10 ประเทศอันตราย ที่ไม่ควรไป เพราะอะไรถึงอันตราย!!

 แม้ผมไม่เคยไปประเทศเหล่านี้ก็จริง แต่ก็เห็นจากสารคดีหรืออ่านจากหนังสือแน่นอนประเทศเขาอันตรายจริง แต่อันตรายบางจุดเท่านั้นแหละครับ บางพื้นที่ก็สงบเหมือนบ้านเรา ซึ่งการจัดอันดับนี้ ผมว่าอาจเป็นเพราะเขาจัดโดยมองจุดอันตราย สถิตการก่อการร้าย อาชญากรรม และความสดใหม่ในการเกิดเหตุร้ายมากกว่า


10อันดับแรกของโลกมีดังนี้  

 


1. อิรัก (

 

Iraq)

 

อิรักซึ่งครั้งอดีตขึ้นชื่อว่า เป็นต้นกำเนิดอารยธรรมของโลก มาบัดนี้กลายเป็นประเทศสวรรค์แห่งก่อการร้าย แม้สงครามอ่าวใน ค.ศ.1990 ซึ่งทหารฝ่ายอิรัก เสียชิวิตกว่า 100,000 นายในการปะทะกับกองกำลังฝ่าย พันธมิตรจะจบไปแล้ว แต่จุดที่หมายสำคัญๆ ในอิรักก็ยังคงถูกโจมตีอยู่เป็นเพราะขบการก่อการร้ายนั้นยังคงเกลียดชัง ตะวันตก ซึ่งเห็นได้ข่าวอยู่เป็นระยะๆ คนตายเพราะมือระเบิดฆ่าตัวตายแทบเป็นปกติ อีกทั้งสองมุสลินก็หาเรื่องฆ่ากันตายไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งล่าสุดโอบาม่าคิดวางแผนถอนกำลังทหารจากอิรักซึ่งผมบอกเลยว่าเป็นเรื่อง ยากมากๆ

 



 


2. อัฟกานิสถาน (

Afghanistan)

 

ในปี 1973 รัฐบาล ของซาอีร์ ชาห์ ถูกโค่นลงด้วยการปฏิวัติของกองทัพซึ่งนำโดยเดาอุด ข่าน และพรรคพีดีพีเอ (พรรคคอมมิวนิสต์อัฟกัน) ข่านได้ล้มเลิกระบบราชาธิปไตยและประกาศตัวขึ้นเป็นประธานาธิบดี ต่อมาก็มีการสถาปนาสาธารณรัฐอัฟกานิสถาน ในปี 1978 ข่าน ได้ปลดฝ่ายตรงข้ามที่น่าสงสัยออกจากรัฐบาล ทำให้เกิดฝ่ายคอมมิวนิสต์ก่อรัฐประหารนองเลือดขึ้น โดยข่านเสียชีวิตลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ ตารากีได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี และได้ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพกับสหภาพโซเวียต ในปี 1979 เริ่มมีความเคลื่อนไหวปฏิบัติการของกองโจรอัฟกัน (มูจาฮีดีน) แล้วเหตุการสังหารหมู่นองเลือดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ตารากีถูกฆ่าตาย โดยฮาฟีซูลลาห์ อามินขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน ต่อมาอามินก็ถูกฆ่าอีก คราวนี้บับรัก คาร์มาลกลายเป็นประธานาธิบดี สหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถานในเดือนธันวาคมปี 1979 พอ ถึงปี 1986 คาร์มาลก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง มี ดร. นาจีบูลลาห์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอหยุดยิงต่อสหภาพโซเวียต ขึ้นรับตำแหน่งแทน แต่ฝ่ายกองโจรมูจาฮีดีนไม่ยอมรับประธานาธิบดีคนนี้ ต่อมากองโจรมูจาฮีดีนได้ชัยชนะครั้งใหญ่ และสหภาพโซเวียตได้ถอนกำลังออกไปในปี 1989 ฝ่ายกบฏ มูจาฮีดีนยังคงต่อสู้กับทหารของนาจีบูลลาห์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 1989 กองโจรอัฟกันได้เลือกซีบาตูลลาห์ โมจาดีดีให้เป็นหัวหน้ารัฐบาลลี้ภัยของตน ในปี 1992 กลุ่ม กองโจรดังกล่าวได้บุกเข้ายึดเมืองคาบุลและก่อตั้งรัฐอิสลาม (โดยมีบูร์ฮันนูดิน รับบานีเป็นประธานาธิบดี) ในปี 1994 มีการจัดตั้งกองทหารตาลีบันและเริ่มโจมตีรัฐบาลอิสลามอย่างอุก อาจ ขณะเดียวกัน ดอสตูมและกูลบุดดิน เฮกมัตยาร์ ซึ่งเป็นผู้นำของเฮซไบ-อิสลาม ก็ยังคงขัดแย้งกับรัฐบาลของรับบานีอยู่ตลอด เมืองคาบุลเหลือแต่ซากปรักหักพังของบ้านเรือน กองทหารตาลีบันได้ชัยชนะครั้งใหญ่ในปี 1995 เมื่อ ถึงเดือนมิถุนายนปี 1996 เฮกมัตยาร์ได้ลงนามในข้อ ตกลงสงบศึกกับรับบานี และกลับเข้าเมืองคาบุลในฐานะนายกรัฐมนตรี ในเดือนกันยายน กองทหารตาลีบันได้บีบรับบานีและรัฐบาลให้ออกจากเมืองคาบุล พร้อมกับได้สังหารนาจีบูลลาห์ ในปี 1998 กองทหารตา ลีบันได้บุกทางเหนือ และสร้างสมอำนาจจนเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดของประเทศแห่งนี้ สงครามในอัฟกานิสถานยังไม่สิ้นสุดลงเพียงแค่นั้น นับตั้งแต่กองทัพของสหภาพโซเวียตได้ถอนกองกำลังออกไป กลุ่มอัฟกันกลุ่มต่างๆ ก็พยายามกำจัดศัตรูทิ้งไป แม้ว่ากองทหารตาลีบันจะแข็งแกร่งขึ้นมากตั้งแต่ปี 1998 แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายขั้นสุดท้ายได้อยู่ดี การต่อสู้อันรุนแรงเพื่ออำนาจยังคงดำเนินต่อไป

 



 


 

 

 

 

3. เชชเนีย (

Chechen Republic)


http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/d6/Flag_of_Chechen_Republic_of_Ichkeria.svg/60px-Flag_of_Chechen_Republic_of_Ichkeria.svg.png" width=60 height=36>

เชชเนีย เป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองของสหพันธรัฐรัสเซีย มีประชากรก่อนสงคราม ๑. ... เชชเนีย ยังเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอีกด้วย

 



 

ที่อันตรายระดับ 3 ก็เพราะปัจจุบันนี้กลุ่มกบฏเชเชนยังเคลื่อนไหวก่อการร้ายอยู่เนื่องๆ มักใช้การจับพลเรือนเป็นตัวประกัน เพื่อเรียกร้องความสนใจจากนานาชาติเกี่ยวกับการเรียกร้องเอกราชของพวกเขา วิกฤติตัวประกันครั้งรุนแรงครั้งแรกเกิดขึ้น 6 เดือนหลังทางการรัสเซียส่งกำลังเข้าสาธารณรัฐเชชเนียเพื่อ ป้องกันการแยกตัวเป็นเอกราชในปี 1994 โดยกลุ่มกบฏ เชชเนียยึดโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบูเดนนอฟสก์ ทางใต้ของรัสเซียนานหลายวัน แม้จะมีการตกลงเจรจาสันติภาพ(ซึ่งล้มเหลวในเวลาต่อมา) แต่การโจมตีของกลุ่มกบฏและความผิดพลาดระหว่างจู่โจมของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 100 คน

 

 

ดซอคฮาร์ ดูดาเยฟ ผู้นำเชเชนในขณะนั้นออกมาประณามการจับตัวประกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จับตัวประกันอีกครั้งเมื่อปี 1996 ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้อง หลัง ทั้งนี้คนร้ายจับตัวประชาชนเกือบ 3,000 คนไว้ เป็นตัวประกัน ในโรงพยาลาลแห่งหนึ่งในเมืองคิซยาร์ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลถอนทหารออกจากเชชเนีย ก่อนจะปล่อยตัวประกันเกือบทั้งหมด และพาตัวประกันส่วนหนึ่งกลับไปที่เชชเนียด้วย อย่างไรก็ตามกองทัพรัสเซียได้ซุ่มโจมตีกลุ่มกบฏระหว่างข้ามพรมแดนไปเชชเนีย ทำให้ตัวประกันหลายคนเสียชีวิต นับเป็นการยุติวิกฤติตัวประกันด้วยเลือดอีกครั้งหนึ่ง

สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นอีก เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนเชเชนทำการจี้เรือโดยสารข้ามฟากใน ทะเลดำ และขู่จะระเบิดเรือซึ่งมีผู้โดยสาร 225 คน หากทางการไม่ยุติความรุนแรงกับกลุ่มกบฏในเหตุการณ์เมืองคิซยาร์ อย่างไรก็ตามคนร้ายกลุ่มนี้ยอมมอบตัวหลังควบคุมเรือนาน 4 วัน

หลังสิ้นสงครามเชเชนครั้งแรกใน ปี 1996 เชเชนกลายเป็นดินแดนไร้กฎหมาย กลุ่มขุนศึกที่เป็นปฏิปักษ์กันก่อศึกรบราฆ่าฟันกันเองอย่างดุเดือด การลักพาตัว และฆาตกรรม มีการจับตัวชาวต่างชาติที่ทำงานให้ความช่วยเหลือไปคุมขังนานนับปี ข้อมูลจากบริษัทความมั่นคง Kroll Associates UK คาด การณ์ว่า ในปี 1998 มีชาวต่างชาติถูกจับเป็นตัวประ กันในเชชเนียราว 100 คน

เดือนมีนาคม 2001 เครื่องบินที่มีกำหนดเดินทางจากนครอิสตันบุลไปมอสโก ถูกคนร้ายจี้ให้เปลี่ยนเส้นทางไปที่เมืองเมดินา ในซาอุดีอาระเบีย เหตุการณ์จบลงด้วยการเสียชีวิตของคน 3 คน หลังกองกำลังความมั่นคงของซาอุดีอาระเบียบุกเข้าจู่โจมเครื่องบิน

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา คนร้ายที่สนับสนุนกลุ่มเชเชนจับนักท่องเที่ยวราว 120 คน ในโรงแรมหรู ที่อิสตันบูล ไว้เป็นตัวประกันเพื่อต่อต้านสงคราม

เดือนกรกฎาคม 2001 นักรบเชเชนจับตัวผู้โดยสารราว 30 คน ในรถบัสทางใต้ของรัสเซีย เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักรบที่ถูกจับกุมตัวจากการจี้เครื่องบินเมื่อ ครั้งก่อน

เดือนพฤษภาคม 2002 คนร้ายหนึ่งคนบุกเดี่ยวจับตัวประกันราว 10 คน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอิสตันบูล แต่ภายหลังทั้งหมดถูกปล่อยตัวโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

เหตุจับตัวประกันที่นับว่ารุนแรงที่สุดใน ประวัติศาสตร์รัสเซีย น่าจะเป็นการจับตัวประกันในโรงละครแห่งหนึ่งของมอสโกเมื่อปี 2002 โดยกลุ่มกบฏราว 40-50 คน ที่มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นจบลงด้วยการเสียชีวิตของตัวประกัน 129 คน และคนร้าย 41 คน หลังจากตำรวจยิงก๊าซพิษระหว่างจู่โจมเข้าไปในโรงละคร

หลังจากนั้นกลุ่มกบฏเชเชนก็โจมตีด้วยการใช้ ระเบิดพลีชีพเป็นระยะๆ นอกเหนือไปจากการโจมตีกองทัพรัสเซียในเชชเนียรายวัน ขณะที่กองกำลังความมั่นคงของทางการก็ไม่รามือ ตามเก็บสมาชิกกลุ่มเชเชนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

4. แอฟริกาใต้ (The

Republic of South Africa)

 


http://www.melbourne2006.com.au/NR/rdonlyres/451334C1-F58D-4D31-AE1A-32F85B0343D9/0/SouthAfrica.gif" width=60 height=40> 

เป็นอีกอันดับ ที่ผมไม่รู้ติดได้ยังไง ความจริงนี้ประเทศแอฟริกาใต้นี้เจริญมาก แถมเป็นเวทีในการจัดมหกรรมฟุตบอลโลกด้วย ผมว่ามันอาจเป็นเพราะปัญหาการแบ่งแยกผิวสีในประเทศระหว่างคนผิวขาวกับคนผิว ดำที่มักมีปัญหากระทบกระทั้งเป็นระยะ จนเกิดการจารชนอยู่บ่อยครั้งก็เป็นไปได้

 



 


5. จาเมกา (

Jamaica)

               

http://members.tripod.com/~sisisi/flags/jamaica.gif" width=50 height=30>

จาเมก้า(บางคนเรียกจาไมก้า) ประเทศนี้ไม่มีกลุ่มก่อการร้ายก็จริง แต่คนดำแถบคาริบเบียนนี่นี้หน้าตาจะไม่ค่อยรับแขก และหารอยยิ้มก็ยากเหลือเกิน (ขนาดยิ้มให้แล้วยังไม่ยอมยิ้มกลับ) ค่าครองชีพที่นี่สูงมาก แต่ความสะดวกสบาย ความเจริญต่ำ และไว้ใจใครไม่ค่อยได้ อาชกรรมเยอะ เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาว่างงานสูงและปัญหายาเสพต์ติด โรคเอดส์

 

6. ซูดาน (

Sudan)


 

ซูดาน ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ถูกบริหารโดยรัฐบาลทหารและพลเรือนอย่างไร้เสถียรภาพต่อเนื่องกันมา นับตั้งแต่ประเทศแห่งนี้ได้รับเอกราชในปี 1956 จาก รัฐบาลร่วมแองโกล-อียิปต์ ความขัดแย้งเกิดขึ้นมายาวนานระหว่างชาวมุสลิมอาหรับทางตอนเหนือของซูดาน (เป็นที่ตั้งของรัฐบาล) และแอฟริกันผิวดำที่เป็นชาวคริสต์ทางตอนใต้ ความขัดแย้งดังกล่าวรุนแรงขึ้นภายหลังการกฎหมายชาเรียในปี 1983 ในรัฐบาลของประธานาธิบดีไนเมอรี กองทัพปลดปล่อยชาวซูดาน (เอสพีแอลเอ) เริ่มโจมตีภาคเหนือหนักขึ้นจนถึงขั้นครามกลางเมืองเต็มรูปในกลางทศวรรษ 1980 การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายการเมืองของกลุ่มเอสพีแอลเอ มีขึ้นในปี 1988/9 แต่ก็มีอันต้องล้มเลิกไปเพราะ สถานการณ์ต่างๆ ตอนที่นาย

 


พลโอมาร์ ฮัสซัน อาห์หมัด อัล-บาชีร์ทำรัฐประหารยึดอำนาจในเดือนมิถุนายน 1989 ใน ทศวรรษที่ 1990 กองกำลังรัฐบาลได้เปิดฉากการโจมตี ทางอากาศไปยังเป้าหมายพลเรือนในซูดานตอนใต้ คาดว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้มากกว่า 1.2 ล้านคน เหตุการณ์นี้เองที่สร้างความย่อยยับให้กับเศรษฐกิจของซูดาน

 


 

7. ไทย (Thailand)

 

http://www.turbocash.net/wiki/images/thumb/7/78/150px-FlagThailandButtonShadow.png/48px-150px-FlagThailandButtonShadow.png" width=48 height=48>

คุณคงรู้แล้ว ผมคงไม่เล่าอะไรมาก แต่มีข้อมูลเสริมนิดหน่อยตรงที่ประเทศไทยยังเป็นประเทศสวรรค์ในการค้ามนุษย์ อาชญากรข้ามชาติ และสนับสนุนการก่อการร้าย อย่างที่เห็นในข่าว เช่น การให้ขบการก่อการร้าย"อัล มานาร์"เช่าสัญญาณดาวเทียมไทยคมเผยแพร่รายการไปทั่วโลก การสนับสนุนที่ซ่อนตัวอาชญากรระดับโลกระเบิดบาลี

 



 


8. โคลัมเบีย (

Columbia)


 

สงครามกลางเมืองในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดของโลก ได้ดำเนินมาโดยไม่มีผู้ใดห้ามปรามถึง 35ปีแล้ว แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตนับพันๆ คน กำลังคนราว 15,000 นาย จากฝ่ายกองโจรกลุ่มต่างๆ ห้ากลุ่มสามารถควบคุมพื้นที่ในชนบทไว้ได้ถึง 60% ฝ่ายตรงข้ามกับพวกกบฏก็คือกองกำลังรักษาความมั่นคงของ โคลอมเบีย และกลุ่มทหารฝ่ายขวาที่ไม่ได้สังกัดหน่วยใ

Credit: ZOO WEEKLY 11 AUGUST
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...