10 อาหารลดความอ้วนยอดนิยมประจำปี 2016

 

เทรนด์ดูแลสุขภาพเริ่มมีมาหลายปีแล้ว แล้วมีวัตถุดิบที่ช่วยเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก พร้อมประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกายที่ฮอตฮิตติดลมบนในปีนี้มากมาย จะมีอะไรที่เราควรนำมาทานตามเทรนด์กันบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

 

1.ชาเขียว

อาหารลดความอ้วนยอดนิยมประจำปี 2016 ชาเขียว ชาเขียวเป็นอาหารที่ช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคร้ายอย่างเช่นโรคหัวใจ มะเร็ง ชะลอความชรา และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายด้วย ใครที่ติดคาเฟอีน แต่อยากหลีกเลี่ยงกาแฟ และชานม เราแนะนำชาเขียว แต่ระวังเรื่องของปริมาณด้วย เพราะชาเขียว 1 แก้ว มีคาเฟอีนมากกว่าชาธรรมดาถึง 3 เท่า ควรดื่มเป็นชาเขียวธรรมชาติ ไม่ผสมนมและน้ำตาล และชงบางๆ ไม่ต้องเข้มข้น ดื่มแทนกาแฟในตอนเช้าได้

 

2.น้ำซุป

น้ำซุป หรือน้ำต้มกระดูกสัตว์ ผสมผัก และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ จนออกมาในรูปของซุป หรือของเหลว น้ำซุปเป็นอาหารที่ช่วยในเรื่องความงาม ระบบการย่อยอาหาร และมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่บางครั้งซุปเหล่านี้ก็มีปริมาณโซเดียมมากเกินไป หากจะรับประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรทำรับประทานเอง และควบคุมปริมาณส่วนผสม ที่เราจะใส่ลงไปในน้ำซุปให้เหมาะสม

 

3.กาแฟสกัดเย็น

กาแฟสกัดเย็น เป็นเมนูที่มาแรงในปีนี้เช่นกัน และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคอกาแฟ กาแฟสกัดเย็นนี้ มีขั้นตอนในการทำต่างจากกาแฟทั่วไป เพราะไม่ใช้น้ำอุณหภูมิที่ร้อน แต่ใช้น้ำในอุณภูหมิห้อง ซึ่งทำให้ไขมัน และกรดไขมัน ไม่สลายไปเพราะความร้อน อีกทั้งยังให้รสชาติที่กลมกล่อม ความขมน้อยกว่าการใช้ความร้อน คุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระก็มากกว่า รวมทั้งยังมีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคพาคินสัน ช่วยชะลอความชรา และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้ด้วย

 

4.อโวคาโด

อโวคาโดเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพมาเนิ่นนาน สามารถนำไปทากับขนมปังแทนเนย หรือจะนำไปปั่นเป็นสมูทตี้ (น้ำตาลต่ำ) หั่นใส่สลัดผัก และอื่นๆ อีกมากมาย อโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันธรรมชาติที่มีประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดอุดตัน หากนำมารับประทานร่วมกับไข่ ซึ่งมีโปรตีน และมะเขือเทศ หรือสตอเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยวิตามินก็จะยิ่งได้ประโยชน์ และจะเป็นการดียิ่งขึ้น ถ้าคุณเลือกขนมปังแบบโฮลวีท

 

5.ขมิ้น

ขมิ้น เป็นอีกเมนูสุขภาพ เพราะขมิ้นมีเคอร์คูมิน ซึ่งมีสรรพคุณในการต่อต้านอาการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เราสามารถใส่ขมิ้นลงไปในอาหารได้อย่างหลากหลาย และจะเป็นการดีมาก หากเรารับประทานขมิ้น ร่วมกับพริกไทยดำ เพราะมันจะทำให้ร่างกายดูดซืมเคอร์คูมินได้ดียิ่งขึ้น

 

6.ข้าวดอกกะหล่ำ

ต่างประเทศเริ่มมีความนิยมในการนำดอกกะหล่ำมาผัดแทนข้าว เหมาะสำหรับคนที่อยากทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ต้องการความอิ่มเหมือนทานข้าว ข้าวดอกกะหล่ำ 1 ถ้วย จะให้พลังงานประมาณ 25 กิโลแคลอรี่ ในขณะที่ข้าวขาว 1 ถ้วย จะให้พลังงาน 215 กิโลแคลอรี่ จะลองซื้อมาทานแทนข้าวดูบ้างก็ได้นะคะ

 

7.แมลง

จริงๆ แล้วแมลงเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูก แต่ให้สารอาหารดีๆ มากมาย แมลงน้ำหนักเพียงแค่ 100 กว่ากรัมนั้น ให้โปรตีนเท่ากับอกไก่เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้การปรุงแมลงด้วยการนำไปทอดในน้ำมันเยอะๆ เก่าๆ และปรุงรสด้วยซีอิ้วขาวมากมาย ไม่ใช่การปรุงแมลงที่ดีต่อสุขภาพนัก ดังนั้นหากไม่สามารถปรุงทานเองได้ ก็ไม่ควรทานบ่อย หรือมากจนเกินไป แต่หากปรุงทานเองได้ ควรใช้น้ำมันน้อย และไม่ปรุงรสเค็มจัด

 

8.เมล็ดพืชต่างๆ

เมล็ดของพืช ไล่ไปตั้งแต่เมล็ดทานตะวัน เมล็ดเจีย ไปจนถึงพวกเมล็ดถั่ว ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้ทั้งหมด เมล็ดพืชเหล่านี้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และไฟเบอร์สูง แต่ทั้งนี้เราควรเลือกรับประทานเมล็ดพืช ที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปต่างๆ เพื่อให้ได้แต่ประโยชน์เต็มๆ ไม่มีน้ำตาล โซเดียม หรือสารปรุงแต่งเพิ่มเติมจนทำร้ายร่างกาย

 

9.มันเทศ

ในปี 2016 นี้ ฟักทอง ดูเหมือนจะไม่ใช่อาหารสุขภาพสีส้มที่โดดเด่นที่สุดแล้ว เพราะมีเมนูมันเทศ สำหรับการนำมาใช้ทาขนมปังปิ้ง พุดดิ้ง แพนเค้ก หรือแม้กระทั่งทานกันซุป และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย มันหวานนั้น ไม่เพียงแค่มีรสอร่อย แต่มียังมีวิตามินสูงอีกด้วย

 

10.โปรตีนบาร์

หากคิดจะหาขนมรับประทานเล่นที่ทานแล้วไม่รู้สึกผิดต่อรางกาย ปีนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และบล็อกเกอร์ แนะนำโปรตีนบาร์ เพราะเป็นอาหารที่รับประทานง่าย พกพาง่าย ส่วนมากจะทำมาจากผลไม้แห้ง ถั่ว และเพิ่มไขมันโอเมก้า 3 เข้าไป ถือว่าเป็นของว่างระหว่างมืออาหารที่ดีทีเดียว

แม้ว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมมาตลอดปี 2016 แต่ก็อย่าเผลอทานเยอะจนเกินไปล่ะ เพราะไม่ว่าอาหารเหล่านั้นจะมีประโยชน์มากเพียงใด หากทานมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้นเดินทางสายกลาง ทานอาหารให้หลากหลายเข้าไว้ และอย่าลืมออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอด้วย เท่านี้ร่างกายอันแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บก็จะเป็นของคุณได้ง่ายๆ แล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก time.com

ภาพประกอบจาก istockphoto

Credit: http://health.sanook.com/5645/
19 ธ.ค. 59 เวลา 07:07 828 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...