แมงกะพรุนกล่องสายพันธุ์ ชิโรเน็กซ์ เฟล็กเคอรี
แมงกะพรุนกล่องสายพันธุ์ ชิโรเน็กซ์ เฟล็กเคอรี มีเซลล์พิษนับล้านๆ เซลล์ กระจายอยู่ตามหนวด เซลล์เหล่านี้จะฉีดพิษใส่ร่างของเหยื่อในเวลาเพียงสามมิลลิวินาทีนับตั้งแต่สัมผัสผิวของเหยื่อ ซึ่งเร็วกว่าอัตราความเร็วของถุงลมนิรภัยในรถยนต์ขณะเกิดอุบัติเหตุถึงสิบเท่า
แมงกะพรุนกล่องสายพันธุ์ ชิโรเน็กซ์ เฟล็กเคอรี (Chironex fleckeri) ซึ่งอาศัยอยู่ในน่านน้ำทางตอนเหนือของออสเตรเลีย จัดว่าเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก คำว่า Chironex มาจากการผสมคำในภาษากรีก "chiro" แปลว่ามือ กับคำในภาษาละติน "nex" แปลว่าความตาย เมื่อโตเต็มที่ หนวดของแมงกะพรุนพิษชนิดนี้ซึ่งมีมากถึง 60 เส้น สามารถยืดไปได้ไกลถึงสามเมตร หากสัมผัสสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น เซลล์พิษนับล้านๆ เซลล์ซึ่งกระจายอยู่เต็มพื้นผิวของหนวดแต่ละเส้นจะแตกตัวออก แล้วปล่อยเข็มพิษซึ่งจะฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายเหยื่อ หากเหยื่อเป็นมนุษย์ พิษจะออกฤทธิ์เฉียบพลันทำให้หัวใจหยุดทำงานและคร่าชีวิตเหยื่อได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ตามปกติแมงกะพรุนชนิดนี้อาศัยอยู่ในทะเลลึก แต่บางครั้งอาจถูกกระแสน้ำซัดขึ้นไปในแม่น้ำ ถ้าระดับน้ำลดต่ำและกระแสน้ำไหลช้า มฤตยูเงียบแห่งท้องทะเลชนิดนี้ตร่าชีวิตชาวออสเตรเลียไปแล้วไม่ต่ำกว่า 64 รายตั้งแต่มีรายงานการค้นพบเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว
รูท แม็กคลินเร่งเครื่องยนต์ไปตามทางหลวงบรูซ เธอไม่เคยขับเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มือหนึ่งกระชับพวงมาลัยรถ ส่วนอีกมือก็กดโทรศัพท์แนบหู ขณะปากที่ปากถ่ายทอดคำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ได้รับมาจากพนักงานตอบรับโทรศัพท์ฉุกเฉินอีกต่อ ช่วงวินาทีวิกฤตแทรกตัวเข้ามาเมื่อราเชล ลูกสาววัยสิบขวบหยุดหายใจ ขณะนี้เด็กหญิงนอนเหยียดยาวหมดสติอยู่บนตักเจฟฟ์ ชาร์ดโลว์ที่เบาะหลัง รูทคิดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่าลูกจะตายหรือไม่
อีกแค่หกวันก็จะถึงวันคริสต์มาส ปี 2552 แล้ว วันนั้นทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดีแม้อากาศในฤดูร้อนจะทรมานอยู่ไม่น้อย พอบ่ายคล้อยอุณหภูมิสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส สมาชิกทุกคนในครอบครัวของรูทกับเจฟฟ์ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะบอยน์ ห่างจากเมืองบริสเบนไปทางเหนือ 530 กิโลเมตร มีใจตรงกันคืออยากเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน หรืออย่างน้อยก็เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
ทั้งครอบครัวเดินทางไปถึงบริเวณตั้งค่ายพักแรมริมแม่น้ำคัลลิโอเปประมาณ 16:00 น. ซึ่งห่างจากทะเลลึกเข้าไปในพื้นดินถึง 23 กิโลเมตร จุดเด่นที่นี่คือมีดงต้นยูคาลิปตัสขึ้นให้ร่มเงาและบรรยากาศเงียบสงบ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนท้องถิ่นและต่างถิ่นนิยมมาเที่ยวพักผ่อน บรรดาผู้สูงอายุนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เด็กๆ เล่นเกม ขณะที่พ่อแม่นั่งจิบเบียร์ดื่มด่ำกับช่วงเวลาสงบ ก่อนฤดูกาลพักผ่อนจะเริ่มต้นขึ้นจริงๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ฤดูแล้งส่งผลให้ไม่มีน้ำจืดไหลเข้าสู่ระบบน้ำในแม่น้ำนานราวสิบเดือน ซึ่งขณะนี้น้ำเป็นน้ำกร่อยและเค็มกว่าปกติ แต่นักเล่นเจ็ตสกีและนักว่ายน้ำหลายกลุ่มสมัครใจลงไปเล่นน้ำคลายร้อน เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังมาเป็นระยะ
หลังผูกสุนัขสองตัวของครอบครัวเข้ากับรถกระบะเรียบร้อย เจฟฟ์กับรูทหยิบเก้าอี้ออกมากาง ราเชลกับแซม พี่ชายวัย 13 และลาชลัน เพื่อนของเขา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำ
"ในน้ำไม่มีอันตรายใช่มั้ยแม่" ราเชลถาม
"ไม่มีหรอกลูก แต่อย่าว่ายออกไปไกลนักนะ" รูทพูด
เด็กทั้งสามวิ่งรี่ไปยังแม่น้ำพร้อมกระดานโต้คลื่นในมือ ส่วนรูทกับเจฟฟ์นั่งดื่มไวน์ พวกเขามองไม่เห็นลูกๆ เพราะมีสันตลิ่งบังอยู่ แต่ยังได้ยินเสียงใสของราเชลดังแหวกอากาศร้อนอบอ้าวทำให้หมดห่วงได้ พวกเด็กว่ายออกไปกลางแม่น้ำซึ่งห่างจากฝั่งประมาณ 30 เมตร
แซม ลาชลัน และราเชลเล่นอยู่ห่างกันแค่หนึ่งเมตร ในน้ำลึกเพียงเอว ทันใดนั้นแซมรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าและเข่าซ้ายเหมือน "ถูกแก้วบาด" เขาเอื้อมมือลงไปดึงก้อนหยุ่นๆ เหมือนวุ้นขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะรู้สึกเจ็บมากกว่านั้นเขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นน้องสาวสะบัดแขนพร้อมกับกรีดร้องโหยหวน
รูทดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ แล้วรีบวิ่งเต็มเหยียดไปที่แม่น้ำ ขณะแซมยกร่างราเชลขึ้นวางบนกระดานโต้คลื่น แล้วดันสุดแรงไปที่ชายฝั่ง
"เอาปลาตัวนี้ออกไปที" ราเชลตะโกนสุดเสียง
แซมลากน้องสาวขึ้นไปที่บริเวณพื้นทรายริมน้ำ จังหวะนั้นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งวิ่งรุดมาช่วยพอดี
"แมงกะพรุนกล่องแน่ เราต้องใช้น้ำส้มสายชู" หญิงผู้นั้นกล่าว ขณะรีบวิ่งไปที่รถพ่วงบ้านของตัวเอง
รูทถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นสภาพของลูกสาว ขาซ้ายของราเชลถูกหนวดแมงกะพรุนพันอยู่เกือบทั้งขา ยิ่งกว่านั้น หนวดบางส่วนยังพันลามไปถึงต้นขาขวา ช่วงท้องและแขนซ้ายด้วย รูทพยายามดึงหนวดเหล่านั้นออกโดยไม่คำนึงถึงอันตรายต่อตัวเอง แต่เข็มพิษฝังแน่นมาก และแล้วเพียงไม่กี่อึดใจราเชลก็หยุดร้อง
"หนูจะตายไหมแม่" เด็กหญิงถามอย่างอ่อนแรง
"ไม่ตายหรอก ลูกจะต้องปลอดภัย" รูทตอบทั้งที่เริ่มไม่มั่นใจนัก
หญิงสูงวัยกลับมาพร้อมน้ำส้มสายชูและกระดาษเช็ดมือ เมื่อรูทราดน้ำส้มสายชูใส่หนวดแมงกะพรุน มันก็ปล่อยหนวดคลายออกมา รูทรีบใช้กระดาษขยุ้มพิษแมงกะพรุนออกจากร่างลูกสาว แต่เธอโล่งใจได้ไม่กี่นาที ราเชลก็หมดสติไป
แซมวิ่งตรงไปหาพ่อซึ่งกำลังถือกระดาษมาเพิ่ม "เอารถออก" แซมตะโกนบอก พอเจฟฟ์ขับรถมาเทียบ ราเชลเริ่มมีรอยแดงเป็นแนวยาวบริเวณที่หนวดแมงกะพรุนสัมผัส ใบหน้าซีดขาว เธอนอนไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของแม่และปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น มีการตัดสินใจในทันทีว่า แซมและลาชลันจะรออยู่ที่นี่กับสุนัขและสามีภรรยาวัยชราคู่นั้น ขณะที่เจฟฟ์จะขับรถไปดักรถพยาบาลและรูทรับหน้าที่ดูแลราเชลอยู่ที่เบาะหลัง
เมื่อออกเดินทางไปได้เล็กน้อย รูทก็ตะโกนลั่นว่า "ราเชลหยุดหายใจ ฉันรับมือไม่ไหวแล้ว" ดังนั้น รูทกับเจฟฟ์จึงสลับตำแหน่งกัน โดยเจฟฟ์รับหน้าที่ดูแลราเชล ส่วนรูทขับรถ ขณะรถแล่นผ่านลูกฟูกบนถนน เจฟฟ์ไม่สามารถกดนิ้วลงบนคอของราเชลให้นิ่งและนานพอจนพบการเต้นของชีพจร เขาบอกให้รูทขับช้าลงหน่อย รูทตะโกนสวน ทั้งสองต่างลนลาน เจฟฟ์เริ่มปฏิบัติการกู้ชีพซึ่งเขารู้ขั้นตอนเป็นอย่างดี เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมซึ่งผ่านการฝึกอบรมด้านปฐมพยาบาลจากที่ทำงาน และยังเคยช่วยเหยื่ออุบัติเหตุด้วยวิธีเป่าปากมาแล้วถึงสองครั้ง ทว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ช่วยให้เขาพร้อมรับสถานการณ์นี้แต่อย่างใด เจฟฟ์นั่งขดอยู่เบาะหลัง มือซ้ายประคองแผ่นหลังและลำคอของราเชลไว้ขณะที่มือขวาพยายามยื้อชีวิตลูกไว้อย่างสุดความสามารถ
กดหนึ่งครั้ง, สอง, สาม, สี่ ...15... เป่าปากหนึ่งครั้ง เรานับผิดไปหรือไม่ เจฟฟ์ไม่แน่ใจ เขารู้แต่ว่าตอนนี้ต้องพยายามเป่าอากาศเข้าไปในปอดลูกสาวให้ได้ ขณะเดียวกันต้องระวังว่าไม่กดหนักเกินไปจนทำให้กระดูกหัก ระหว่างพัก เขาบอกตัวเองว่านี่คือลูกสาวของเรา
"เรากำลังไปที่สี่แยกคัลลิโอเป" รูทตะโกนใส่โทรศัพท์ขณะพูดกับเจ้าหน้าที่รับสายฉุกเฉิน
รถของรูทเลี้ยวเข้าทางหลวงบรูซ อีกสี่กิโลเมตรจะถึงสี่แยกดังกล่าว รูทเหยียบคันเร่งจนมิด
ใกล้สี่แยก โจ คักคาวิเอลโล ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน กำลังพูดคุยเฮฮากับลูกค้าสองคน ทันใดนั้นก็เห็นรถกระบะตะบึงมาอย่างรวดเร็วก่อนจะจอดสนิท แล้วมีผู้หญิงลงจากรถพลางตะโกนใส่โทรศัพท์
"ผมว่าเดี๋ยวมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแน่" โจบอกลูกค้าทั้งสองคือบ็อบฮีทกับลีแอน เบอร์กูอิส
ขณะนี้ผู้หญิงที่เพิ่งลงจากรถกำลังโบกมืออย่างบ้าคลั่ง
"ไม่ใช่เรื่องสนุกแล้ว สงสัยจะมีเรื่องร้าย" โจพูด จากนั้นก็วิ่งไปดูโดยมีบ็อบกับลีแอนตามมาติดๆ
เจฟฟ์กำลังเหนื่อยอ่อน ความวุ่นวายที่ตามมาคือโจรับหน้าที่กดหน้าแกแทนเจฟฟ์และลีแอนเป็นคนเป่าปาก เมื่อ 30 ปีที่แล้วโจเคยได้รับประกาศนียบัตรด้านการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนลีแอนซึ่งเป็นอดีตทหารหญิงประจำกองทัพเรือเคยผ่านการฝึกอบรมปฐมพยาบาลที่ครอบคลุมทุกอย่างรวมทั้งหลักสูตรการช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาล
"ใจแข็งไว้" ผู้จัดการปั๊มน้ำมันวิงวอนคนไข้ตัวน้อย
ขณะเดียวกัน รูทยังง่วนอยู่กับโทรศัพท์เพื่อถ่ายทอดคำแนะนำ "อาการของลูกยังดีอยู่" เธอพูดน้ำเสียงสั่น หลายนาทีต่อมาทุกคนได้ยินเสียงสัญญาณของรถพยาบาล โคล เพอร์ทัน เจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าเวร กำลังปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือตตามรหัสหมายเลขหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าเป็นตายเท่ากัน แค่เห็นคนไข้เพียงไม่กี่วินาที เขารีบแจ้งทางวิทยุกลับไปที่ศูนย์สื่อสารเพื่อขอให้ส่งรถพยาบาลอีกคันไปรับยาแก้พิษจากศูนย์รถพยาบาลคัลลิโอเป เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้น อาการของราเชลทรุดลงเรื่อยๆ ใบหน้าและท่อนขาเริ่มเขียวคล้ำ แสดงว่าร่างกายกำลังขาดออกซิเจน ห่างออกไปไม่กี่เมตร รถขับเคลื่อนสี่ล้อ, รถพ่วงบ้าน และรถบ้าน ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยววิ่งฉิวผ่านไป โดยที่พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่ากำลังเกิดเหตุร้ายที่อาจทำลายครอบครัวหนึ่งไปตลอดกาล
โคลใส่หน้ากากออกซิเจนให้คนไข้ ขณะที่โจขะมักเขม้นกับการปั๊มหัวใจ สองนาที่ผ่านไป โคลพบว่าชีพจรเริ่มเต้นแผ่วๆ ราเชลเองก็ต่อสู้อย่างสุดความสามารถเช่นกัน ไม่นาน สัญญาณชีพจรเต้นแรงขึ้นและเต้นช้าๆ ความดันเลือดซึ่งต่ำจนอยู่ในระดับอันตรายเริ่มกระเตื้องขึ้น ในที่สุด เด็กหญิงสามารถหายใจด้วยตัวเอง ราเชลยังอยู่ที่ด้านหลังรถพยาบาลตอนยาแก้พิษมาถึงและเจ้าหน้าที่รีบฉีดยาให้เธอที่แขน ดังนั้น เมื่อรถพยาบาลไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลฐานทัพแกลดสโตนซึ่งอยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร ราเชลก็รู้สึกตัวแล้ว เจ้าหน้าที่การแพทย์บอกรูทกับเจฟฟ์ว่าราเชลต้องอยู่โรงพยาบาลในห้องบรรเทาอาการโคม่าสักระยะเพื่อให้ร่างกายพักฟื้นจากผลข้างเคียงของการขาดออกซิเจน ไม่เช่นนั้น โอกาสที่สมองจะถูกทำลายนั้นสูงมาก
เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น ราเชลถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กในเมืองบริสเบน และสองวันต่อมา อาการก็ดีขึ้นจนถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ราเชลพักอยู่ในโรงพยาบาลอีกสองสัปดาห์และพักฟื้นในบริสเบนต่ออีกหนึ่งเดือน ในที่สุด เธอก็ได้กลับบ้าน นายแพทย์เฟรด เลดิตช์เค แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า อาการของเธอดีขึ้นอย่างมาก และระบุว่าเด็กหญิงรอดชีวิตและหายป่วยเร็วเพราะได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี รวมทั้งการปั๊มหัวใจด้วย "วีรบุรุษของเหตุการณ์นี้คือพ่อแม่ของราเชลซึ่งพยายามยื้อชีวิตลูกสาวจนถึงมือหมอ" หมอเฟรดกล่าว
หนึ่งปีหลังอุบัติเหตุครั้งนั้น สุขภาพของราเชลฟื้นเป็นปกติ ความกลัวจางหายไปเกือบหมดและจำเหตุการณ์ในวันนั้นแทบไม่ได้ เธอชอบเล่นเน็ตบอลกับวอลเลย์บอล และฝันว่าโตขึ้นจะเป็นครูหรือเชฟ
7 ขั้นตอนที่ช่วยยื้อชีวิตราเชลไว้ได้
สภาพธรรมชาติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแห้งแล้ง ระดับน้ำลดต่ำ หรือกระแสน้ำ ทั้งหมดนี้ทำให้แมงกะพรุนกล่องพลัดเข้าไปในแม่น้ำไกลจากท้องทะเลถึง 23 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วินาทีที่ราเชลถูกพิษ ทุกความช่วยเหลือที่เข้ามาเหมาะเจาะลงตัวสำหรับเธอทั้งสิ้น ต่อไปนี้คือบุคคลและวีรกรรมซึ่งส่งรับกันจนช่วยชีวิตราเชลไว้ได้
1. ราเชลกำลังว่ายน้ำอยู่กับคนอื่นๆ ตอนที่ถูกพิษ พี่ชายรีบแบกเธอขึ้นฝั่งภายในเวลาหนึ่งนาที
2. ผู้เห็นเหตุการณ์รู้จักวิธีปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและมีน้ำส้มสายชูพอดี กรดน้ำส้มทำให้เซลล์พิษของแมงกะพรุนหยุดฉีดสารพิษเข้าไปในร่างกายของราเชล
3. พ่อของราเชลเริ่มปั๊มหัวใจในช่วงนาทีแรกหลังเธอหยุดหายใจ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง
4. แม่ของเธอขับรถไปพบรถพยาบาลฉุกเฉิน ระหว่างนั้น รูทยังถ่ายทอดคำแนะนำของเจ้าหน้าที่การแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้พ่อของราเชลปฏิบัติตามด้วยตลอดเวลา
5. ผู้เห็นเหตุการณ์ผ่านการฝึกอบรมด้านปฐมพยาบาลและสามารถรับหน้าที่ปั๊มหัวใจต่อจากพ่อของราเชลได้ เพราะตอนนั้นเจฟฟ์เหนื่อยอ่อนเต็มที
6. เจ้าหน้าที่ประจำรถฉุกเฉินฉีดยาแก้พิษให้ราเชลหลังถูกพิษได้ไม่นาน ยาแก้พิษมีฤทธิ์สลายพิษของแมงกะพรุนกล่องซึ่งสามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นและทำลายเนื้อเยื่อได้
7. เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยถูกพิษ เอาใจใส่ดูแลการฟื้นตัวของราเชล
@@แมงกะพรุนกล่องในประเทศไทย@@
แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) หรือต่อทะเล (Sea Wasp) มีลักษณะต่างจากแมงกะพรุนทั่วไป คือส่วนหัวค่อนข้างยาวและคล้ายสี่เหลี่ยม มีหนวดเฉพาะที่มุมทั้งสี่ซึ่งอาจเป็นหนวดเส้นเดียวหรือเป็นกลุ่มหนวดยาวได้ถึงสามเมตร เข็มพิษที่หนวดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต โดยออกฤทธิ์กดทับระบบประสาททำให้หยุดหายใจ และยังมีผลต่อระบบหัวใจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้นเฉียบพลัน
จากรายงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลฝั่งอันดามันและบริเวณอ่าวไทยได้แก่ อำเภอละงู จังหวัดสตูล, อ่าวน้ำบ่อ จังหวัดภูเก็ต, เกาะลันตา จังหวัดกระบี่, เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะหมาก จังหวัดตราด การป้องกันเบื้องต้นควรสวมเสื้อผ้ามิเชิดลงเล่นน้ำหรือดำน้ำ เพราะเข็มพิษของแมงกะพรุนไม่สามารถทะลุผ่านได้ หากถูกพิษหรือสัมผัสกับแมงกะพรุนกล่อง ให้รียขึ้นจากน้ำ แล้วใช้น้ำส้มสายชูราดบนแผล ห้ามหยิบชิ้นส่วนของแมงกะพรุนกล่องออกด้วยมือเปล่า และไม่ควรถูบริเวณที่ถูกพิษโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เข็มพิษแตกและปล่อยพิษออกมามากขึ้น จากนั้นให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด