รถทัวร์กลุ่มเกษียณบริาัท กสท.ตกเหวอ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 มีผู้เสียชีวิต 18 รายบาดเจ็บกว่า 20 ราย
รถทัวร์จากกรุงเทพฯของกลุ่มเกษียณบริษัทกสท.ไปเที่ยวแพร่-อุตรดิตถ์ขากลับพุ่งตกเหวเขาพลึงอุตรดิตถ์เสียชีวิตแล้ว 18 เจ็บอีกเกือบ 20 การกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเป็นเหวลึก เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาเวลา 16.30 น.
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 - สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ จ.อุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์ตกเหวบริเวณเขาพลึง ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 รอยต่อจังหวัดแพร่-จังหวัดอุตรดิตถ์ ช่วงขาเข้าเมืองอุตรดิตถ์ หลักกิเมตรที่ 350 จึงรุดไปตรวจสอบพบรถทัวร์ตกลงไปในเหวลึกประมาณ 150 เมตร มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถทัวร์คันเกิดเหตุ ทะเบียน 32-4188 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่ชมรมผู้เกษียณอายุ แคท เทเลคอม (CAT Telecom) หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เช่าเดินทางมาเที่ยวที่จ.แพร่และจ.น่าน เมื่อสุดสัปดาห์ อุบัติเกิดขึ้นขณะกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ทั้งแพทย์ พยาบาล ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์ ต่างระดมเครื่องมือเร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รุดเข้าตรวจสอบและบัญชาการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าเป็นอุบัติเหตุรถทัวร์ ร่วม บขส.999 ที่กลุ่มเกษียณอายุ จำนวน 47 ราย เช่านำเที่ยวจังหวัดภาคเหนือ และกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดเสียหลัก พลิกคว่ำและตกไหล่เขา ทะลุผ่านแท่นปูซีเมนต์กันไหล่ทาง ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เบื้องต้นเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจาก จุดเกิดเหตุเป็นช่องภูเขา ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บถูกรถทัวร์ทับร่าง เหตุเกิด 10.30น.จนถึงปัจจุบันผ่านไป 3 ชั่วโมงสามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ขึ้นมาได้เพียง 10 ราย
นายพิพัฒน์เปิดเผยว่าทุกหน่วยงานที่เข้าไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ สิ่งที่เป็นปัญหาและทำให้การกู้ชีพเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากตัวรถตกลงไปก้นเหวลึก รถทัวร์ที่ตกลงไปนั้นมีประตูออกได้ทางเดียว จึงทำให้การนำผู้บาดเจ็บออกมาล่าช้าตามไปด้วย
ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังเกรงว่ารถทัวร์จะพลิกตะแคงทับเจ้าหน้าที่ที่ไปช่วย ซึ่งหน่วยทหารก็ใช้รถเครนขนาดใหญ่ 2 คันใช้สลิงยึดตัวรถไว้ไม่ให้พลิก จึงทำให้การช่วยเหลือมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทั้งผู้บาดเจ็บไม่บาดเจ็บซ้ำและหน่วยกู้ภัยที่ลงไปช่วย
ส่วนสาเหตุนั้นนายพิพัฒน์ กล่าวว่าต้องรอให้พนักงานขับรถได้สติก่อน เพราะขณะนี้รับแจ้งจาก ผอ.โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ว่า ยังพูดจาไม่รู้เรื่องและยังอยู่ในอาการตกใจ เบื้องต้นคาดว่า คนขับอาจไม่ชำนาญเส้นทาง ขณะลงเขาไม่ทันระวังรถเสียการควบคุมจึงเสียหลักตกเขาได้ แต่สาเหตุที่แท้จริงต้องรอพนักงานสอบสวนสรุปอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุใหญ่ ทำให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ให้ความสนใจชะลอและจอดรถดูเหตุการณ์ ทำให้การจารจรติดขัดกว่า 3 กิโลเมตรบนเขาพลึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ จึงสั่งให้มีการปิดการจารจรถนนช่วงขาเข้าเมืองอุตรดิตถ์ ณ จุดเกิดเหตุ พร้อมเปิดช่องทางทางออกเมือง ให้ใช้ทางร่วมกัน เพื่อสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยชัยดาบหักและโรงพยาบาลอุตรดิตถ์
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย พบนายอุดม สุมมาตร อายุ 48 ปี พนักงานขับรถ ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลืออยู่บริเวณไหล่ทางราว 10 เมตร คาดว่านายอุดมน่าจะกระโดดออกจากรถก่อนที่รถจะพุ่งตกเขาลึก ความลาดชันมากกว่า 70 องศา
รายงานข่าวเปิดเผยว่าจำนวน มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน และเสียชีวิต 18 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 17 คนและที่โรงพยาบาล 1 คน
เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ด้นำศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาแล้ว 11 ศพ สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 1.นายวรดล ขวัญเริงใจ 2.นางจิราภรณ์ อภิชาตินันท์ 3.นางวิจิตรา มุธุรสภาสม์ 4.นายเฉลิม วรพิส 5.นายประหยัด คล้ายพันธุ์ 6.นายกวิน ธาดากิจวรคุณ 7.นายประสิทธิ์ อินทรจักร
ส่วนอีก 4 ราย ยังไม่ทราบชื่อ และยังมีศพถูกรถทับอยู่ด่านล่างอีกหลายศพ โดยญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดไปยังศูนย์อำนวยการตั้งอยู่รพ.อุตรดิตถ์
ขอบคุณที่มา: http://www.thaitribune.org/contents/detail/304?content_id=24120&rand=1479819889