10 "สิ่งลึกลับ"ทางโบราณคดีที่ถูกพบในอเมริกา และมันทำให้นักวิทยาศาสตร์ถึงกับงง

การค้นพบทางโบราณคดีถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้เรารู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ได้ แต่บางครั้งการค้นพบก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่เป็นปริศนาอีกต่อไป เพราะนี่คือ 10 การค้นพบ"สิ่งลึกลับ"ทางโบราณคดีในอเมริกา ที่เป็นปริศนาและไม่สามารถหาคำตอบได้จนทำเอานักวิทยาศาสตร์งงกันเลยทีเดียว

 

1. หินลึกลับที่ทะเลสาบ Winnipesaukee

 

ถูกค้นพบในรัฐนิวแฮมเชียร์ในปี 1872 มันเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่ง บนหินมีภาพของข้าวโพด ใบหน้าคน และใบหูของคนสลักไว้ มีหลายทฤษฎีด้วยกันที่อธิบายที่มาที่ไปของมัน

แต่เชื่อกันว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญจากตระกูลหนึ่งให้อีกตระกูลหนึ่งเป็นสนธิสัญญาเพื่อสันติภาพ แต่ในขณะเดียวกันบางทฤษฎีก็เชื่อว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากเซลติกหรือเอสกิโม

 

 

2. ถ้ำอินเดียนแดง petroglyphs

 

มันเป็นถ้ำขนาดเล็กในเวสต์เวอร์จิเนีย ถูกค้นพบในศตวรรษที่ 19 และมันไม่ใช่ถ้ำธรรมดาเพราะที่ผนังถ้ำถูกปกคลุมไปด้วยภาพวาดของสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งงูและปลา โดยเชื่อกันว่าเป็นฝีมือของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน

 

 

3. สโตนเฮนจ์ของอเมริกา

 

สร้างขึ้นจากหิน chambers เชื่อกันว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนโบราณใน Salem รัฐนิวแฮมเชียร์ ในขณะเดียวกันก็มีหลายทฤษฎีที่เชื่อกันว่าโครงสร้างของมันสร้างขึ้นด้วยฝีมือของชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนามานานกว่า 2,000 ปี

 

 

4. Poverty Point

 

ตั้งอยู่ในหลุยเซียน่า เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ทั้งยังไม่มีใครรู้อีกด้วยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาทำไม แต่นักโบราณคดีบางคนเชื่อว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธี

 

 

5. Upton Chamber

 

ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา ประกอบไปด้วยทางเดินยาว ทั้งยังมีโดมภายในอีกด้วย หลักฐานบ่งบอกว่าผู้ที่สร้างมันขึ้นมามีความรู้เรื่องโครงสร้างของหินเป็นอย่างดี และที่น่าอัศจรรย์คือโครงสร้างมันสอดคล้องกับดาราศาสตร์ โดยนักวิจัยบางคนเชื่อว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยชนเผ่าโบราณ

 

 

6. Great Serpent Mound

 

เนินรูปงูขนาดใหญ่ที่นักโบราณคดีค้นพบในรัฐโอไฮโอ มันเป็นกองเนินขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณคริสตศักราชที่ 1,000 และที่น่าแปลกใจคือไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนสร้างและสร้างมันขึ้นมาทำไม แต่นักวิชาการบางคนเชื่อว่ามันถูกใช้ในพิธีทางศาสนา

 

 

7. หินแกะสลักที่ทะเลสาบ Winnemucca

 

ตั้งอยู่ในรัฐเนวาดา ริมทะเลสาบ Winnemucca มันเป็นหินแกะสลักที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ โดยคาดว่ามันมีอายุมากถึง 10,000 ปีเลยทีเดียว แต่ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นคนสร้างและสร้างขึ้นมาทำไม ทั้งยังไม่สามารถแปลความหมายได้อีกด้วย

 

 

8. Cahokia

 

เดิมเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือมาก่อน มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 15,000 คน คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงประมาณคริสตศักราชที่ 700 เป็นเมืองที่มีชนชั้นปกครองของตนเองและมีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์

ทั้งยังมีการทำเกษตรกรรมของตนเองร่วมกับชนเผ่าอื่นๆ ทั้งยังมีการบูชายัญด้วยมนุษย์ แต่แล้วคนในเมืองกลับหายไปจากดินแดนโดยไร้เบาะแส ทำเอานักวิทยาศาสตร์ถึงกับงงเลยทีเดียวว่าพวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้ยังไง....?

 

 

9. Maine Penny

 

ในขณะที่ทำการขุดศึกษาการตั้งถิ่นฐานของชาวอเมริกันพื้นเมือง นักโบราณคดีก็ค้นพบมันเมื่อปี 1957 ถูกฝังอยู่ใต้ดิน และเชื่อว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของชาว pre-Columbian Norse ที่เคยพบในอเมริกา โดยเชื่อว่ามันถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1065 - 1080

 

 

10. Dighton Rock

 

เป็นท่อนไม้ที่ถูกพบในแม่น้ำแมสซาชูเซต เป็นก้อนหนขนาดยักษ์หนักกว่า 40 ตัน ทั้งยังมีเครื่องหมายลึกลับอีกด้วย แต่กลับไม่มีใครอธิบายได้ว่ามันหมายความว่าอะไร และเป็นปริศนามาจนปัจจุบัน

Credit: http://boredomtherapy.com/10-archaeological-discoveries/?as=799
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...