ดินแดนเอเชียตะวันออกอันประกอบไปด้วย จีน,เกาหลี,ญี่ปุ่น
จัด เป็นพื้นที่ที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่ที่สืบต่อๆกันมา
มีประวัติศาสตร์ความ เป็นมายาวนาน มีวัฒนธรรมที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัว
ซึ่งคราวนี้ กุมารสยามจะขอกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับเกราะของทางเอเชียตะวันออกบ้าง

เริ่ม จากจีนก่อนนะครับ
.............................................................................
จีน
เป็น ชนชาติที่มีอารยธรรมสูง สืบทอดมาตั้งแต่อารยธรรมลุ่มน้ำหวางเหอ(ฮวงโห)
เริ่ม จากการเป็นชุมชนเกษตรกรรมเล็กๆและค่อยๆพัฒนาไปสู่ความเป็นเมือง
เป็น แคว้นน้อยแคว้นใหญ่ และเมื่อมีการแย่งชิงทรัพยากรเกิดึ้น
ย่อมเป็นเหตุ นำไปสู่สงคราม ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในแผ่นดินจีนโบราณนั้น
ค่อนข้างจะเกิด สงครามบ่อยมาก ทำให้แต่ละแคว้นต้องพัฒนาความสามารถใน
การผลิต อาวุธ,พาหนะ,ชุดเกราะเพื่อไม่ให้แพ้แคว้นอื่นๆ

เกราะสมัยราชวงศ์ซาง ซึ่งเชื่อว่าเก่าแก่ที่สุด


ชุด เกราะแบบจีนตั้งแต่สมัยจ้านกว๋อ,สมัยชุนชิวเป็นต้นมา
จะมีลักษณะเป็น เกราะแบบ Lamellar คือทำจากแผ่นโลหะ,หนังร้อยเย็บติดกัน
จนเป็นผืนเกราะ ซึ่งเกราะในยุคแรกๆค่อนข้างจะหนักเอาการ
ก่อนจะค่อยๆพัฒนาให้เบาลงใน ช่วงหลัง




สงครามระหว่างแว่นแคว้นดำเนิน ไปจนกระทั่งอ๋องแคว้นฉินสามารถปราบทุก
แคว้นได้สำเร็จ และตั้งตนเป็นหวางตี้(ฮ่องเต้)องค์แรก คื่อ"ฉินสื่อหวางตี้"
(จิ๋นซี ฮ่องเต้ นั่นเอง)


นักรบดินเผาที่พบในสุสานจิ๋นซี


เกราะ และหมวกศึกที่ขุดพบโดยนักโบราณคดี










หลัง จากแผ่นดินฉินเกิดจลาจล หลิวปังเป็นผู้รวมแผ่นดินขึ้นใหม่
สถาปนาตนเป็น ฮ่องเต้ เป็นจุดเริ่มต้นราชวงศ์ฮั่น
เกราะนักรบราชวงศ์ฮั่นจะยังคงเป็น ลักษณะ Lamellar เหมือนเดิม



ราย ละเอียดของเกราะสมัยฮั่น







ปลาย สมัยราชวงศ์ฮั่น เกิดความวุ่นวายในแผ่นดินจีน
นำไปสู่ช่วงแห่งสงครามอัน ยาวนานที่เรารู้จักในนาม"สามก๊ก"



อัน นี้เป็นภาพจากในหนัง


ช่วงเวลานั้นเป็นยุคแห่ง ความไร้เสถียรภาพในแผ่นดินจีน
เกิดการแบ่งเป็นแคว้นน้อยใหญ่ รบพุ่งกันเองอยู่กว่าสามร้อยปี
จนกระทั่งมีการรวมจีนอีกครั้งโดยแม่ทัพ หยางเจียน
ผู้สถาปนาราชวงศ์สุย

เกราะ จีนในสมัยราชวงศ์สุย


ราช วงศ์สุยครองจีนอยู่ราว ๔๐ ปี ก็ถูกโค่นลง
แม่ทัพหลี่หยวนก้าวสู่อำนาจ สถาปนาราชวงศ์ถังขึ้นมาแทน

ลักษณะ เกราะสมัยถังค่อนข้างคล้ายกับสมัยสุย


การ สวมเกราะ



ลักษณะเกราะจีนสมัยสุย-ถังตอน ต้นจะมีรูปแบบที่สืบมาจากช่วง
สงครามกลางเมืองหลังสมัยสามก๊ก มีการนำแผ่นโลหะเย็บติดกับผืนผ้า
หรือผืนหนัง(ดังภาพบน)
ต่อมาในช่วง กลางสมัยถัง ก็เริ่มมีการพัฒนาเกราะLamellarให้ผู้สวมใส่
สามารถเคลื่อน ไหวสะดวกมากขึ้น

เกราะ แบบดังกล่าวนี้ ได้สืบทอดลงมาจนถึงสมัยราชวงศ์ซ่งอีกด้วย

ชิ้น ส่วนของชุดเกราะ




สิ้น ราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่ชนเผ่ามองโกลเรืองอำนาจ สามารถยึดจีนไว้ได้
สถาปนา ราชวงศ์หยวนขึ้นมาปกครอง
สำหรับลักษณะเกราะจีนในยุคนี้จะผสมผสานกับเกราะ แบบมองโกลด้วย




ต่อ มา จูหยวนจางได้รวมพลขับไล่มองโกลออกไป และก่อตั้งราชวงศ์หมิง
ึขึ้นมา แทน
เกราะในยุคนี้ สืบทอดรูปแบบมาจากเกราะจีนในช่วงสมัยถัง และซ่ง



ชุดเกราะจะประกอบไปด้วยแผ่น โลหะชิ้นเล็กหลายๆชิ้น เย็บติดกับผ้า


และ ยังมีเกราะที่เป็นลักษณะเสื้อกั๊กอีกด้วย



เกราะ สมัยราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายของจีนที่ปกครองโดยชาวแมนจู

ภาพ ฮ่องเต้เฉียนหลง วาดโดยมิชชันนารีฝรั่ง แสดงให้เห็นถึงรูปแบบเกราะ

เสื้อเกราะในช่วงนี้จะเป็นแบบ ที่เรียกว่า Brigandine

ทำ จากแผ่นโลหะยึดด้วยหมุดกับผืนผ้า


เหล่า ทัพแปดกองธงแห่งราชสำนักชิงอันเกรียงไกร


................................
...............................
นอก จากนี้ยังมีเกราะแบบอื่นของชนกลุ่มน้อยในจีน เช่น
เสื้อเกราะของชนเผ่า อี๋ ทางตอนใต้ของจีน



เสื้อ เกราะชนเผ่าพื้นเมืองในเกาะไต้หวัน(เผ่าเกาซาน,ยามิ)



เกราะ ของชาวมองโกล

เกราะนักรบทิเบต

--------------------------------------------------------------------------------
ตอน ต่อไป
รูปแบบของ"เกราะ"ในแต่ละชนชาติ(๖/๒)----The East Asia Armour : KOREA & JAPAN