read:http://petmaya.com/10-ridiculous-things-satan

ความกลัวในเรื่อง ‘ซาตาน’ ไม่ได้รุนแรงเพียงแค่ในเฉพาะทศวรรษที่ 1980 แต่มันเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย และมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นผลงานที่เกิดมาจากการกระทำของซาตาน แน่นอนว่ามันไร้สาระมากๆ สำหรับคนในยุคนี้ แต่วันนี้เพชรมายาจะพาคุณมาย้อนไปดูคำกล่าวหาบ้าๆ บวมๆ เหล่านี้กัน

1. ส้อม

ในสมัยกรีกโบราณ ส้อมคือภาชนะที่ถูกใช้สำหรับการช่วยแล่เนื้อ แต่การใช้ส้อมในการปรับประทานอาหารไม่เคยปรากฏในตะวันออกกลาง จนกระทั่งยุคศตวรรษที่ 7 ส้อมกลายเป็นเสมือนสิ่งที่ใช้ข่มขวัญ เป็นเหมือนคราดขนาดเล็ก หรือเป็นปีศาจตัวน้อย ผู้คนทั่วโลกเริ่มหวาดกลัวที่จะนำส้อมเข้าปากตัวเอง เพราะมองมันเป็นเหมือนสิ่งประดิษฐ์ของปีศาจ อาหารเปลี่ยนเสมือนของขวัญจากพระเจ้า เครื่องมือของปีศาจไม่ควรมาทำให้แปดเปื้อน

ในศตวรรษที่ 11 ที่อิตาลี เจ้าหญิงจากอาณาจักรไบแซนไทน์องค์หนึ่ง เคยทำส้อมทองคำเสียหายในระหว่างที่รับประทานอาหาร ผู้คนต่างหวาดกลัว และสงสัยในตัวเธอ ต่อมาเจ้าหญิงได้สิ้นพระชนม์ลงจากโรคระบาด ผู้คนจึงเชื่อว่านี่คือการลงโทษจากพระเจ้าที่เธอใช้ส้อมรับประทานอาหาร

2. เครื่องดนตรี

เป็นที่ทราบกันดีว่าในทศวรรษที่ 1980 ดนตรีเฮฟวีเมทัล มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิซาตานอยู่มาก ซึ่งหากย้อนอดีตไปจะมีความเชื่อดั้งเดิมของอิสลามเกี่ยวกับเครื่องดนตรีทุกชนิด ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยซาตาน

ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ลูซิเฟอร์รู้สึกอิจฉาดาวิด เพียงเพราะมีเสียงร้องเพลงที่ไพเราะ เขาจึงพยายามสร้างเครื่องดนตรีขึ้นมาเพื่อเอาชนะพรสวรรค์ตามธรรมชาติของดาวิด และเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า เครื่องดนตรีสามารถทำลายศรัทธาและเป็นสาเหตุของความบ้าคลั่ง

3. สเมิร์ฟ

ในทศวรรษที่ 1980 การ์ตูนแทบทุกเรื่องโดยเฉพาะ สเมิร์ฟ ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับลัทธิซาตาน ในปี 2008 มีข่าวลือแพร่สะพัดบนอินเทอร์เน็ตว่าตุ๊กตาสเมิร์ฟมีวิญญาณร้ายเข้าสิงและกัดเด็กคนหนึ่ง

ในปี 2011 โดโรธี สปัลดิง นักจัดรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับศาสนา ได้จุดกระแสว่า สเมิร์ฟ คือปีศาจที่นับถือและบูชาซาตาน เธอเล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งที่นอนไม่หลับ จนกระทั่งได้กำจัดของทุกสิ่งที่เกี่ยวกับสเมิร์ฟออกไป

4. เกม ดันเจียน แอนด์ ดรากอน

ดันเจียน แอนด์ ดรากอน (Dungeons and Dragons) คือเกมที่ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครของตัวเอง สวมบทบาทในการต่อสู้กับมอนสเตอร์และปีศาจในดินแดนแห่งเวทมนตร์ เกมนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดย แกรี กีแกกซ์ ที่มาในรูปแบบของหนังสือและลูกเต๋า ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของจินตนาการล้วนๆ แต่ก็ยังมีข่าวว่า ซาตานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเกมนี้ทั้งหมด และชาวคริสเตียนจะต้องไม่ยุ่งกับมัน

นอกจากนั้นยังมีข่าวเกี่ยวกับผู้ปกครองบางคนที่ต้องยึดเกมนี้ออกจากลูกๆ เพราะพวกเขาสาบานว่า ได้ยินเสียงกรีดร้องของคนที่ถูกแผดเผาในเปลวเพลิงออกมาจากเกมนี้อีกด้วย

5. สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

หลายคนๆ คงเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์แห่งสันติภาพกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับกลุ่มชาวคริสเตียนขี้ระแวงผู้คลั่งศาสนา กลับมองว่าสัญลักษณ์นี้มีความหมายที่แฝงอยู่ เพราะจริงๆ แล้วมันคือ กางเขนกลับหัว ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของซาตานนั่นเอง

6. ไม้กางเขน

เป็นเรื่องแปลก เพราะสำหรับชาวคริสเตียนบางคนกลับมองว่า กางเขนคือสัญลักษณ์ของซาตาน เนื่องจากความจริงที่ว่า พระเยซูถูกตรึงและเสียชีวิตบนไม้กางเขน และมันดูผิดปกติถ้าคุณจะห้อยไม้กางเขนเพื่อเป็นเกียรติให้แก่พระเยซู

7. โทรศัพท์

ไม่น่าเชื่อว่าโทรศัพท์จะเป็นสิ่งที่บรรดานักบวชและนักเทศน์นำไปกล่าวหาว่ามันคือสิ่งประดิษฐ์ของปีศาจ โดยเฉพาะผู้คนในชนบทของสวีเดนเคยคิดว่า อุปกรณ์ที่ถูกไม่เป็นมิตรนี้ จะนำพาวิญญาณที่ชั่วร้ายให้เข้ามาสู่บ้านของพวกเขา และเป็นสาเหตุให้เกิดฟ้าผ่าได้

บรรดาชาวนาหลายคนมองว่ามันคือ “สายซาตาน” และพยายามที่จะรื้อสายโทรศัพท์ทุกแห่งเท่าที่ทำได้ เพื่อช่วยเหลือเมืองจากสิ่งชั่วร้าย บรรดาผู้นำศาสนาต่างก็เห็นด้วยว่าโทรศัพท์คือปีศาจ และการตัดขาดจากโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยคนบาปคือหนทางที่จะไม่ให้ซาตานเข้ามายุ่งกับพวกเขา

8. ฟุตบอล

ตามคำกล่าวอ้างของผู้เผยแพร่ศาสนา เอเวียง ฟันมิลาโย อเดบาโย ได้กล่าวว่า ฟุตบอลคือสิ่งประดิษฐ์ของปีศาจและพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลในเซาเปาโล ประเทศบราซิล คือวิหารเพื่อทำพิธีกรรมบูชาซาตาน เธอกล่าวว่า มนุษย์ต่างมุ่งมั่นที่จะไปสู่สวรรค์ด้วยหอคอยบาเบล และพระเจ้าได้ปฏิเสธภาษาของพวกเขา และแบ่งพวกเขาออกจากกัน วัฒนธรรมฟุตบอลควรจะถูกขับไล่ออกไปเทิดทูนพวกนักกีฬาแทน

นอกจากนั้นเธอยังเชื่อว่า รัฐบาลวางแผนที่จะสร้างโลกใหม่ด้วยการนำมารลำดับที่ 4 ออกมา กีฬาเป็นการส่งเสริมให้คนทำบาป เช่น การพนัน เหล้า คำหยาบคาย รวมถึงรักร่วมเพศและการบูชายัญสัตว์

9. ดิสนีย์

ดิสนีย์ถือเป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถึงแม้พวกเขาจะสร้างความสุขให้กับเด็กๆ แต่ก็มีข่าวลือที่น่าขนลุกเกี่ยวกับศพของ วอลต์ ดิสนีย์ ที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะนำอัฐิมายืนยันแล้วก็ตาม แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่า นั่นเป็นอัฐิของผู้ก่อตั้งดิสนีย์จริงๆ

นอกจากนั้น ดิสนีย์ยังคงถูกล่าวหาเกี่ยวกับเนื้อหาที่แอบซ่อนอยู่ในการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางเพศ หรือจะเป็นตัวเลข 666 ที่ปรากฏอยู่ รวมถึงโลโก้ของ วอล ดิสนีย์ ก็มีคนตาดีกล่าวหาว่ามีตัวเลข 666 นี้ซ่อนอยู่ด้วย

10. วิทยาศาสตร์

เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา วิทยาศาสตร์มักจะเกิดข้อขัดแย้งกับคำกล่าวในพระคัมภีร์หลายครั้ง มันจึงถูกประณามว่าเป็นผลงานของซาตาน ซึ่งนั่นรวมไปถึงวิทยาศาสตร์ในทุกสาขา ที่ถูกดูหมิ่นว่า เป็นแค่เรื่องโกหก หมิ่นศาสนา และเป็นบุตรของซาตาน

ในสมัยที่กาลิเลโอใช้กล้องโทรทรรศน์เพื่อศึกษาท้องฟ้า เหล่าบรรดาผู้แทนจากคริสตจักรไม่ยอมแม้กระทั่งจะมองผ่านมัน เพียงเพราะพวกเขาอ้างว่า มันเป็นเครื่องมือของซาตาน และเมื่อเขาพิสูจน์ได้ว่า โลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลและมันโคจรรอบดวงอาทิตย์ นั่นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย เพราะเขากลับถูกตัดว่าเป็นคนนอกรีต ผลงานของเขาถูกห้ามเผยแพร่ และเขาต้องใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการถูกกักบริเวณในบ้านชนบท

ที่มา http://allday.com/post/10338-these-13-ridiculous-things-were-once-actually-accused-of-being-the-work-of-satan/