที่มีข่าวย้ายทีมสู่ทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังนำทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จในปีแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุด
โดยเรื่องนี้ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทีม ได้กล่าวถึงการย้ายทีมครั้งนี้ของยาย่าว่า “นับเป็นเรื่องที่ดีของประวัติศาสตร์สโมสรและของลีกในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่มีทีมระดับชั้นนำในยุโรป เช่น เคเอแอ เกนท์ รองแชมป์ดิวิชั่น 1 ลีกสูงสุดของเบลเยี่ยมเดินทางมาดูฟอร์ม และมาเซ็นสัญญากับนักเตะจากประเทศไทยถึงที่นี่ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ลีกของไทยอยู่ในสายตาของลีกชั้นนำของโลกได้ในไม่ช้า ซึ่ง ยาย่า เองก็จะได้มีโอกาศยกระดับฝีเท้าไปสู่จุดนั้นและมีลุ้นที่จะถูกเรียกตัวติด ทีมชาติที่ตัวเองฝันไว้ ซึ่งต้องยอมรับว่าระดับฝีเท้าของ ยาย่า นั้นเกินกว่าลีกของไทยไปแล้ว โดยการเซ็นสัญญาในครั้งนี้มีอายุ 3 ปี แบ่งเป็นค่าตัวทันที 500,000 เหรียญยูโร และอีก 100,000 เหรียญยูโรเมื่อ ยาย่า เล่นครบ 30 เกม พ่วงกับออฟชั่น 20 เปอร์เซนต์จากการย้ายครั้งต่อไป ซึ่งเชื่อว่าค่าตัวในอนาคตไม่น่าต่ำกว่า 7-10 ล้านเหรียญยูโร โดยที่ ยาย่า จะได้รับค่าเหนื่อยบวกโบนัส ประมาณหมื่นกว่าเหรียญยูโร หรือเกือบ 500,000 บาทในแต่ละเดือน ซึ่งถือเป็นการเซ็นสัญญาที่เป็นสถิติของประเทศไทยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ยาย่า จะลงเล่นให้กับทีมจนถึง 3 เกมแรกของเลก 2 โดยรวมถึงบิ๊กแมตซ์กับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ในวันที่ 25 กค. และออกเดินทางในเดือนสค. ขณะเดียวกันเพื่อทดแทนการเสียกำลังหลักไป ทางสโมสรก็ต้องเสริมทัพให้แข็งแกร่งเช่นเดิม พร้อมที่จะเฟ้นหานักเตะขึ้นมาทดแทนต่อไป โดยจะมีการนำนักเตะต่างชาติและไทยเข้ามาเสริมทีมในเลก 2 นี้นที”
ด้าน วิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสรกล่าวต่ออีกว่า “ทั้งนี้ทั้งนั้นทางสโมสรคำนึงถึงโอกาสของนักเตะมากกว่าเงินที่จะได้จากค่า ตัว เนื่องจากทีมเมืองทองฯ ไม่มีนโยบายในการปล่อยตัวนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของทีม แต่กรณียาย่านั้น ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวมีโอกาสที่จะได้ลงเล่นกับทีมชั้นนำของยุโรป ได้เล่นเกมแชมเOยนส์ ลีก และยกระดับฝีเท้าสู่ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ต่อไปได้ ทางสโมสรจึงเห็นว่าควรให้โอกาศนักเตะซึ่งเล่นกับเรามาถึง 3 ฤดูกาล พาทีมสร้างประวัติศาสตร์ 3 ปี 3 แชมป์ กลายเป็นตำนานของสโมสรด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี ทางสโมสรก็อวยพรให้ยาย่าโชคดีกับการผจญภัยครั้งใหม่และพร้อมยินดีที่จะเซ็น สัญญานำยาย่ากลับมาทุกเมื่อเมื่อยุติการค้าแข้งในยุโรป และก่อนที่ยาย่าจะเดินทางไปร่วมทีมใหม่นั้น ทางสโมสรจะจัดกิจกรรม แฟร์เวลล์ ยาย่า ร่วมกับแฟนบอลให้กับเจ้าตัวในอีกครั้ง”
ด้านผู้บริหารทีม เคเอเอ เกนท์ รองแชมป์ลีกสูงสุดของเบลเยียมฤดูกาลล่าสุด มร.มิเชล โลว์วาจี้ ได้กล่าวหลังการเซ็นสัญญาว่าทีมเราเป็นทีมระดับชั้นนำ การที่ตัดสินใจนำนักเตะจากลีกประเทศไทยไปร่วมทีม นั่นหมายความว่านักเตะจะต้องมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ โดยยาย่านั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน อายุน้อยเพียงแค่ 20 ปี เล่นด้านซ้าย มีความเร็ว และแข็งแกร่ง พร้อมกับการผ่านบอลและยิงประตูได้ดี หากปรับตัวเข้ากับเกมและสภาพแวดล้อมได้ เชื่อว่าจะช่วยให้ทีมแกร่งขึ้นในฤดูกาลที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน และประสบความสำเร็จเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าได้ โดยทั้งนี้ขั้นตอนจะเหลือเพียงแค่การทดสอบสมรรถภาพร่างกายในเร็วๆวันนี้
สำหรับประวัติของ ซูมาโฮโร ยาย่า นั้น เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2532 เป็นชาวไอวอรี่โคสต์ เส้นทางบนถนนลูกหนังนั้นได้เติบโตมาจากสถาบันลูกหนัง JMG หลังจากนั้น โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ได้เป็นผู้ชักชวนให้ก้าวเข้ามาสู่สโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และลงเล่นทีมชุดใหญ่ของเมืองทองตั้งแต่อายุ 18 ปี ซึ่งขณะนั้นลงแข่งขันในระดับดิวิชั่น 1 โดยในช่วงที่ลงเล่นนั้นมักจะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามมักจะตามเล่นงานยาย่าอยู่ตลอดทั้งเกม แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งการทะลวงประตูของยาย่าได้ จนกระทั่งพาทีมได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 2008 ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรอีกครั้งด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2009 ได้สำเร็จ ซูมาโฮโร ยาย่า จึงถือเป็นนักเตะระดับตำนานของสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ดอย่างแท้จริง และยากที่จะหาใครมาทดแทนเขาได้
ที่มา
http://www.thaileagueonline.com/news.php?id_news=1961&page=1