http://www.meekhao.com/news/time-thai-innovation-2016
นิตยาสาร TIME จะทำการคัดเลือกสิงประดิษฐ์ที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้น และบางทีก็สนุกสนานมากขึ้นด้วย และเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ TIME ก็ได้ประกาศ 25 สุดยอดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2016 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีตัวแทนจากไทยติดโผด้วย จากไอเดียความคิดที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นความจริง ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ไร้รูปทรงในชุมชนแออัดให้กลายเป็นสนามฟุตบอลที่ไม่ธรรมดา โดยผลงานไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของ AP ที่หมีขาวได้เคยนำเสนอไปเมื่อไม่นานนี้
ดังนั้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทยอย่าง AP จึงได้คิดค้นวิธีการใหม่ในการแก้ปัญหานี้ โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่รกร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ด้วยการทำพื้นคอนกรีต ทาสีตกแต่งด้วยวัสดุกันลื่น ทำให้กลายเป็นสนามฟุตบอลรูปทรงแปลกใหม่ที่จำเป็นต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่านั้น
ทันทีที่ถึงเวลาเลิกเรียน สนามฟุตบอลรูปทรงแปลกตานี้ก็เต็มไปด้วยเด็กๆ ที่มาใช้เวลาล่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการออกกำลังกาย
โดยทาง AP ได้เปิดเผยว่า การที่นิตยสาร TIME ยกย่องให้ ‘AP Unusual Football Field’ (สนามฟุตบอลรูปทรงฉีกแนว) เป็น 1 ใน 25 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2016 นั้น ถือเป็นความสำเร็จที่เหนือความคาดหมาย
แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ความสำเร็จสูงสุดของโปรเจกต์นี้ คือ สิ่งที่เราสร้างสรรค์ขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง เพราะหัวใจสำคัญของการออกแบบก็คือการคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก นั่นก็คือคนในชุมชนที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่เราสร้างสรรค์ความตั้งใจของเราจริงๆ ซึ่งตรงกับหลักเกณฑ์ที่นิตยสาร TIME ใช้ในการคัดเลือกที่ว่าสิ่งประดิษฐ์จะต้องช่วยทำให้สังคมโลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ความคิดเห็นของเด็กๆ ที่ได้ใช้สนามฟุตบอลทรงแปลกตา
เด็กชายรัชพล ละวะนาวิก (น้องโบ้ท) อายุ 12 ปี กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นกับสนามที่มีรูปทรงแปลกไปจากสนามที่เคยเล่น และกิจกรรมในวันนี้ก็ช่วยให้เห็นทักษะการเล่นฟุตบอลของตัวเองมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเราเก่งในด้านไหนและยังมีทักษะอะไรที่ยังต้องฝึกฝนเพิ่มอีก ส่วนตัวผมจะมีจุดอ่อนเรื่องความแม่นยำ โดยเฉพาะ การเตะบอลให้เข้าเป้า และยิ่งมีสนามใหม่หน้าตาแปลกๆ แบบนี้ ก็ทำให้ผมอยากฝึกเตะบอลมากขึ้นเลยครับ”
เด็กชายศรีรัตน์ นากเงิน (น้องเนส) อายุ 14 ปี กล่าวว่า “ปกติพวกเราจะเล่นฟุตบอลกันที่อื่น เมื่อมีสนามใหม่นี้เราสามารถเจอเพื่อนที่อยู่คนละตึกได้โดยไม่ต้องหาสนามใหม่ นอกจากนี้กิจกรรมในวันนี้ยังเป็นกิจกรรมที่สร้างความตื่นเต้นในทุกช่วง โดยเฉพาะช่วงท้ายที่โค้ชให้แบ่งทีมแข่งขันเตะลูกฟุตบอลใส่ป้ายที่เตรียมไว้ เป็นการฝึกทักษะความแม่นยำได้ดีมากเลยครับ”
นายวชิตพล ศิริสวัสดิ์ (น้องจิม) อายุ 16 ปี กล่าวว่า “ตอนแรกผมรู้สึกว่าสนามเล็กและแคบ แต่พอมาลองเล่นจริงๆ แล้ว ความแคบก็ไม่ใช่อุปสรรคหรือทำให้การเล่นฟุตบอลสนุกน้อยลงเลย กลับทำให้พวกเรารู้สึกท้าทายความสามารถในการเล่นฟุตบอลมากขึ้นด้วยซ้ำ ทำให้พวกเราต้องคิดมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการกะระยะส่งบอลให้เพื่อน ก็สนุกไปอีกแบบครับ”
และนี่คือหนึงในความภาคภูมิใจของคนไทยที่สร้างสรรค์จนได้การยอมรับในระดับสากล ไม่แน่ว่าในอนาคต อาจมีนักฟุตบอลทีมชาติไทยที่ถูกสร้างขึ้นจากสนามแห่งนี้ก็เป็นได้
ที่มา: time