เรื่องราวของหนุ่มโชคดีที่อยู่ดีๆ ก็ได้รับมรดกเป็นคฤหาสน์เก่าแก่ แถมยังดวงเฮงอีกครั้งเมื่อพบทองซ่อนอยู่ในปราสาททำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีไปเลย
โดยอยู่ๆ เขาก็ได้รับการติดต่อมาว่า ญาติของเขาเสียชีวิตและได้ทิ้งมรดกไว้ให้เป็นคฤหาสน์เก่าแก่ในเมือง Evreux แคว้น Normandy ประเทศฝรั่งเศส
หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังฝรั่งเศสเพื่อตรวจสอบคฤหาสน์ เมื่อไปถึงเขาก้เข้าไปสำรวจคฤหาสน์ตามปกติ แต่ขณะที่เขาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เขากลับพบ "กล่องดีบุก" ถูกซุกซ่อนอยู่ เมื่อเปิดดูก็พบว่าภายในเต็มไปด้วย "ทองคำ"
และไม่เพียงเท่านั้น หลังจากที่เขาพบทองซูกซ่อนในกล่อง เขาก็ทำการสำรวจตามพื้นที่ต่างๆ ของคฤหาสน์ แล้วก็พบว่าภายในคฤหาสน์มีทองคำซุกซ่อนอยู่เกือบทุกที่ของบ้านทั้งห้องน้ำ ใต้โซฟา ท่อน้ำ หรือแม้แต่ขวดวิสกี้
และเมื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของทองคำเหล่านี้ก็พบว่าเป็นทองคำที่มีการซื้อขายกันอย่างถูกกฎหมายในปี 1950 - 1960 และคาดว่ามันน่าจะซุกซ่อนอยู่ในคฤหาสน์นี้มานานกว่า 60 ปี
หลังจากนั้นเขาจึงแจ้งไปยังทนายให้เข้ามาทำการบันทึกรายการทองคำและของมีค่าต่างๆ
ซึ่งตัวแทนบริษัทผู้ประมูลทองคำเปิดเผยว่า มีทองคำชิ้นเล็กๆ มากกว่า 5,000 ชิ้น ทั้งยังมีก้อนทองคำหนัก 1 กิโลกรัมจำนวน 37 ก้อน รวมไปถึงทองคำแท่งขนาดใหญ่หนัก 12 กิโลกรัมอีก 2 แท่ง คาดว่าน่าจะมีราคาทั้งหมด 130 ล้านบาท
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะขายทองคำทั้งหมดได้ 130 ล้านบาท แต่ก็ใช่ว่าเงินทุกบาทจะเข้ากระเป๋าเขาหมด เพราะตามกฎหมายมรดกของฝรั่งเศสกำหนดไว้ว่า หากเจ้าของทรัพย์สินคนก่อนไม่ได้เสียภาษีก่อนที่จะเสียชีวิต ผู้ที่รับมรดกต้องเสียภาษี 45% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับ
เท่ากับเขาต้องเสียเงินไปให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะเสียเปล่าเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้รับคฤหาสน์เก่าแก่ กับเงินเกือบหลายสิบล้านเลยทีเดียว