คราวนี้ เรามาลองดูเกราะของทางฝั่งตะวันออกกลางกันบ้างนะครับ
ซึ่งภูมิภาคนี้ จัดเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย เคยเป็นพื้นที่ของอาณาจักรที่รุ่งเรืองหลายแห่งทั้ง ฮิตไทต์ อัสซีเรีย บาบิโลน
Assyrian warrior
พวกอัสซีเรียน ซึ่งเป็นนักรบที่เข้มแข็งสุดๆในดินแดนเมโสโปเตเมีย
พวกเขาสวมเกราะที่ทำ จากแผ่นโลหะร้อยเข้าด้วยกัน เรียกว่า Lamellar
การ แต่งกายของพวกอัสซีเรียน
ใน ยุคของจักรวรรดิเปอร์เซีย ชาวอารยันแขกขาวจากพื้นที่อิหร่านปัจจุบันได้บุกตะลุยขยายอาณาเขตไปรอบทิศ โดยได้เคยยกทัพไปรบกับกรีกอยู่พักหนึ่ง(ดังที่เราเคยเห็นจากหนังเรื่อง ๓๐๐ครับ)
นี่เป็นภาพพิธีสวนสนามจาก ประเทศอิหร่านในสมัยราชวงศ์ชาห์ ปาเลอวีเมื่อหลายปีก่อน จะเห็นได้ว่าได้มีแต่งกายแบบนักรบสมัยจักรวรรดิเปอร์เซียเพื่อแสดงให้เห็น ถึงความยิ่งใหญ่ของดินแดนแห่งนี้เมื่อครั้งอดีต
Persian heavy cavalry
ทหาร ม้าหุ้มเกราะของเปอร์เซีย
หลัง สมัยจักรวรรดิเปอร์เซีย ดินแดนตะวันออกกลางก็แยกตัวออกเป็นแคว้นต่างๆจนกระทั่งเมื่อราวปลายคริสต ศตวรรษที่ ๔ ศาสนาอิสลามได้รับการประกาศและเผยแผ่ออกไปในหมู่ชนชาวอาหรับ ซึ่งต่อมา ชาวมุสลิมอาหรับได้ทำสงครามขยายดินแดนไปพร้อมๆกับการประกาศศาสนา กลายเป็นจักรวรรดิอิสลาม
ลักษณะเสื้อเกราะของนักรบ อาหรับมักทำจากโซ่เหล็กถัก หรือแผ่นโลหะร้อยเย็บเข้าด้วยกัน(Chainmail,Mail plate armour)ซึ่งมีคุณสมบัติกันคมอาวุธได้พอสมควร และมีน้ำหนักเบาคล่องตัว ระบายอากาศทำให้ไม่ร้อนอบอ้าวเมื่อรบกลางทะเลทราย
สมัยสงครามครูเสด(คริสต ศตวรรษที่ ๑๑-๑๓)
สมรภูมิรบอยู่ในทะเลทรายแถบตะวันออกกลาง เหล่านักรบมุสลิมซาราเซน
นิยมสวมเกราะเบา เพื่อระบายอากาศร้อน
ขุนพลซาลาดินแห่งกองทัพ มุสลิม