ศาลารำลึกวีรกรรม ดอยยาว- ดอยผาหม่น

ศาลารำลึกวีรกรรม ดอยยาว- ดอยผาหม่น










ในพื้นที่ชายแดนไทย – ลาว ตั้งแต่อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ อำเภอเวียงแก่น อำเภอขุนตาล อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และ อำเภอเชียงคำ อำเภอภูซาง อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ในอดีตเคยมีการสู้รบอย่างรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงจากการปกครองจาก ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ให้เป็นระบอบคอมมิวนิสต์

สถานการณ์การต่อสู้ได้ยุติลงเมื่อ ปี ๒๕๒๕ นับว่าไม่นานเลย บุคคลที่เคยมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ยังคงอยู่ทั้ง สองฝ่าย ดังนั้นบุคคลทั่วไปจึงควรที่จะได้รับรู้เหตุการณ์ในอดีตเพื่อจะได้เป็นข้อเตือนใจ ของคนไทยต่อไป

หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานจู่โจมและกองพันทหารราบที่ ๔ กรมทหารราบที่ ๑๗ จึงได้ร่วมกันดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๒๑ เส้นทางสายบ้านปี้- บ้านลุง บ.รักแผ่นดิน ต.ตับเต่า อ.เทิง จว.เชียงราย สร้างศาลารำลึกวีรกรรมดอยยาว – ดอยผาหม่นขึ้น โดยนำเอาประวัติการสู้รบในพื้นที่ เหตุการณ์การเสียสละของเจ้าหน้าที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมทั้งบทพระราชนิพนธ์ขององค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มาประดิษฐานไว้ ณ ศาลาแห่งนี้ 

เพื่อรำลึกถึงความเสียสละของเจ้าหน้าที่ และเชิดชูเกียรติให้กับผู้เสียสละทั้งหลาย คนรุ่นหลังจะได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต เป็นข้อเตือนใจให้รู้รักสามัคคี 

โดยได้ทำ พิธีเปิดศาลารำลึกวีรกรรมดอยยาว – ดอยผาหม่น เมื่อ วันศุกร์ที่ ๑๗ มี.ค.๔๙ เวลา ๑๐๐๐ น.

และได้มอบสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลตับเต่า อ.เทิง จังหวัดเชียงรายต่อไป

ศาลาแห่งนี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความปรารถนาดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีต่อราษฎรในพื้นที่ 

โดยเฉพาะเส้นทางสาย บ้านปี้ - บ้านลุง แห่งนี้ ในห้วงของการก่อสร้างได้รับการขัดขวางจากกลุ่มผุ้ก่อการร้ายอย่างรุนแรง ทำให้ฝ่ายเราได้รับความเสียหายอย่างหนัก กำลังพลบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยประมาณ ๑ ศพ ต่อ ๑ กิโลเมตร

แต่ผลที่ได้รับในปัจจุบัน เส้นทางสายนี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงให้ราษฎร ในพื้นที่ดำรงชีพอยู่ได้อย่างมีความสุขเป็นสิ่งยืนยันในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติดีต่อราษฎรในพื้นที่ 

นอกจากนั้นแล้วยังเป็นสัญลักษณ์ของของความร่วมมือร่วมใจกันทุกหมู่เหล่า ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชนในการช่วยกันแก้ไขวิกฤตของชาติ ให้ผ่านพ้นไป ภายใต้พระบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์



- - - - - - - - - - - - - - - - -


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชนิพนธ์ กลอน พระราชทานเป็นที่ระลึกใน วันพระราชทานเพลิงศพ สองนักรบผู้กล้าหาญ เมื่อ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๒ ดังนี้ 

- - - - - - - - - - - - - - - -


แด่ ร.ท.ทายาท คล่องตรวจโรค และ ร.ท.ปิยะวิพากษ์ เปี่ยมญาติ




เสียงปืนยัง กึกก้อง ทั้งสองหู 

คิดถึงผู้ กล้าหาญ ชาญสมร

เสียสละ ต่อสู้ ผู้ราญรอน 

จนม้วยมรณ์ ถมร่าง หว่างพื้นดิน 


นาม ทายาท นามนี้วีรบุรุษ 

ปิยะวิพากษ์ สู้สุด จนด่าวดิ้น

สิบเจ็ด มีนาที่ พลีชีวิน 

เพื่อป้องถิ่น ความเสรี ธานีไทย 


นำกำลัง ลาดตระเวณ คุ้มเส้นทาง 

ก่อการร้าย ขัดขวาง สร้างไม่ได้ 

เหล่าศัตรู มุ่งร้าย หมายเอาชัย 

ปะทะใน ระยะ กระชั้นกาย


ระดมยิง ปืนเล็ก และอาร์พีจี 

ข้าศึกมี จำนวนดู อยู่มากหลาย

ทายาท นั้นน่านิยม สมเป็นนาย 

สั่งทุกคน อย่าหนีหาย จงสู้มัน


ทหารตรึง รับไว้ ไม่มีถอย 

กำลังน้อย สู้ได้ ไม่เคยยั่น

ให้ส่วนมาก อยู่รอด ปลอดภัยกัน 

ไม่เสียขวัญ เพราะหัวหน้า กล้าทำการ 


แต่กำลัง เหล่าอริ มีมากกว่า 

ยิงถูก ทายาท ม้วยมุด สุดสังขาร 

พร้อมปิยะวิพากษ์ ยอดชายชาญ 

ประวัติศาสตร์ จะจาร จารึกนาม


การสละ ชีวี ชี้ให้เห็น 

ว่าเขาเป็น ผู้มีใจ ไม่เกรงขาม 

ทั้งเด็ดเดี่ยว สตินั้น มั่นทุกยาม 

เมื่ออยู่ท่าม กลางภัย ไวปัญญา


ขอเทิดทูน นักรบไทย ผู้ใจเด็ด 

ดังเหล็กเพชร ปรากฎ เกริกยศฐา

สละสุข ยอมลำบาก ยากกายา 

ทอดชีวา เพื่อชาติ ปราศผองภัย


ขอวิญญาณ ท่านจง เสวยสุข 

เกียรติกระเดื่อง เลื่องทุก ยุคสมัย

จงคุ้มครอง บ้านเมือง รุ่งเรืองไกร 

ให้ชาติไทย คงอยู่ คู่ฟ้าดิน




- - - - - - - พ.อ.สาธิต ศรีสุวรรณ ๑๐ มี.ค. ๒๕๔๙ - - - - - -



Credit: sathit 1
29 มิ.ย. 53 เวลา 22:27 2,926 1 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...