พูดถึงจากัวร์ หลายคนนึกถึงรถสปอร์ตสุดหรูที่มีสัญลักษณ์ของเสือพุ่งทะยาน ด้วยรูปทรงการออกแบบไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย รถยนต์ของจากัวร์ยังครองใจคนรักรถสปอร์ตได้ทั่วโลก สุรินทร์ วรสาธิต ก็เป็นผู้ชายอีกคนที่หลงเสน่ห์ความคลาสสิกและความสวยงาม
ปัจจุบันคุณสุรินทร์ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดจำหน่าย สินค้าเครื่องมือวัด และทดสอบมาตรฐาน,รวมทั้ง อุปกรณ์ ไฟฟ้า ด้วยวัยขึ้นเลขสี่และมีเวลาว่างจากธุรกิจเขาจึงเป็นนักสะสมรถโบราณที่น่า สนใจคนหนึ่ง เขาเล่าว่าจากัวร์ อี-ไทป์ 4.2 ปี 1968 คันนี้เดิมทีเป็นรถที่อู่ทำอยู่ยังไม่เสร็จ แต่ด้วยความชอบส่วนตัวเพราะศึกษามาก่อนสำหรับรุ่นนี้ จึงขอซื้อตั้งแต่ที่อู่ยังทำไม่เสร็จ
"ใจผมเองก็รักจากัวร์อยู่แล้วไม่ว่ารุ่น ไหนก็ชอบทั้งหมด พอดีก่อนหน้านี้เพื่อนผมมาเจอกก่อน ในสภาพที่เป็นซากรถเลยก็ว่าได้ แล้วมาบอกผมให้มาดู ก็ถูกใจจนตกลงซื้อตั้งแต่ยังไม่ได้ซ่อมแซมอะไรเลยหลังจากที่ซ่อมแซมเสร็จจน มาถึงตอนนนี้ก็ได้เวลาประมาณ 1 ปีกว่าๆ คิดเป็นราคาที่ผมมาซ่อมบำรุงก็ประมาณ 4 ล้าน ตั้งแต่บูรณะเสร็จก็เคยพาเขาไปออกงานมาหลายงานแล้วครับ ส่วนมากก็เป็นงานของชมรมรถเปิดประทุน"
สำหรับเครื่องของเจ้าจากัวร์คันนี้คือ 265 แรงม้า 4,200 ซีซี ความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เครื่องยนต์เป็นของเดิมที่มีอยู่ตอนแรก แต่ก็ต้องมีการปรับกันบ้างส่วนอะไหล่ในการซ่อมแซมนั้นก็เป็นอะไหล่ที่ส่งตรง มาจากประเทศอังกฤษ คุณสุรินทร์บอกว่าการซ่อมแซมนั้นจะไม่พยายามเอาอะไหล่ของยี่ห้ออื่น หรืออะไหล่ใหม่ๆใส่เข้าไป เพราะถ้าทำออกมามันก็ไม่เหมือนของเดิม และอยากให้คงสภาพเดิมมากที่สุดถึงจะสวย ความพิเศษของคันนี้อยู๋ที่เป็นรุ่นที่เปิดประทุนที่มีอยู่เพียง 3 คันในประเทศไทยเท่านั้น และที่สำคัญจากัวร์รุ่นนี้เป็นรถที่ได้ติดอันดับรถเซ็กซี่ที่สุดในโลกด้วย
"การดูแลก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากครับ อยู่ที่ว่าเราใส่ใจกัยมันมากแค่ไหน การดูแลรถสักคันก็เหมือนกับการดูแลคนที่เรารัก คือนอกจากดูเรื่องอะไหล่ เครื่องยนต์แล้วก็ต้องดูแลหัวใจด้วย อย่าเอารถออกไปขับไกลๆหรือขับแบบที่ไม่เหมาะสม แล้วก็หาอู่ที่เชี่ยวชาญในการซ่อมยี่ห้อนั้นๆ"
นอกจากจากัวร์คันนี้แล้วคุณ สุรินทร์บอกว่าที่บ้านยังมีรถคลาสสิกอีกกว่า 6 คัน ไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส - เบนซ์ 350เอสแอล , เมอร์เซเดส - เบนซ์ เอสอีแอล 6.9 , เมอร์เซเดส - เบนซ์ 600 ดับเบิลยู 100 , เมอร์เซเดส - เบนซ์ ดับเบิลยู 125 ลีมูซีน ฯลฯ คุณสุรินทร์บอกกับเราว่าความชื่นชอบในเรื่องของรถโบราณนี้มานานแล้ว ตั้งแต่อายุได้ 20 ปี แต่ตอนนั้นอายุน้อยยังไม่มีกำลังซื้อ ก็รอมานานหลายปีกว่าจะเริ่มต้นกับรถคันแรกคือเมอร์เซเดส - เบนซ์ 300 เอสอีแอล 3.5 แต่ปัจจุบันมีเพื่อนขอซื้อไปแล้ว
คุณสุรินทร์เปิดใจว่ารถ เหล่านี้ดูมีเสน่ห์ในตัวของมันเองดึงดูดให้มอง และที่สำคัญแต่ละคันนั้นมีประวัติให้เราศึกษาอีกด้วยเทียบกับรถร่นใหม่ๆนั้น รถคลาสสิกกินขาดเพราะเส้นสายที่ออกแบบนั้นมีความละเอียดอ่อนกว่า ส่วนรถในฝันนั้นคุณสุรินทร์บอกว่าต้องเป็น "บูกัตติ" เท่านั้นเพราะว่าเป็นรถฝรั่งเศสที่ผลิตมาแต่ละร่นนั้นมีจำนวนน้อยมาก และเทคโลโลยีก็ล้ำสมัย
"ความ สุขของการเก็บสะสมรถโบราณนั้นจะว่าไปแล้วมันก็เหมือนกับว่าเรานั้นเห็นแก่ ตัวเพราะว่าเมื่อเก็บแล้ว มีแล้วก็อยากเป็นเจ้าของคนเดียวไม่อยากให้ใครมาขับ ไม่อยากขายให้ใคร บางคนต้องเจรจาซื้อขายกันเป็น 10 ปีทีเดียว"