ประวัตินกหงส์หยก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Melopsittacus undulatus วงศ์ Psittacidae ชื่อสามัญ Parakeet หรือ Budgerigar ถิ่นกำเนิด ประเทศออสเตรเลียนกหงส์ (Budgerigar) หรือที่อเมริกันเรียกว่า Parakeet เป็นนกที่เลี้ยงกันแพร่หลายทั่วทุกมุมโลก เป็นนกที่มีขนาดเล็กสีสันสวยงามสะดุดตา เลี้ยงง่ายไม่เปลืองเนื้อที่ ราคาไม่สูงมากนัก เป็นนกที่เหล่งเดิมอยู่ในทวีปออสเตรเลีย โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียจะพบเห็นนกพวกนี้อยู่กันเป็นฝูงใหญ่ๆโดยเฉพาะในแถบโซนร้อนของประเทศ
ชาวออสเตรเลียเรียกนกหงส์หยกว่า Budgie ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคำย่อมาจาก Budgerigar ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของชาวออสเตรเลียนั่นเอง
นกหงส์หยกเป็นนกที่อยู่ในป่าออสเตรเลีย เกาะกลุ่มอาศัยกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีสีเขียวอ่อน หรือสีตองอ่อน มากกว่าสีอื่นๆซึ่งเป็นกลุ่มสีของนกดั้งเดิมซึ่งต่อมาได้มีการผสมพันธุ์ได้สีอื่นๆ แปลกตา เช่น กลุ่มสีฟ้า สีเทา สีม่วง ฯลฯ
นกหงส์หยกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Melopsittacus undulatus เป็นนกที่มีลวดลายคล้ายคลึงกับลายของเปลือกหอยนานาชนิด จึงมีการให้ขนานนามว่า นกหงส์หยกเปลือกหอย (Shell parakeet)
นกหงส์หยกกลุ่มแรกเข้าสู่ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1840 โดย จอห์นกูลด์ นักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติผู้โด่งดังของอังกฤษ โดยที่ชาวอเมริกันและอังกฤษเข้าใจว่านกหงส์หยกเป็นนกสกุลเดียวกับนกสกุลเลิฟเบิร์ด ทั้งที่นกเลิฟเบิร์ดนั้นถิ่นฐานเดิมอยู่ในทวีปแอฟริกา
ด้วยที่นกหงส์หยกมีลักษณะคล้ายๆ กับนกแก้วแต่มีขนาดเล็กกว่าจึงทำให้อเมริกันเรียกนกหงส์หยกว่า parakeet ซึ่งเพี้ยนมาจาก parrot นั่นเอง
ในปี ค.ศ. 1920 นกหงส์หยกรุ่นแรกก็เดินทางสู่ลอสแอนเจรีส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผ่านประเทศเนเธแลนด์สู่นิวยอร์ค ซึ่งเป็นกลุ่มนกสีฟ้า
หลังจากนั้นไม่นาน นักเลี้ยงนกชาวญี่ปุ่นได้ซื้อนกหงส์หยกไปจากอเมริกาในราคาคู่ละ 10,000 บาท นำกลับไปเลี้ยงที่ญี่ปุ่นและอีก 5 ปีต่อมาชาวญี่ปุ่นได้กลับเป็นผู้ส่งออกนกหงส์หยกสีฟ้าเข้าไปขายในสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่นิยมนกกลุ่มสีฟ้า
สำหรับประเทศไทยไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาปีไหน แต่เข้าใจว่าเป็นนกหงส์หยกที่นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งบ้านเราแบ่งออกเป็น 2 พันธุ์ใหญ่ๆ คือ พันธุ์อังกฤษ (ตัวใหญ่) และพันธุ์ฮอลแลนด์ (ตัวเล็กกว่า) และในปัจจุบันนี้นกหงส์หยกเป็นนกที่มีผู้คนนิยมซื้อไปเลี้ยงกันมากที่สุดกว่านกชนิดใด
นกหงส์หยกป่าจะผสมพันธุ์กันในเขตป่าของมันที่กว้างใหญ่ในช่วงที่มีเมล็ดหญ้าอาหารของมันขึ้นดกดื่น นกหงส์หยกจะบินข้ามป่าหญ้าแห่งหนึ่งไปสู่อีกแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย เมื่อฤดูผสมพันธุ์สิ้นสุดลง นกหงส์หยกจะบินมาอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ร่วมร้อยตัวหรือพันตัวแล้วเดินทางข้ามป่หญ้าอันกว้างใหญ่ไปหากินยังแหล่งอื่นๆที่มีหญ้าอุดมสมบูรณ์ต่อไป
ประมาณ ปี ค.ศ. 1840 นกหงส์หยกป่าสีเขียวชุดแรกถูกนำไปเผยแพร่ในยุโรปรวมทั้งประเทศอังกฤษ ซึ่งในสมังนั้นนกหงส์หยกสร้างความตื่นเต้นชื่นชอบในหมู่นักนิยมเลี้ยงนกชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก จากรายงานที่บันทึกไว้เราทราบว่านกที่ถูกส่งไปขายในยุโรปเป็นนกหงส์หยกที่ผสมพันธุ์ขึ้นในออสเตรเลียแต่ในระยะหลังๆ ต่อจากนั้นอันยาวนาน นกที่ส่งออกไปยังยุโรปเป็นนกที่ผสมพันธุ์ที่ส่งไปจากนักต่อนกป่าตามแหล่งต่างๆ ทั่วทวีปออสเตรเลีย
นกหงส์หยกที่ส่งออกไปขายที่อังกฤษถูกผสมพันธุ์แพร่หลายเป็นผลสำเร็จและเผยแพร่ในประเทศยุโรปอื่นๆด้วย ทั้งหมดจะมีสีเขียวอ่อนคล้ายบรรพบุรุษเดิมในออสเตรเลีย
นกหงส์หยกขนานแท้ขนที่หน้าผากและรอบตา มีสีสดใสคือ สีเหลืองสด จะมีสีวงดำ 6 วง ประดับอยู่ ขนข้างแก้มสีม่วงด้านหลังหัวนก คอ ลำตัว และปีกสีเหลืองมีลายสีดำสลับ หางมีสีฟ้าเข้ม นกตัวผู้และตัวเมียมีขนเกือบคล้ายคลึงกันไม่ว่าจะเป็นนกป่าหรือนกหงส์หยกที่ผสมขึ้น จงอยปากจะมีสีงาปนเหลืองอ่อนมีขนอ่อนๆ ขึ้นแซมตอนบนมีลักษณะคล้ายครีบนกหงส์หยกตัวผู้เมื่อโตเต็มที่ ครีบจะมีสีฟ้าเข้ม ถ้าตัวเมียจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน นกหงส์หยกเพศเมียเมื่อยังเล็กๆอยู่จะมีสีขาวนวลๆ ส่วนตัวผู้จะมีสีฟ้าเทา สีของครีบนกหงส์หยกจะยังไม่มีสีเข้มและขึ้นเต็มที่เมื่อนกยังเล็ก แต่ถ้าโตเต็มที่แล้วจะมีขนครีบยาวและสีเข้ม
นกหงส์หยกเป็นนกที่ปรับตัวได้ดีมากไม่ว่ามันจะถูกเลี้ยงอย่างโดดเดี่ยวในบ้านคน มันก็อยู่ได้อย่างมีความสุข หรือไม่ว่าจะถูกเลี้ยงเป็นฝูงใหญ่ มีสีสันต่างๆกัน หลากสี ในกรงขนาดใหญ่ที่มันสามารถบินได้ตามสบาย เช่น กรงในสวนสัตว์ขนาดใหญ่ก็ตาม หรือไม่ว่ามันจะถูกเลี้ยงไว้ในห้องเลี้ยงนกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเพื่อการทดลองหรือการแสดงนิทรรศการนกก็ตาม
นกหงส์หยกเป็นนกที่เลี้ยงง่าย อาจจะเลี้ยงนกหงส์หยกด้วยอาหารเมล็ดพันธุ์พืชผสม เช่น ข้าวเดือย ข้าวฟ่าง เมล็ดข้าวสำหรับเลี้ยงนกผสมเมล็ดกรวดเล็กๆ กระดองปลาหมึก อาหารพืชสีเขียว และน้ำสะอาดเท่านั้น
ลักษณะของนกหงส์หยก
สีของลำตัวหรือสีขนมักเป็นสีเขียวอ่อน ส่วนหน้าและลำคอเป็นสีเขียวอ่อนอมเหลือง มักจะมีจุดวงกลม หรือแต้มสีดำ 3 จุด ประอยู่ที่ข้างๆลำคอทั้งสองด้าน ปีกและด้านหลัง ส่วนมากจะมีเครื่องหมายสีดำกับสีเหลือง ขอบขนของปีกทุกขนจะเป็นสีเหลือง โดยรอบลำตัวทั้งหมดเป็นริ้วระลอกคลื่น หรือเป็นแนวคลื่น
สีของลำตัว
การใช้ชื่อชนิดต่างๆ แก่นกหงส์หยกอาศัยหลักแบ่งตามสีที่หน้าอกและส่วนล่างของลำตัวใน “ชุดฟ้า” จะมีสีฟ้าสด ฟ้าโคบอลท์ เทาอมฟ้า ม่วงอ่อน และเทา “ชุดเขียว” จะมีเขียวอ่อน เขียวเข้ม เขียวมะกอก และเขียวเทา ใน “ชุดเหลือง” ชุดนี้มีลำตัวคล้าย “ชุดฟ้า” แต่มีหน้ากากสีเหลืองและหน้าผากเหลือง ลายระลอกคลื่นที่ส่วนหลัง หัว คอและปีกมีสีเทาอ่อน เทากลาง น้ำตาลแก่หรือดำ ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภท
นอกจากสามกลุ่มใหญ่นี้แล้ว ยังมีชชุดพิเศษที่สีไม่เหมือนสามกลุ่มนั้นคือ กลุ่มสีขาวกระจ่างทั้งตัว เหลืองกระจ่าง แลัสีขาวหน้าเหลือง ซึ่งนกในกลุ่มพิเศษเหล่านี้จะมีตาสีแดงไม่ใช่สีดำเหมือนกลุ่มทั่วไป
นกบางตัวยังมีลวดลายที่แปลกไปกว่านั้น เพราะสีขนแบ่งเป็น 2 ตอน มีลายบนขนนกและลวดลายจะแตกต่างกันแบ่งเป็นตอนๆ ซึ่งอาจจะผสมกันระหว่างสีเขียวและสีเหลือง ขาวและฟ้า หรือพื้นขาวและฟ้ามีขนหน้าสีเหลือง
นกหงส์หยกบางประเภทราคาแพงและหายาก ส่วนตัวอื่นๆ ราคาตามปกติ ตามร้านค้าส่วนใหญ่จะมีอยู่ไม่กี่ชนิด
การจำแนกชนิดของนกหงส์หยก
ชุดฟ้า
เป็นสีที่มีทั่วๆไป และรู้จักกันดีและเป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน ขนหน้าอกสีฟ้าสด อาจจะมีสีฟ้าเข้มหรืออ่อน และอาจจะเป็นสีเทาก็ได้ ส่วนลายสลับจะมีสีเข้มต่างกัน
หงส์หยกฟ้าปนขาวจะมีขนหน้าอกขาวข้างในลึกๆ ขนด้านนอกสุดหรือปลายขนจะมีสีฟ้า ส่วนลายจะมีสีเทา หางจะเป็นขนยาวสีฟ้าอ่อน นกหงส์หยกฟ้าปีกเทาจะมีสีแรเงาที่ขนหน้าอกเป็นสีฟ้าอ่อน มีลายระลอกคลื่นสีเทาและมีวงยาวสีเข้ม สีขาวปนฟ้าและฟ้าธรรมดา มีลายสีเทาหางสีฟ้าอ่อนยาว นกหงส์หยกสีฟ้าปีกขาวจะมีสีปีกสีขาวแบบเดียวกับชนิดฟ้าอมขาว สีตรงหน้าอกและหางจะมีสีคล้ายชนิดสีฟ้าธรรมดา
ในชุดสีฟ้าทั้งหมด นกหงส์หยกทีจัดว่ามีสีสวยที่สุดคือ สีม่วงและม่วงปีกขาวคำอธิบายข้างต้นอนุโลมให้รวมนกสีฟ้าหน้าเหลืองไว้ด้วย เว้นแต่นกจะมีหน้ากากเหลืองและหน้าผากเหลือง
มีแต่นกในกลุ่มชุดสีฟ้าเท่านั้นที่ไม่มีสีเทาปน นกพวกนี้จะมีหน้าอกเทาและขนหางสีดำ แม้ตอนยังเป็นลูกนกก็ไม่มีสีฟ้าปน
โอปอล์
เป็นนกชุดที่มีสีสวย มีขนปีกสีโอปอล์ด้านหลังตอนบนจะมีสีสลับคล้ายโอปอล์ส่วนขนตรงหน้าอกจะขาวสะอาด นกชุดพวกนี้จะมีลักษณะทางเพศของมันตามพ่อแม่ ซึ่งเป็นลักษณะทางกรรมพันธุ์ เป็นนกที่มีผู้นิยมเลี้ยงมากๆซึ่งผู้นิยมเลี้ยงจะหานกที่มีอกเป็นสีโอปอล์ ซึ่งจะเลือกสีเหล่านี้เอาไว้เลี้ยงตามบ้าน
นกหงส์หยก Pied
ถ้าเป็นนกหงส์หยกประเภทลายพร้อยเป็นลายเด่นและเป็นลายตามซอกขน โดยมีลายสลับเป็นสีดำหรือเหลืองบนพื้นขาว นกที่มีลายพร้อยเป็นจุดเด่นจะมีสีตาปกติ ส่วนนกที่มีลายพร้อยตามซอกขนจะมีตาเป็นสีเลือดหมูแก่ที่ขอบตาไม่มีเส้นวงกลมสีฟ้าเหมือนนกอื่นๆ
อบเชย
นกชุดนี้จะมีสีขนหน้าอกเป็นสีอ่อนมากกว่านกตัวอื่นๆ แต่จะมีลายแก้มสีดำหรือเทา มีสีคล้ายอบเชยหรือสีน้ำตาลแก่ เป็นสีที่เกิดขึ้นตามกรรมพันธุ์ลายแต้มสีอบเชยจะเป็นลายนกที่มีสีพื้นเป็นสีม่วงอ่อน หรือสีโอปอล์ที่มีสีสลับเป็นสีม่วงและสีชมพูอ่อนสลับดำและน้ำตาล ดูแล้วสวยมาก แต่ลายสีอบเชยกับพื้นเขียวก็ดูสวยเหมือนกัน แต่คนนิยมพื้นสีฟ้ามากกว่า
อิลบิโนและลูติโน
นกประเภทนี้จะมีตาสีแดงขนจะเป็นสีเหลืองหรือขาวไม่มีลาย บางทีอาจจะมีบางตัวที่สีดำและขาวมีขนเหลืองสดและขาวสะอาด นกชุดนี้ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงไว้ที่บ้านเพราะสีนกจะสกปรกง่าย แต่เหมาะที่จะเลี้ยงในกรงใหญ่ในสวน ซึ่งจะทำให้ดูเด่นและสวยงาม เมื่ออยู่รวมกับนกตัวอื่นๆ สีต่างๆ กัน
นกหงส์หยก Crested budgerigares
แบ่งเป็น 3 ชนิด
ชนิดที่มีขนบนหัวเต็มวงกลม ชนิดที่มีขนบนหัวครึ่งวงกลม ชนิดมีพู่ซึ่งทั้งสามชนิด ล้วนแต่เป็นนกหงส์หยกที่สวยงามแปลกตาอย่างยิ่ง นกหงส์หยกที่มีขนเป็นประกายเงิน เป็นนกที่เพิ่งมีการทดลองผสมพันธุ์และได้สีสันแปลกตาใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ เป็นนกที่สร้างความสนใจไปทั่วโลก ซึ่งรู้จกกันดีในชี่อพันธุ์ Spangle เป็นพันธุ์ที่ผสมยาก ที่จะได้รูปร่างลักษณะและสีของขนสวยงามเหมือนประกายเงินตามมาตรฐานนกหงส์หยกแห่งออสเตรเลีย แม้จะผสมข้ามพันธุ์ นกจากนาๆชาติที่มาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลกก็ตาม
มาตรฐานสีของนกหงส์หยกแห่งสมาคมนกหงส์หยกอเมริกา
สีเขียวอ่อน สีปกคลุมส่วนบน รอบคอเป็นสีเหลืองสด ประด้วยจุดสีดำเป็นวงกลมข้างละ 3 จุด ทำให้ดูงามเด่นขึ้น จุดหนึ่งแต้มอยู่ที่ตรงฐานกระพุ้งแก้มซึ่งเป็นพื้นสีม่วง สีลำตัวทั่วไป หลัง ตะโพก หน้า อก สีข้างและตอนล่าง เป็นสีเขียวอ่อนทึบจับเป็นเงา มีริ้วลายเป็นเส้นสีดำที่แก้มและที่ด้านหลังของศีรษะ คอและปีก แลตัดเป็นเงากับพื้นเหลือง หาง ขนหางยาว สีกรมท่า
สีเขียวแก่ สีปกคลุม ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวอ่อนแต่เข้มกว่า หาง ขนหางยาว สีเขียวเข้มจัดได้สัดส่วน
สีเขียวโอลีฟ ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวแก่ แต่ลำตัวเป็นสีเขียวโอลีฟหรือผลมะกอกหรือผลมะกอกหางยาวสีเข็มได้สัดส่วน
สีเขียวอ่อนปีกเทา สีปกคลุมค่อนไปทางเหลือง มีจุดวงกลมสีเทาปะอยู่ที่ข้างคอด้านละ 3 วงกระพุ้งแก้มเป็นสีม่วง สีลำตัวทั่วไป หลัง ตะโพก สีข้าง และตอนล่างส่วนใหญ่เป็นสีเขียวหญ้าชอุ่ม มีริ้วลายเป็นทางสีเทาจางๆ สลับสีฟ้าอ่อนเป็นเส้นๆขวางบนแก้ม หลังคอ และปีกทั้งสองข้าง
สีเขียวแก่ปีกเทา ลักษณะเดียวกับสีเขียวอ่อน ขนหางเป็นสีเขียวเข้มจัดได้สัดส่วน
สีเขียวโอลีฟ ปีกเทา ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวแก่ ขนหางเป็นสีเข้มจัดกว่าลำตัว
สีฟ้าปีกเทา สีปกคลุมส่วนบน ระหว่างด้านข้างของลำคอเป็นสีฟ้าจางๆค่อนข้างขาวมีจุดสีเทาปะอยู่ข้างละ 3 จุด จุดหนึ่งอยู่ตรงฐานของกระพุ้งแก้มแต่ตอนกระพุ้งแก้มเป็นสีม่วงไวโอเล็ต สีลำตัวทั่วไป หลัง ตะโพก อก สีข้าง และตอนล่างส่วนใหญ่เป็นสีฟ้าสด มีริ้วลายเป็นทางบนแก้ม หลัง ศีรษะ และปีกสีเทาเป็นสีเทาสลับดำอยู่กึ่งหนึ่ง หางยาวเป็นสีฟ้าแกมเทา
สีน้ำเงินปีกเทา ลักษณะเดียวกับสีฟ้า แต่สีลำตัวทั่วไปเป็นสีฟ้าอ่อน หางยาวสีเดียวกัน ส่วนบนคือสีน้ำเงินหรือสีฟ้าแก่
สีม่วงปีกเทา ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้าปีกเทา แต่ลำตัวเป็นสีม่วงจางๆ มีหางยาวเป็นสีเดียวกับสีลำตัว
สีม่วงสดปีกเทา ลักษณะอย่างเดียวกับสีม่วงปีกเทา แต่ลำตัวเป็นสีม่วงสดจางๆ
สีเขียวแกมเทา ปีกเทา ลักษณะเดียวกับสีเขียวอ่อนปีกเทา แต่สลับด้วยสีเขียวเหลืองอ่อนกระพุ้งแก้มเป็นเทาอ่อนๆ หางยาวขนสีเทาแก่
สีเทาปีกเทา ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้าปีกเทา แต่ลำตัวเป็นสีเทาจางๆ ขนหางยาวเป็นสีเทาเข้ม
สีเขียวอ่อน ซีนนะมอน สีปกคลุม รอบคอทั้งสองข้างเป็นสีเหลืองประด้วยจุดวงกลมสีน้ำตาลอยู่ข้างละ 3 จุด รวมทั้งจุดหนึ่งที่อยู่ตรงฐานของกระพุ้งแก้มซึ่งเป็นสีพื้นไปทางม่วง สีลำตัวทั่วไป หลัง ตะโพก อก สีข้าง และตอนล่างส่วนใหญ่เป็นสีเขียวหญ้าอ่อน มีริ้วลายเป็นทางสีน้ำตาลไหม้บนแก้ม หลังศีรษะ คอ และปีก ซึ่งเป็นสีพื้นเหลือง ขนหางยาวเป็นสีฟ้าแก่สลับก้านขนซึ่งเป็นสีน้ำตาล
สีเขียวโอลีฟ ซีนนีมอน ลักษณะอ่างเดียวกับสีเขียวอ่อน
สีฟ้า ซีนนะมอน สีปกคลุม รอบคอทั้งสองข้างเป็นสีพื้นขาว ประด้วยจุดสีน้ำตาลข้างละ 3 จุด ตรงกระพุ้งแก้มเป็นสีม่วงไวโอเร็ต สีลำตัวทั่วไป หลัง ตะโพก อก สีข้าง และตอนล่างเป็นสีฟ้าอ่อนๆมีริ้วลายพาดเป็นสีน้ำตาลบนพื้นขาวของแก้ม หลังศีรษะ คอและปีก ขนหางยาว ก้านหางสีน้ำตาลสลับฟ้า
สีม่วงสด ซีนนะม่อน ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้า ปลายหางเป็นสีม่วงแก่
สีเทา ซีนนะม่อน ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้า แต่ลำตัวเป็นสีเทาอ่อน
สีเทาสลับเขียว ซีนนะม่อน ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวอ่อน แต่ลำตัวเป็นสีเทาอ่อน หางยาว ขนเป็นสีเขียวแก่เป็นเงางาม
สีม่วง ซีนนะม่อน ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้า แต่ลำตัวทั่วไปเป็นสีม่วงอ่อน มีข้อที่น่าสังเกตุว่า ในจำพวกสีของนกพวกซีนนะม่อนนี้ นกตัวผู้จะมีสีเข้มกว่าตัวเมียทุกๆ สี
สีเหลืองปลอด นัยน์ตาแดง พันธุ์ลิวทิโนส์ สีเหลืองปลอดทั้งตัว นัยน์ตาแดงสดใส หางยาว ขนสีขาวเริ่มมีเทาอ่อนๆ
สีขาวปลอด นัยน์ตาแดง พันแอลบิโนส์ สีขาวปลอดทั้งตัว นัยน์ตาแดงสดใส
สีเขียวอ่อนปีกเหลือง สีปกคลุม เหลืองสด รอบด้านลำคอ ประด้วยจุดสีเทาจางๆ ข้างละ 3 จุด สีลำตัวทั่วไป หลังตะโพก อก สีข้าง และตอนล่างส่วนใหญ่เป็นสีเขียวใบหญ้า ปีก สีเหลืองสด หางยาวสีเขียวใบหญ้าอ่อน
สีเขียวแก่ปีกเหลือง ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวอ่อน ลำตัวทัวทั่วไปเป็นสีเขียวใบไม้ หางยาวขนสีเขียวแก่ได้สัดส่วน
สีเขียวโอลีฟปีกเหลือง ลักษณะอย่างเดียวกับสีเขียวแก่
สีเขียวอ่อนพันสีเหลือบ สีปกคลุม สีเหลืองแผ่คลุ่มไปถึงด้านหลังของศีรษะกลมกลืนกับสีเขียวของลำตัว ได้ระดับตรงปลายทั้งสองข้างเป็นตัววี มีจุดวงกลมสีดำตรงคอ 6 จุดเป็นที่สังเกต
สีน้ำเงินฟ้า ลักษณะอย่างเดียวกับสีฟ้า แต่มีน้ำเงินหนาทึบในบางแห่งหางยางสีน้ำเงินแก่ได้สัดส่วน
ข้อควรพิจารณาในการเลี้ยง
ปัจจัยที่ทำให้คนนิยมเลี้ยงนกหงส์หยก ในบรรดานกที่มีขนาดเล็กด้วยกันแล้ว คนไทยจะนิยมซื้อนกหงส์หยกไปเลี้ยงมากกว่านกชนิดอื่นๆ ทั้งนี้อาจมีเหตุผลดังนี้คือ
รูปร่างและสีสันลวดลายของนกหงส์หยกนั้นเป็นที่สะดุดตายิ่งนัก มีสีที่แตกต่างกันให้เลือกเลี้ยงอยู่หลายสี หรือหลายพันธุ์ในสกุลเดียวกัน เป็นนกที่รักสวยรักงาม และความสะอาด หรือชอบแต่งตัวเองเสมอ เสียงร้องของมันไม่เป็นที่รบกวนหรือดังจนเกินไป สามารถฝึกสอน หรือหัดให้พูดเป็นเสียงภาษามนุษย์ได้บ้างเป็นบางคำเป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของมัน ผิวปาก หรือ ร้องเพลง หรือ ทำเป็นเสียงเหมือนผิวปากเลียนเสียงผู้ฝึกได้รวดเร็ว ฝึกให้เชื่องได้ง่าย หรือฝึกให้ทำอะไรบางอย่างได้ซึ่งโดยธรรมชาติมีนิสัยเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ชอบเล่นตุ๊กตา หรือ ของเล่นต่างๆทำให้เป็นภาพที่น่าขบขันแก่ผู้พบเห็น มีประสาทรับความรู้สึกได้ไว และระวังภัยตนเองได้อยู่ตลอดเวลา มีความน่ารักในระหว่างคู่ผัวตัวเมียและลูกๆให้เห็นได้อย่างซึ้งใจ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า นกพิศวาท รับถ่ายทอดเฉลียวฉลาดมาจากนกแก้ว ซึ่งเป็นพันธุ์เครือญาติใกล้เคียงกันมากการเลือกซื้อนกหงส์หยก
วิธีเลือกนกหงส์หยกคือ เลือกนกหนุ่มตัวผู้หรือนกที่ขนยังขึ้นไม่เต็มที่ไปจนถึงขนาดโตพอหาอาหารกินเองได้ การจะรู้จักเลือกเฟ้น ควรแวะไปดูตามที่เพาะเลี้ยงนกเอง และศึกษาให้เข้าใจ ซึ่งมีนกให้เลือกจำนวนมากแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเพาะเลี้ยงได้ ก็ให้พยายามคัดเลือกจากร้านหรือแหล่งจำหน่ายนกที่เชื่อถือได้
นกที่ขนยังขึ้นไม่เต็มที่
นกหงส์หยกที่ยังโตไม่เต็มที่จะมีสีขนแตกต่างจากนกที่โตเต็มที่ นกที่ยังเล็กๆอยู่จะมีขนอ่อน มีลายไม่เข้มบนหัวและเรื่อยมาตรงด้านหน้าใกล้จงอยปาก (หงอน) ซึ่งจะต่างจากนกโต นกเล็กจะไม่มีสีขาวหรือเหลืองปนที่ตรงหน้าผาก จุดที่ตรงลำคอจะเล็กและเห็นไม่ชัด ขนทั้งตัวสีไม่สดเหมือนนกโตแล้ว
ข้อควรหลีกเลี่ยง
อย่าซื้อนกที่บินไม่ได้หรือบินไม่ดี ขนที่ปีกหรือหางหลุด นาบางตัวมีโรคเกี่ยวกับขนบางชนิดที่เกิดกับนกหงส์หยกโดยเฉพาะคือ โรคขนร่วง หรือ เฟร้นซ์ มอลท์ (French Moult) เป็นโรคที่ทำให้ขนนกไม่เจริญเติบโตเต็มที่หรือร่วงหลุดได้ง่ายโดยเฉพาะขนที่ปีกและหาง นกที่เป็นโรคนี้บางตัวอาจมีขนงอกขึ้นมาใหม่ได้แต่ไม่ดีและสีไม่สวยงาม และสุขภาพของขนไม่แข็งแรงเหมือนนกอื่น
นกหงส์หยกชนิดต่างๆ เหมาะจะเลี้ยงไว้ดูในบ้านเพระมีสีสวยงาม นกที่มีทั้งตัวเป็นสีขาวสะอาดหรือเหลืองสดจะดูสกปรกง่าย ถ้ามีสิ่งเปรอะเปื้อนที่ขนมัน มองเห็นได้ง่ายกว่านกที่มีลายที่คอ หัว หลัง และปีก หรือหาง ซึ่งมีสีที่หน้าอกฟ้าหรือเขียว
ความสามารถพูดภาษาคน
ไม่ว่าสีของนกหงส์หยกจะเป็นสีใดก็ตามไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะหัดไห้มันพูดภาษามนุษย์หรือเลี้ยงให้มันเชื่องได้ นกหงส์หยกทุกสีทุกตัวมีคุณสมบัติเดียวกันหมด และเป็นการยากที่จะอธิบายความฉลาดและไหวพริบของมันเป็นรายตัวแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถในการฝึกสัตว์ของท่านเองด้วยว่าท่านมีความสามารถในการฝึกนกหงส์หยกให้เชื่องสามารถพูดภาษามนุษย์และเลียนเสียงต่างๆได้มากน้อยแค่ไหน
การเตรียมการ
เมื่อมีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมและตัดสินใจเลือกสีนกตัวโปรดของท่านได้แล้ว ท่านก็ตรงไปที่แหล่งเพาะพันธุ์นกหงส์หยกหรือร้านขายนก เวลาที่เหมาะที่จะไปรับนกใหม่มาเลี้ยงคือตอนเช้า เพราะมันต้องเตรียมตัวเตรียมใจอยู่ในกรงใหม่ของท่านให้ดีก่อนอาทิตย์ตกดิน ข้อนี้เป็นจุดสำคัญ นกที่ถูกจับใส่กรงใหม่ในตอนบ่ายหรือเย็นย่อมมีความวิตกสับสนเกิดความหวาดกลัวต่อมันในช่วงกลางคืนทั้งคืน มันอาจจะนอนไม่ได้ต้องเดินสำรวจกรงตลอดทั้งคืนทำให้ต้องฝึกนกช้าไปเพราะนกไม่พร้อมและท่านต้องเสียเวลาฝึกนาน
การสะสมนกหงส์หยกไว้เลี้ยงประดับกรง
ถ้าท่านต้องการเลี้ยงนกไว้ประดับเล่นก็ไม่จำเป็นถึงกับไปหาที่เพาะพันธุ์นก แต่ถ้าท่านต้องการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์ขาย ท่านต้องพิถีพิถัน ถ้าท่านต้องการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงธรรมดาก็ควรไปซื้อนกหลากสีมาเลี้ยง โดยซื้อนกเพศผู้สีสันต่างๆ นกตัวผู้หาง่ายกว่านกตัวเมีย และนักเลี้ยงนกหรือนักเพาะพันธุ์มืออาชีพ ต่างมีความต้องการนกตัวผู้มากกว่า ท่านอาจจะเลือกซื้อเฉพาะชุดสีฟ้าทั้งหมด เขียวทั้งหมด หรือผสมกันระหว่างทั้งสองสีและมีสีเหลืองที่ใบหน้าได้
ควรซื้อเมื่อใด
ช่วงเวลาที่เหมาะจะซื้อนกมากที่สุดควรเป็นปรายฤดูร้อน หลังฤดูผสมพันธุ์ เพราะช่วงนี้มีการนำนกออกมาเสนอขายเป็นจำนวนมากควรเลือกซื้อนกที่ผสมออกมาในปีปัจจุบันมากที่สุดมีตราประทับเป็นแผ่นโลหะรับรองวันที่และปีที่รับรอง วันเดือนปีเกิดของนก
โรคและวิธีการป้องกันรักษา
โรคและศัตรูของนกหงส์หยก
นกหงส์หยกเป็นนกที่สุขภาพดีไม่ค่อยมีปัญหาและมีโรคมาก การบำบัดรักษาก็อาจใช้วิธีง่ายๆ และใช้วิธีป้องกันอย่างง่ายๆ การรักษาโดยทันด่วนอย่างรวดเร็วจะตัดปัญหาความเจ็บป่วยอย่างร้ายแรงที่อาจเกิดภายหลังได้ ดังนั้นการสังเกตจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะลดอัตตราการตาย หรือการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงได้ และควรปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อพบว่านกเกิดการเจ็บป่วยและตายจำนวนมากในเวลาอันใกล้เคียงกัน
อันตรายที่เกิดจากเชื้อโรค
โรคหวัดและปอดอักเสบ
เนื่องจากการเลี้ยงได้รับลมโกรกมากเกินไป หรืออากาศที่เปลี่ยนกระทันหัน เมื่อเป็นหวัดแล้วอาจเกิดปอดอักเสบภายหลังตามมาภายหลังได้ง่ายหากไม่รีบรักษา อาการของนกจะดูซึมไม่ร่าเริง ตาปรือ ขนฟู จาม สำลัก หายใจฟืดฟาด หรือขย้อนออกมาทางปาก ให้แยกนกอาการเหล่านี้ออกไปขังเดียว เอาผ้าคลุมกรงแต่เว้นช่องระบายอากาศไว้เล็กน้อยเพื่อให้นกได้รับความอบอุ่น หากนกยังกินน้ำได้ควรให้ยาผสมน้ำได้ถ้าคาวมอบอุ่นในกรงไม่พอควรหาหลอดไฟฟ้าขนาด 5-10 แรงเทียนเปิดเป็นช่วงๆ
โรคท้องร่วง
อาการคือ นกจะถ่ายออกมาเป็นน้ำทำให้เสียกำลัง จับเจ่าอยู่ตามขอน คอเอียง คอตก ขนยุ่งเป็นปุยชอบซุกหัวอยู่ใต้ปีก การรักษาอันดับแรกคือเพิ่มความอบอุ่นแก่นก พร้อมทั้งหยุดให้อาหารจำพวกผักและผลไม้ และให้ยาซัลฟาหรือยาปฏิชีวนะ (ปรึกษาสัตวแพทย์) โรคนี้เป็นโรคที่อันตรายมากควรป้องกันไว้ดีกว่า ต้องเอาใจใส่ความสะอาดของอาหารและน้ำ ต้องเปลี่ยนให้บ่อยๆอยู่เสมอ บางครั้งท้องร่วงเนื่องจากลำไส้อักเสบเพราะขาดพวกกรวดในการย่อยอาหารก็ได้
โรคตาแดง
นัยน์ตาจะแดงก่ำ หรือแดงผิดปกติไปจากตานกทั่วไป อาจเกิดขึ้นได้เมื่อนกเป็นหวัดหรือได้รับลมโกรกแรงจัด รักษาโดยล้างตาให้นกด้วยน้ำอุ่นวันละ 2 ครั้ง และใช้สำลีอ่อนๆ เช็ดจึงใช้ยาหยอดตา อาร์กิรอล 10 %
ขาหักและปีกหัก
เมื่อเกิดกับนกตัวใดแล้วต้องจับนกให้อยู่ในที่สงบตามลำพัง เอาคอนและเครื่องเล่นออกจากกรงให้หมด แล้วรีบนำส่งสัตวแพทย์โดยด่วน
สมมุติฐานแรก อาการต่างๆ เมื่อเกิดโรคมักจะเป็นขนร่วงและตัวผอม ซูบซีด เหงาซึม กระพริบตาได้ช้า อาการตามมาคือหายใจหอบ หางสั่นขึ้นๆ ลงๆ หรืออาการกระตุก มีดินติดตามขน ขนสีเทา ถ้านกอาเจียนขนรอบๆจงอยปากมีดินเกาะเต็ม ปกติขี้แข็งเหนียว ท้องผูก แต่นกหงส์หยกที่มีโรคจะท้องเดิน อุจจาระเหลว สีเขียว นกที่มีอาการนี้ต้องตรวจรักษา
ตามปกติปัจจัยสำคัญที่มีประโยชน์ที่สุดควรให้ความอบอุ่นแก่นกที่เจ็บป่วย และควรแยกไว้ต่างหากอย่าปนกับนกตัวอื่น รอให้สัตวแพทย์มาตรวจ
นกที่พุงห้อยหรืท้องป่อง ซึ่งมักจะเกิดแก่นกหงส์หยก ส่วนใหญ่จากการที่สะสมไขมันไว้มากและเป็นนกที่มีน้ำหนักมากเกินไป
เมื่อจะนำนกไปให้สัตวแพทย์ตรวจควรทำดังนี้
ใช้กรงของมันเองใส่ไปหาสัตวแพทย์ อย่าล้างหรือทำความสะอาดกรงเพื่อหมอจะได้ตรวจอุจจาระหรือสภาพภายในกรง ก่อนออกจากบ้านเทน้ำและอาหารเก่าออกแล้วเปลี่ยนน้ำกับอาหารใหม่ ปิดกรงหรือใช้ผ้าคลุมกรงไว้ให้อบอุ่น ถ้านกอ่อนเพลีย บาดเจ็บ หรือมีอาการตกใจ เอาคอนชิงช้าหรือคอนไม้ออก เอายาหรือวิตามิน หรืออาหารเสริมที่ท่านให้นกเอาไปให้หมอตรวจด้วยโรคอื่นๆ
โรคหนาวสั่น
อาการ ลำตัวสีเทา ท้องเดิน หายใจหอบ การรักษา ใช้ยา Enteritis ให้ตัวนกอบอุ่น 32๐C หรือ 90๐F ไข่ไม่ออก อาการนกตัวเมียตกไข่ยาก การรักษา ทำให้มันอบอุ่น 32๐C ใช้น้ำมันมะกอกระบาย ปล่อยให้วางไข่เอง
โรคลำไส้อักเสบ
อาการ ขี้เขียว น้ำหนักลด ไม่กินอาหาร การรักษาทำให้อบอุ่นด้วยอุณหภูมิ 38๐C ให้ยาปฎิชีวนะ ล้างขนให้สะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
ขนหลุด
อาการชอบจิกขนตัวเอง การรักษา หาของเล่นให้เล่น ใช้สเปรย์แก้คัน
การเปลี่ยนขน
อาการ ขนไม่ขึ้น ขนร่วงตอนเปลี่ยนขน มีขนร่วงในกรงมาก (เป็นกับลูกนก) การรักษา เอาไปไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ใช้น้ำยาสเปรย์ให้ขนแน่น ให้อาหารที่มีแร่ธาตุครบด้วย
อันตรายที่เกิดจากอาหาร
อันตรายที่เกิดจากอาหารนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาอีกปัญหานึ่งของการเลี้ยงนกหงส์หยกเพราะอาหารเป็นส่วนที่สำคัญในการดำรงชีวิตของนกถ้าเราให้อาหารที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หรือให้อาหารที่มีเชื้อราหรือเชื้อโรคปนเปื้อนแล้ก็จะทำให้สุขภาพของนกนั้นอ่อนแอและเป็นผลให้สูญเสียทางเศรษฐกิจได้ในกรณีที่มีการเพา