ฟุตบอลโลกแต่ละครั้งที่จัดขึ้นทุก 4 ปีเรื่องราวต่างๆ ทั้งในสนามและนอกสนามถูกถ่ายทอดออกมาผ่านชาติเจ้าภาพ วัฒนธรรมการเชียร์ สีสันต่างๆ ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์แห่งวงการลูกหนัง และที่มักจะมาควบคู่คือเรื่องของ "ลูก ฟุตบอล" ที่ในแต่ละครั้งของการจัดการแข่งขัน เจ้าลูกกลมๆที่ว่านี้จะถูกผลิตออกมาในแบบที่ไม่ซ้ำกัน และมีลักษณะเฉพาะไว้สำหรับทัวร์นาเมนต์เท่านั้น เช่นเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ครั้งนี้กับชื่อที่หลายคนคุ้นหู "จาบูลานี่" ลูกฟุตบอลที่ได้รับการพูดถึงมากสุด ซึ่งก็คงต้องมาทำความรู้จักกับ "จาบูลานี่" ลูกฟุตบอลที่ใช้ในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้กันเสียก่อน

"จาบูลานี่" ถูกผลิตขึ้นโดย อดิดาส แบรนด์กีฬาชื่อดังของโลกภายใต้แนวคิดใหม่ที่ต้องการให้เจ้าลูกกลมๆ ลูกนี้กลายเป็นที่สุดแห่งลูกฟุตบอลผสมผสานทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี และ สามารถสื่อได้ถึงความเป็นชาติเจ้าภาพ แอฟริกาใต้ โดยชื่อ "จาบูลานี่" นั้นหมายถึง ความสุข และ การเฉลิมฉลอง ในภาษา "ซูลู" (Zulu) ซึ่งเป็น 1 ใน 11 ภาษาที่ใช้กันอย่างเป็นทางการของประชาชน แอฟริกาใต้

อา ดิดาส กล่าวถึง ลูกฟุตบอลที่ชื่อ "จาบูลานี่" ว่า เป็นลูกฟุตบอลรุ่นที่กลมที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาแถมยังมีความเที่ยงตรง และ แม่นยำมากที่สุดเวลาลอยอยู่กลางอากาศ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังยึดเกาะเป็นเยี่ยมในทุกสภาพอากาศ และ ทุกพื้นผิวของสนาม ลูกฟุตบอลที่มีการปฏิวัติวงการลูกหนัง โดยพกความโดดเด่น ด้วยเทคโนโลยี กริป เอ็น กรู๊ป ที่เพิ่มเกล็ด และ ร่องบนผิวลูกบอลเพื่อการจับบอลที่แม่นยำ ผิวชั้นนอกประกอบด้วยชิ้นส่วน 8 ชิ้น ประกอบเข้าด้วยเทคโนโลยี 3ดี เธอร์มัล บอนดิ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการอัดด้วยแรงดันความร้อน 3 มิติ ทำให้ลูกฟุตบอลมีความกลมอย่างสมบูรณ์แบบ

"จาบูลานี่" ถูกส่งให้ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก ทดลองใช้ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ตามมามากมายจากบรรดาแข้งซูเปอร์สตาร์ ว่ามันเป็น ลูกฟุตบอลที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตรงกันข้ามกับคำโฆษณาของ บริษัทผู้ผลิต ด้วยน้ำหนักที่เบาทำให้นักเตะหลายคนบอกว่า "ยากแก่การควบคุม"

มาร์คัส ฮาเนมันน์ ผู้รักษาประตูสหรัฐฯ ที่ออกมากล่าวว่าเป็นฝันร้ายของผู้รักษาประตู เช่นเดียวกับ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน จอมหนึบมือหนึ่งของอิตาลี ที่กล่าวว่าเป็นลูกบอลที่จับทางไม่ได้ และ สุดท้าย ชูเลโอ เซซาร์ ประตูบราซิล กล่าวว่าจาบูลานี่ เหมือนลูกฟุตบอลเด็กเล่นหาซื้อได้ตามร้านขายของชำมากกว่า ทำให้เจ้าลูกฟุตบอลที่ชื่อ จาบูลานี่ เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง

ผู้ รักษาประตูอย่าง อิเคร์ กาซิยาส ของสเปน และเดวิด เจมส์ของอังกฤษ ไม่ปลื้มลูกบอล จาบูลานี่ เช่นกันขณะที่กอร์ดอน แบงค์ ส อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์โลกปี 1966 และผู้ได้รับการยกย่องว่าโชว์ "ลูก เซฟแห่งศตวรรษ"กล่าวว่า ลูกฟุตบอลใหม่กำลังทำลายศิลปะของการป้องกันประตู แบงค์ส กล่าวว่า "มันเบามาก และก็ทิศทางการพุ่งส่ายไปส่ายมาแบบนี้ผู้รักษาประตูจะทำอะไรได้

ไม่ใช่เพียงแค่เสียงสะท้อนจากผู้เล่นในตำแหน่งผู้ รักษาประตูเท่านั้น นักเตะในตำแหน่งอื่นๆ ก็พากันออกมาวิจารณ์ "จาบูลานี่" ในทำนองเดียวกันว่ายากแก่การควบคุม

"วิถีของมันเปลี่ยนได้ แบบฉับพลันทันใด ไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจ มันไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย" หลุยส์ ฟาเบียโน่ กองหน้าทีมชาติบราซิลกล่าว ขณะที่ดาเนียล แอกเกอร์ กองหลังเดนมาร์กกล่าวว่า จาบูลานี่ ทำเอาผู้เล่นนอกโซนประตูอย่างเขา "มึนตึ้บ" เช่นเดียวกับ เยสเปอร์ กรุนชาร์ ปีกเพื่อนร่วมทีมที่ยืนยันว่า "เป็นลูกฟุตบอลที่ใช้ไม่ได้" เช่นเดียวกับในรายของ จามเปาโล ปาซินี่ หอกทีมชาติอิตาลีที่ออกมาร่ายยาว "ลูกฟุตบอลเป็นหายนะทั้งสำหรับนายประตู และกองหน้า มันเคลื่อนที่เร็วมาก และยากที่จะควบคุม เมื่อคุณกระโดดโหม่งจากลูกเปิด ทันใดนั้น บอลก็จะผ่านไป และคุณก็โหม่งไม่โดน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันเลวร้ายสำหรับผู้รักษาประตู หากมันหมายความว่า พวกเขาจะเสียประตู เพราะพวกเขาไม่อาจเดาวิถีทางได้เลย มันเหมือนกับบอลที่คุณไปซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต"

ทั้งหมดคือเสียงสะท้อนที่ออกมาจากนักเตะ และดูเหมือนว่า "จาบูลานี่" จะกลายเป็นผู้ต้องหาทันทีเมื่อศึกฟุตบอลโลก เริ่ม ขึ้นประตูหลายๆ ประตูที่เกิดขึ้นล้วนถูกมองว่ามาจากความผิดปกติไม่ธรรมดาของ "จาบูลานี่" ประเดิมด้วยจังหวะพลาดของ โรเบิร์ต กรีน ในนัดที่ คลิ้น เดมพ์ซีย์ ยิงให้สหรัฐอเมริกาตีเสมออังกฤษ, ลูกยิงไกลของ โรเบิร์ต โคเร็น ดาวเตะสโลวีเนีย ซึ่งจังหวะนั้นบอลพุ่งตกกระดอนพื้น ทำให้ ชาอูชี่ ผู้รักษาประตูของ แอลจีเรีย กะจังหวะพลาดช่วยให้ สโลวีเนีย เอาชนะ แอลจีเรีย ในเกมนัดแรก, หรือที่เห็นได้ชัดอีกประตูคือ ลูกยิงของ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ที่ช่วยให้ ฮฮลแลนด์ เอาชนะ ญี่ปุ่นไป ได้ด้วยสกอร์ 1:0

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายผู้ผลิต "จาบูลานี่" ซึ่งก็คือ อดิดาส ยืนยันว่าลูกฟุตบอลที่ผลิตออกมานั้น ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใดโดยได้ส่งตัวแทนออกมาชี้แจง ระบุสาเหตุน่าจะมาจากความไม่คุ้นเคยของตัวผู้เล่น เองมากกว่า "มีผู้เล่นอยู่หลายคนที่เล่นในลีกของตัวเองด้วยลูกฟุตบอลแบบอื่นๆ ผู้เล่นหลายคนก็ไม่ได้เล่นใน แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ และมันก็มีผู้เล่นหลายคนที่ใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยกับ จาบูลานี่ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราได้นำเสนอเทคโนโลยีสมัยใหม่ออกไปให้ทุกคนได้สัมผัส และเราก็ได้แนะนำไปแล้วด้วยว่าลูกบอลของเราต้องใช้เวลาในการสร้างความคุ้น เคย ในขณะเดียวกันเราก็จำหน่าย จาบูลานี่ ไปให้กับสมาคมฟุตบอลทุกที่แล้วด้วย"


ไม่ว่ากระแสวิจารณ์ หรือผลลัพท์จะออกมาเช่นไรสำหรับขีดความสามารถของเจ้าลูกฟุตบอลที่ชื่อ "จาบูลานี่" สิ่งที่สะท้อนและปรากฏชัดคือ ความก้าวหน้าทางวิทยาการ ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

"ฟี เวอร์โนวา" หรือแม้แต่ "ทีมไกสต์" ลูกฟุตบอลที่ใช้ในศึกฟุตบอลโลก 2 ครั้งที่ผ่านมาล่าสุด เคยได้ชื่อว่าเป็นลูกฟุตบอลที่เป็นที่สุดของที่สุด แต่วันนี้กลับถูกแทนที่ด้วย "จาบูลานี่" แล้วฟุตบอลโลกในครั้งต่อๆ ไปล่ะ เป็นคำถามที่น่าคิดทีเดียว.........