7 เหตุการณ์ "สุดมโน" ในแดนไทยแลนด์

จินตนาการ หรือ อาการมโน นั้น เกิดขึ้นจากการคิดเองเออเอง จับนู่นผสมนี่ไปต่างๆ นานา และเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยปกติแล้วมันคงไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายสักเท่าไหร่หนัก หากอาการมโนฯ ของเราไม่ไปก่อความเดือดร้อน หรือสร้างความเข้าใจแบบผิดๆ ให้กับสังคม! และนี่ คือ 10 เหตุการณ์ มโนศาสตร์ ที่เกิดขึ้นได้เฉพาะแดนไทยแลนด์เท่านั้น ตามกันไปดูดีกว่า ว่าคุณตามทันเหตุการณ์เหล่านี้บ้างไหม!

.

1.กล้องจิ๋วในรูรองเท้า ฟังดูอย่างล้ำ

ในปี พ.ศ. 2557 หลายๆ คนคงเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว กับโพสต์ของมนุษย์กล้องผู้หนึ่ง ที่โพสต์เตือนภัยบอกว่า ผู้ชายที่อยู่ในรูปนี้ มีกล้องจิ๋วซ่อนอยู่ในรองเท้า ซึ่งรองเท้านี้เจาะรูไว้ด้วย ฟังแค่นี้ ทั้งสาวๆ และผู้ที่หวังดีทุกคนก็รีบแชร์เรื่องจนทั่วโลกโซเชียลทันที แน่นอนว่าเรื่องนี้โด่งดังจนหลายเพจ และข่าวหลายๆ เจ้าเริ่มทำข่าวนี้ และที่น่าสงสารเป็นที่สุด เห็นจะเป็นชายที่ถูกถ่ายรูป และโดนกล่าวหาว่าเป็นคนโรคจิต แค่รองเท้าขาดเป็นรู ก็เป็นเรื่องได้!!
แต่แล้วเรื่องก็เกิดโป๊ะแตกขึ้นมา ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่มากกว่านี้ เมื่อเจ้าทุกข์ผู้ถูกกล่าวหา ออกมายืนยัน พร้อมโชว์หลักฐานตอกหน้ากลับมนุษย์กล้องจอมมโนฯ ซะงั้น!! แน่นอนว่า งานนี้กระแสพลิกกลับอย่างรวดเร็ว คงไม่ต้องบอกนะว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหนเละ

.

2. ยาป้ายแล้วสลบ ยาป้าย ยาสั่ง มีจริงซะที่ไหน

อย่างที่รู้ๆ กันดี นี่คืออีกหนึ่งเรื่องฮิต ที่นำมาเล่าต่อกันได้ไม่รู้จบเกี่ยวกับ ยาสั่ง ยาป้าย ยาสลบ ที่เพียงแต่สัมผัส หรือสูดดมจะตกเป็นเหยื่อ! โอ้โห ฟังดูน่ากลัวมากๆ แต่แท้จริงแล้ว ทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ต่างออกมายืนยัน และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแบบนั้นมันจะไปมีจริงได้ซะที่ไหน! เนื่องจากยาสลบนั้น มีการใช้งานที่ยุ่งยาก และไม่สามารถเกิดฤทธิ์ได้เพียงแค่การป้าย การดมเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งถ้าหากมีอยู่จริง ผู้ใช้ก็ต้องมีเครื่องมือสวมใส่ป้องกัน เพราะไม่เช่นนั้น ผู้ใช้นี่แหละที่จะสลบเองเสียก่อน! รายการ “บางอ้อ” ได้พาไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับยาป้าย ยาสั่ง กันมาแล้ว
แหม ลองคิดในมุมกลับกันสิ หากมียาแบบนี้จริงในโลก เหตุการณ์ที่ป้ายยาแล้วถอดสิ่งของ หรือแท็กซี่รมยาสลบผู้โดยสาร ก็คงจะเป็นคดีที่เกิดขึ้นได้ทั่วโลกแล้วละ แต่ทำไมคดีเหล่านี้จึงเกิดได้ที่เฉพาะไทยกันนะ? สรุปได้เลยว่า ที่ควรระวังจริงๆ คือ ยาสลบที่ใส่มาในเครื่องดื่ม ไม่ใช่ยาสลบที่สูดดม หรือยาป้ายแต่อย่างใด เลิกมโนกันนะจ๊ะ

.

3. บ่อน้ำศักดิสิทธิ์ ชาบูๆ

น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้สาขามโนศาสตร์ดีเด่นกันเลยทีเดียว เพราะข่าวนั้นยังคงมีใครหลายๆ คน ต่างก็ต้องจดจำได้แน่! เรื่องของเรื่องนั้น สืบเนื่องมาจากน้ำที่ซึมขึ้นมาจากพื้นดิน ประกอบกับตัวผู้พบเพิ่งฝันเห็นญาติที่เสียชีวิต มาบอกวิธีการรักษาโรคให้ แหม ช่างบังเอิญเสียจนตลกร้าย และนั่นก็ทำให้ใครหลายคนเชื่อว่า นี่คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มกินแล้วจะหายจากโรค! และเมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป จึงทำให้ชาวบ้านที่เชื่อในเรื่องอภินิหารย์ต่างพากันมากราบไหว้ บูชาบ่อน้ำที่ว่ากันอย่างล้นหลาม และเป็นหนักถึงขนาดเห็นฟองอากาศที่ผุดขึ้นมา คือการแสดงปาฏิหารย์จากกสวรรค์ เอิ่ม ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ ทางกระทรวงสาธารณาสุข และแพทย์ท้องถิ่นนั้น ได้มาขอน้ำจากบ่อดังกล่าว เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง แน่นอน เรื่องมันก็โป๊ะแตกเพราะน้ำที่ว่านั้น ไม่ได้สะอาดดั่งที่ตาเห็น และเมื่อขุดลงไป ก็พบท่อเก่าเป็นท่อพีวีซี ซึ่งเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติดกันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4 เมตร เท่านั้น!! คงไม่ต้องบอกนะว่าจะอึ๋ยกันมากแค่ไหน

.

4. ว่านจักจั่น กินแล้วดี บูชาแล้วรวย

 

นักสะสมเครื่องรางของขลังทั้งหลาย คงจะผ่านหูผ่านตากันมา ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับเจ้าว่านจักจั่นนี้ โดยเจ้าว่านจักจั่น มีความเชื่อว่าเป็นกึ่งพืชกึ่งสัตว์ เหมือนกับมักกะลีผล แถมว่ากันว่า บูชาแล้วจะมีโชคด้านเมตตามหานิยม และร่ำรวยเงินทอง ราคาขายก็ถือว่าทำเงินได้ไม่ใช่น้อยๆ อะหือ ก็น่าหรอก หน้าตาแปลกประหลาดซะแบบนี้ พออยู่ในเมืองไสยศาสตร์แบบไทยแลนด์ มันก็ต้องแบบนี้แหละ แต่คุณรู้หรือไม่ ไอ้ที่มโนๆ กันไปว่าเป็นเหมือนมักกะลีผล หรือให้โชคลาภนั้น ตัวจริงของเจ้าว่านจักจั่น ที่แท้คือซากจักจั่นที่ตายเพราะเชื้อราต่างหาก! แถมกินเข้าไปก็สุ่มเสี่ยงเจอเชื้อราที่เป็นพิษกับคน อาจถึงตายได้อีกด้วย อืม รู้ขนาดนี้แล้ว ก็ค่อยๆ วางว่านจักจั่นในมือลง แล้วเลิกมโนกันเถอะเนอะ

.

5. สัตว์ประหลาดจากเจลลดไข้!

เป็นเรื่องที่โด่งดังอยู่พอสมควร ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2549 แถมภายหลังก็กลับกลายเป็นแคมเปญสุดตลกอีกต่างหาก เมื่อชาวบ้านได้พบกับวัตถุหล่นลงมาจากฟ้า และเมื่อพายุสงบลง เจ้าของบ้านหลังหนึ่งก็ได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้น แปลกประหลาดขนาดนี้ เจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลู และดอกไม้มาบูชา แถมยังมีความเชื่อ (ซึ่งก็ใครไม่รู้พูด)ว่า หากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล) จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไป คลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ท้ายสุดแล้วเรื่องก็โอ้ละพ่อไปตามระเบียบ เพราะหลังจากทดสอบนำหนอนประหลาดมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้น นั้น เป็นวัตถุแบบเดียวกัน! ก็ถือว่าดับฝันมโนของคอหวยหลายๆ คนกันไป แต่ความฮายังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากความจริงได้ปรากฏ แผ่นเจลลดไข้ก็ถึงกับขาดตลาด เนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมา ย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆ กันอย่างสนุกสนานกันซะงั้น

.

6. GT200 สุดยอดเครื่องหาระเบิด

ถือเป็นศาสตร์มโนระดับนานาชาติ เพราะเจ้าเครื่อง GT200 ที่กล่าวว่า สามารถใช้ค้นหาระเบิดได้นี่ แท้จริงแล้วไม่ใช่เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีล้ำยุคแต่อย่างใด เป็นเพียงการย้อมแมวขายเท่านั้น แถมเจ้าเครื่องที่มาก็ดันนนนน มาจากบริษัทต่างประเทศ ซึ่งภายหลังศาลได้สั่งฟ้อง และจัดเก็บเจ้าเครื่องที่ว่านี้แทบจะทันที แน่นอนว่าการมโนว่าเจ้าเครื่องนี้มันทำงานได้นั้น ส่งผลกระทบในวงการเกี่ยวกับทหาร หรือตำรวจ ที่ต้องคอยค้นหาระเบิดตามที่ต่างๆ เป็นอย่างมาก ไม่เว้นกระทั่งที่ไทย!! โดยข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่โตครึกโครม มีการท้าพิสูจน์ ดีเบทเรื่องการใช้งานของเจ้าเครื่องจอมมโนกันอย่างแพร่หลาย แน่นอนว่า ผลการทดสอบพบว่าประสิทธิภาพนั้นสามารถทำงานในการตรวจจับวัตถุระเบิดได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนการทดลองเสียด้วยซ้ำ ท้ายสุดกองทัพบกก็ต้องสั่งเก็บอุปกรณ์ทั้ง 1,398 เครื่อง มูลค่ากว่า 1,178 ล้านบาท และยังคงเป็นคดีความที่ต้องดำเนินการกันต่อไป ทั้งคดีความในไทย และคดีการชดเชยเงินจากทางบริษัท และถึงแม้ทุกวันนี้จะมีการยกเลิกใช้ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเจ้าเครื่องนี้นี่แหละ เป็นอีกหนึ่งเรื่องจอมมโนฯ ที่ดังในระดับนานาชาติ!

.

7. ยาดี สมุนไพรเด็ด สูตรรักษาครอบจักรวาล

หากใครเล่นเฟซบุ๊กก็คงคุ้นหุคุ้นตาไม่น้อยกับสูตรต่างๆ ที่ต้านมะเร็ง แต่ทางการแพทย์ปกปิดไว้เพราะเภสัชอยากขายยา อืม ฟังดูดีนะ สำหรับการบำบัดด้วยธรรมชาติ หรือสมุนไพร แต่ก็ต้องรับทราบกันเอาไว้ ว่าสารบางประเภทนั้น จำเป็นต้องสังเคราะห์ในห้องแลป จึงจะได้ฤทธิ์ออกมารักษาโรค ไม่ใช่จู่ๆ จะเอามะนาวมาเติมกับโซดา ทานรักษามะเร็ง มันจะไปรักษากันได้ยังไง ที่เห็นกันได้ชัดที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘ใบทุเรียนน้ำ’ ที่ขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกแล้วว่า ยังไม่สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้จริงๆ เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนวิจัย และต้องใช้ห้องแลปในการสกัดสารรักษามะเร็งเฉพาะเท่านั้น และการทานเข้าไปในปริมาณมากๆ ก็จะได้รับผลตรงกันข้าม เพราะใบทุเรียนน้ำ จะส่งผลเสียทำลายระบบประสาทในสมองของคนเรานั้นเอง ไม่เพียงแค่การแชร์สูตรการกินผักผลไม้แบบผิดๆ ที่รักษาโลกได้ครอบจักรวาลเท่านั้น แต่บรรดายามโนฯที่กล่าวอ้างเกินความเป็นจริงก็มีไม่น้อย ไม่ว่าจะระเบิดไขมัน สลายพุง อกฟูรูฟิต ที่มีมากมายเต็มหน้าไทม์ไลน์ ซึ่งแน่นอนว่า ก็คงมีหลายคนไม่น้อยเลยที่เอือมไม่ต่างกัน หลายครั้งหลายคราที่เหตุการณ์เหล่านี้ เกิดเพียงเพราะนึกคิด หรือมโนเชื่อมโยงกันไปเอง หากไม่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก็อาจทำให้เกิดความเชื่อแบบผิดๆ ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ในสังคมได้ แต่ถ้ารู้แจ้ง เห็นจริงกันแล้ว การบอกต่อในสิ่งที่ถูกต้อง นอกจากจะเป็นเรื่องที่ควรทำแล้ว คุณยังได้ช่วยสังคมให้เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคมโนไปเองอีกด้วยนะ!

.

ที่มา : rabbit

Credit: http://zpore.com/chimerical-thailand
#7 #เหตุการณ์ #สุดมโน
attiwat
เจ้าของบทประพันธ์
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
4 ม.ค. 60 เวลา 05:50 2,797 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...