http://www.meekhao.com/news/gun-power
ฉากยิงปืนกลถล่มกันในหนังแอคชั่น รึหนังสงคราม คือสิ่งที่เราล้วนเห็นกันมานับไม่ถ้วน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เคยมีใครคาใจบ้างมั้ยว่า หากในชีวิตจริงเราถูกกระสุนยิงเจาะเข้าไปในร่างจะรู้สึกอย่างไร!?
ด็อกเตอร์ Dan Pronk เป็นทหารที่จบด้านการแพทย์ในโรงเรียนทัพบกออสเตรเลีย จากนั้นเขาก็ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบพิเศษ ที่ผ่านการรบในอัฟกานิสถานมากว่า 100 สมรภูมิ และวันนี้เขาได้ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังถึง ‘ความเจ็บปวดที่แท้จริง’ หลังจากที่คุณถูกกระสุนเจาะเข้าไปในร่าง โดยเขาได้เปรียบเทียบอานุภาพความรุนแรงผ่านสุดยอด 2 ปืนที่เห็นบ่อยในหนังอย่าง AK-47 (หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่าอาก้า) กับ M4
Dan Pronk เผยว่า “ถ้าหากเลือกได้ ผมยอมถูกยิงด้วยปืน AK-47 มากกว่า M4 โดยเฉพาะในระยะยิง 150-200 เมตร เนื่องจากหากว่ากันตามหลักฟิสิกส์ปืน M4 สามารถส่งแรงกระแทกได้สูงกว่า มีความเร็วสูงกว่า มันเร็วมาก อีกทั้งมีแรงพุ่งแบบโปรเจคไทล์สู่เป้าหมายที่เฉียบคม หรือถ้าจะพูดแบบภาษาคนง่ายๆก็คือมันสร้างบาดแผลได้ร้ายแรงแบบเต็มประสิทธิภาพทุกเม็ด”
กระสุนของปืน AK-47
แต่นั่นก็แค่หลักฟิสิกส์…แล้วบาดแผลหรือความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจริงล่ะจะเป็นยังไง!?
เมื่อกระสุนเจาะเข้าไปในร่าง มันจะสร้างโพรงทิ้งบาดแผลทิ้งไว้ทันที โดยขนาดของโพรงจะขึ้นอยู่กับกระสุน ยกตัวอย่างในกรณีปืน AK-47 ใช้กระสุน 7.62มม. ถ้าคุณถูกยิง ก็จะเกิดโพรงขนาด 7.62 มม.บนบาดแผลทันที…และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความทรมาน โดยหากกระสุนพุ่งทะลุเข้าจุดสำคัญ มันจะสร้างโพรงในร่างกายที่เพียงพอที่จะทำให้คุณกระอักตาย แต่ถ้าหากมันพุ่งผ่านเนื้อเยื่อที่ไกลจากจุดสำคัญก็ยังอาจไม่ร้ายแรงถึงฆาต
แต่ปืน M4 นั้นน่ากลัวกว่ามาก และนี่คือภาพหลักฐานความเสียหายที่มันสร้างไว้
โดยในภาพคือรูปเอ็กซเรย์หลังถูก M4 ยิง จะเห็นว่ากระดูกโคนขาแหลกเป็นเสี่ยง และนั่นเกิดขึ้นเพียงเพราะถูกแรงอัดกระแทกจากกระสุนที่ส่งเข้าไป โดยมันยังเฉือนผ่านเข้าไปในเส้นเลือดของคุณด้วย รับรองว่าคุณจะต้องเจอความเจ็บปวดที่พุ่งพล่านจนเกินจะทานไหว
คุณ Mircea Goia ที่เคยสัมผัสกับประสบการณ์ถูกยิงเผยว่า “หลังจากถูกยิงสัก 2-3 วิ ความเจ็บปวดจะพุ่งพล่านจนคุณต้องกรีดร้องออกมาไม่หยุด คุณจะรู้สึกมือชา และคุณจะรู้สึกเหมือนคล้ายกับตอนที่กำลังอยากนอน”
ส่วนคุณ Jesse ที่เคยประสบกับเหตุการณ์ถูกยิงตรงบริเวณหน้าอกเผยว่า “หลังถูกยิงที่หน้าอก ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนอกจะระเบิด”
ซึ่งปืน M4 จะมีลักษณะเด่นของกระสุนที่เล็กกว่า เบากว่า และพุ่งเร็วกว่า AK-47 กล่าวคือมันสามารถพุ่งเฉือนเข้าไปในร่างของคุณได้ลึกกว่า AK-47 หลายเท่า
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดความรุนแรงของบาดแผลก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ Dan Pronk เผยว่าหากเขาเลือกได้ก็ยอมโดนยิงด้วยปืน AK มากกว่า ทั้งนี้ทางที่ดีที่สุดก็คือกระสุนเหล่านี้ไม่ควรถูกนำมายิงกันในชีวิตจริง เพราะสงครามมีแต่ความสูญเสียเสมอ
ที่มา http://www.blisstree.com/2007/04/17/mental-health-well-being/whats-it-feel-like-to-get-shot-with-a-gun/