เมื่อ 100 ปีก่อน ภูเขาไฟระเบิดคนทั้งเมืองเสียชีวิต แต่เขาเป็น"ชายเพียงคนเดียวในเมืองที่รอดชีวิตมาได้"
ในปี 1875 "Ludger Sylbaris" ทำงานเป็นกรรมกรอยู่ในเมือง Saint-Pierre บนเกาะ Martinique ทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน และเขาสร้างปัญหาจนกลายเป็นที่รู้จักของคนในเมืองได้
และในคืนวันที่ 7 พฤษภาคม 1902 เขาเดินออกจากเมืองตั้งใจจะไปอะไรดื่ม แต่กลับมาลงเอยที่เหตุจลาจลและเขาทำร้ายชายคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ตำรวจเลยให้บทเรียนเขาด้วยการจับไปขังเดี่ยวในคุกใต้ดิน เป็นเพียงห้องมืดขนาดเล็กที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่าง มีเพียงช่องเล็กๆ เหนือประตูเท่านั้น แต่มันกลับช่วยชีวิตเขาไว้
เพราะวันต่อมาภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ใกล้เมือง Saint-Pierre เกิดการปะทุขึ้น ประชาชนในชนบทต่างพากันมาหลบซ่อนในเมืองกันหมด นั่นเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงมาก
ภูเขาไฟระเบิดเกิดการทำลายล้างขนาดใหญ่คร่าชีวิตคนไปกว่า 40,000 คน ทั้งยังมีคลื่นความดันอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาทำให้พื้นที่ทั่วทั้งเมืองกลายเป็นพื้นราบเรียบไปเลย
ขณะเดียวกันที่มีผู้คนตายเพราะถูกไฟจากภูเขาไฟเผาไหม้ และผู้คนบางส่วนที่หลบหนีไปอยู่ในอาคารก็เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากก๊าซที่ได้จากการเผาไหม้ของออกซิเจนที่กลายเป็นเถ้าภูเขาไฟ
หลังจากนั้น 4 วันต่อมาหลังการระเบิด ทีมกู้ภัยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของ Sylbaris แม้ว่ามือของเขาจะถูกเผาไหม้ แต่คุกใต้ดินที่ใช้ขังเขากลายเป็นจุดปลอดภัยมากที่สุดของเกาะ หลังจากนั้นเรื่องราวชีวิตของเขาก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
ทั้งเขายังเล่าถึงการเอาตัวรอดของเขาในขณะที่เกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย โดยเขาเปิดเผยว่าเขาต้องฉี่รดเสื้อผ้าของเขาแล้ววางมันไว้ตรงช่องเล็กๆ เหนือประตูเพื่อป้องกันตนเองจากความร้อนสูง
ต่อมาเขาก็กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในฐานะ "ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว" ในเมืองจากเหตุภูเขาไฟระเบิด
หลังจากนั้นเขาได้รับการอภัยโทษสำหรับการก่ออาชญากรรมของเขา ทั้งบริษัท Barnum & Bailey ยังจ้างเขาทำงานอีกด้วยในฐานะที่เขาเป็นของที่ระลึกที่ยังมีชีวิตอยู่จากเหตุภูเขาไฟระเบิดและเป็นชายที่รอดชีวิตมาได้จากวันหายนะ ทั้งรอยแผลเป็นของเขาสร้างความประหลาดใจให้กับฝูงชนเป็นอย่างมากอีกด้วย