CG ในหนังยังอาย! 12 อันดับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ มหัศจรรย์เรื่องจริง

http://www.undubzapp.com/15-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%8f%e0

ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ เป็นสัญญาณย้ำเตือนให้มนุษย์ได้เข้าใจว่า มนุษย์นั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เท่านั้นเมื่อเทียบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และนี่คือ 15 ปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกประหลาดสุดทึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลก  ไม่ใช่มายากลหรือ CG ในภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่มันคือความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรืออาจเกิดเพราะภาวะโลกร้อน วันนี้เรามาเปิดประตูบานใหม่ มาชมโลกอีกด้านที่ไม่เคยเห็นกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย

หินเดินได้

บ้าแล้ว ก้อนหินเนี่ยนะจะเดินได้ เกิดขึ้นจริงในอุทยาน Death Valley พบหินจำนวนมากมีร่องรอยการเคลื่อนที่ โดยนักวิจัยสันนิษฐานว่า เกิดจากหลักทฤษฏีการลาดเอียงที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่เองได้ แต่โอกาสเกิดขึ้นมีน้อยมาก พวกเขายังคงติดเครื่องหมาย GPS บนหินเพื่อศึกษากันต่อไป

เสาลำแสง (Light Pillar)

พบเห็นได้บ่อยๆ ทั้งที่อเมริกา รัสเซีย มอสโคว เป็นภาพลวงตาที่เกิดขึ้นการสะท้อนของผลึกน้ำแข็งขณะที่พระอาทิตย์อยู่บริเวณ ขอบฟ้า ทำให้เห็นเป็นลำแสงพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า ถ้าคนไม่รู้คงคิดว่าเป็นลำแสงจากมนุษย์ต่างดาวแหงๆ

ทะเลสาบหลุม (Spotted Lake) แคนาดา

ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีหลายๆ บ่อเป็นหลุมๆ ดูแปลกตา เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ เช่น แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก สามารถรักษาโรคได้ และเคยถูกใช้ทำลูกกระสุนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย

หลุมดินน้ำแข็งยักษ์ (Giant permafrost explosions) ไซบีเรีย

จู่ๆ ในปี 2013 ก็มีหลุมน้ำแข็งยักษ์โผล่ในไซบีเรีย ที่คาดว่าเกิดจากภาวะโลกร้อน สันนิษฐานว่าเกิดจากการพ่นออกจากดินน้ำแข็ง (permafrost) จากแรงดันก๊าซ แต่ก็เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น

 ทุ่งน้ำแข็ง (Penitentes)

ทุ่งน้ำแข็งแห่งเทือกเขาแอนดิส  ทุ่งโล่งกว้างที่มีเพียงแท่งน้ำแข็งโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเต็มทุ่งละลานตา  นักวิทยาศาสตร์พบว่า ทุ่งน้ำแข็งเกิดจากกระแสลมแรงที่พัดขึ้นมาบนทุ่งซึ่งนำอากาศเย็นจัดเข้ามาจนทำให้เกิดน้ำแข็งเป็นรูปทรงดังกล่าว โดยแท่งน้ำแข็งนี้มีความสูงประมาณ 1.5 – 2 เมตร  ซึ่งพบได้ตามพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลหลายพันเมตร อย่างเทือกเขาแอนดิส

ตะวันดำทมิฬ (black sun)

ทุกปีในเดนมาร์ก จะพบกลุ่มก้อนสีดำเคลื่อนที่ผ่าขอบฟ้า รู้จักกันในชื่อว่า “Blacksun” แต่จริงๆ แล้วมันคือการอพยพของนกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า startlings ซึ่งบินจากที่ต่างๆ มารวมตัวกันก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังสแกนดิเนเวีย

ชายหาดสีเขียว (Green sand beach) ฮาวาย

าดทรายสีเขียวแห่งเกาะฮาวาย ที่เกิดจากผลึกหินโอลีวีน สาเหตุเนื่องมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ ปูมาฮาน่า โดยที่นั่นได้ถูกขนานนามว่าเป็น “เพชรแห่งฮาวาย”

น้ำตกสีเลือด (Blood Falls) แอนตาร์กติกา

เป็นภาพชวนสยองไปสักหน่อย แท้จริงแล้วเกิดจาก “ระบบนิเวศน์ของแบคทีเรีย” ที่ถูกกักขังไว้ภายใต้น้ำแข็งขั้วโลกนับล้านปี ไม่เคยได้เห็นแสงเห็นตะวัน จนกระทั่งภาวะโลกร้อนรุกรานไปถึงน้ำแข็งขั้วโลก เมื่อแบคทีเรียสัมผัสกับอากาศ แสงแดด ความร้อน จงเกิดการเปลี่ยนแปลงผสานกับแร่ธาตุในน้ำที่ละลายออกมากลายเป็นสีแดงฉานเช่นนี้

รุ้งสีเพลิง (Fire Rainbow)

เกิดจากแสงหักเหออกจากผลึกน้ำแข็งในเมฆเซอรัส (Cirrus Cloud) มีลักษณะเป็นคล้ายขนนก เป็นแนวราบบนท้องฟ้า ไม่ได้โค้งเหมือนที่พบเห็นได้ทั่วไป นับเป็นปรากฏการธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง

ทะเลคาปูชิโน่เข้มข้น (Cappuccino Coast)

ทะเลคาปูชิโน่ ในเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ เมื่อน้ำทะเลผสมผสานเข้ากับหิมะ จนกลายเป็นคลื่นฟองสบู่ข้นจนเหมือนกับ ฟองครีมคาปูชิโน่ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สุดมหัศจรรย์แปลกประหลาดแต่ก็เป็นที่สนุกสนานของเด็กๆ

สายฟ้ากลางทะเลลาวา (Volcanic lightning) ประเทศญี่ปุ่น

ภูเขาไฟระเบิดพ่นเอาลาวาสีแดงฉานขนาดนี้ก็น่ากลัวพออยู่แล้ว นี่มีสายฟ้าเพิ่มเข้าไปอีก ยิ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังสรุปสาเหตุได้ไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกิดจาก “ถ่านหิน” ทำปฏิกริยาทางเคมี

สายฟ้านิรันดร์ (Catatumbo Lightning) แห่งดินแดนต้องสาป

ณ แม่น้ำคาตาทัมโบ ประเทศเวเนซูเอล่า มีฟ้าผ่าปีละ 140 – 160 ต่อวัน วันละไม่ต่ำว่า 10 ชั่วโมง แต่ละชั่วโมงผ่ามากกว่า 280 ครั้ง ซึ่งสาเหตุเกิดจากก๊าซมีเทน ที่มีอยู่สูงพัดลอยตัวเสียดสีกับลมร้อนจากทะเลแครีเบียน ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆ

ที่มา CR : techinsider ,Oddee

Credit: CR : techinsider ,Oddee
25 ม.ค. 60 เวลา 06:01 8,136
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...