ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ชายผู้กล้าพูดแทนใจคนอเมริกันทั้งประเทศ จนได้รับการโหวตด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น และก้าวเข้าสู่การเป็นประธานาธิบดีได้สำเร็จ แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆเกี่ยวกับเขาหลังจากนี้ คือนโยบายบริหารและการเมืองแบบสุดโต่งของเขา ที่มักเป็นที่สนใจทุกครั้งและมักตกเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อยครั้ง วันนี้เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้ชมกันครับ
1.นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ
นายทรัมป์ เคยประกาศสร้างกำแพงกั้นพรมแดงระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก เพื่อตัดช่องทางของผู้ลักลอบเข้าเมือง อีกทั้งยังมีแผนจะให้เม็กซิโกต้องชำระจ่ายเงินทั้งหมด เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลเม็กซิโกรู้เห็นเป็นใจให้พลเมืองตัวเองแอบเข้ามาหา กินในแผ่นดินสหรัฐ นายทรัมป์ ยังประกาศกร้าวว่า หากพบผู้อพยพก่อคดีในสหรัฐฯ จะบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศทันที และเพิ่มบทลงโทษเข้มงวดสำหรับผู้ที่อยู่สหรัฐฯ เกิดกำหนดในวีซ่า พร้อมกับมีแนวคิดไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ด้วย
2. นโยบายบริหารเศรษฐกิจ
นายทรัมป์ ที่เคยลั่นวาจาอย่างหนักแน่น ทำให้สื่อวิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ อาจจะกลับไปเหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บริหารโดดเดี่ยว ไม่พึ่งพาใคร นำการลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประเทศตัวเอง เพื่อเน้นการสร้างงานให้คนในประเทศตัวเอง
3. นโยบายบริหารภายในประเทศ
นายทรัมป์ เขาตั้งใจจะลดสถิติอาชญากรรมในประเทศให้ได้ หลังจากระยะหลังๆ มักเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับคนผิวสีหลายครั้ง พร้อมฟื้นเอาบทลงโทษการประหารชีวิตผู้ต้องหากลับมา ส่วนปัญหาอัตราการว่างงานและสวัสดิการของรัฐบาลต่างๆ ที่จะยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายเก่าของ บารัค โอบามา โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่เป็นปัญหาเรื้อรังที่จะเปลี่ยนให้ประชาชนจ่ายเอง รักษาเอง
4. นโยบายเรื่องกลุ่มก่อการร้าย
นายทรัมป์ วางแผนใช้วิธีเจรจาและแทรกแซงเข้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากเขามองเห็นว่า ประเทศลิเบีย ล่มสลายเพราะการไม่เข้าไปแทรกแซงช่วยเหลือ เขาต้องการจะเข้าไปเจรจากับประเทศอิหร่าน ทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ และร่วมมือกันถล่มกลุ่มไอซิสให้หมดไป รวมทั้งจะไม่ให้สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัตินาโต ถ้าประเทศในสมาชิกไม่ช่วยลงขันด้วย
5. ระบบการศึกษาจะเปลี่ยนไป
เนื่องด้วยนโยบายของทรัมป์ มีการส่งตรงต่อสภาคองเกรสให้ระบบการศึกษาอย่างมาก ทำให้มีหลายเสียงลือกันว่า ทางมหาลัยอาจจะขึ้นค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์จิปาถะที่สมควรจะจ่ายเพื่อสาธารณะด้วย แต่ในอีกด้านหนึ่งแล้ว บ้างก็ว่า ทรัมป์ มีแผนต้องการจะลดอัตราค่าธรรมเนียมทางศึกษาลงเพื่อลดภาระหนี้ของนักศึกษา ด้วย อีกทั้งต้องการที่พัฒนาการศึกษาทางสายอาชีพโดยตรง ไม่ว่าจะ สถาบันเทคนิค อาชีวะ และยังต้องการแก้ไขกฎหมาย ให้บ้านที่มีบุตรหลานเกินกว่า 4 คนขึ้นไป สามารถขอลดภาษีเพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนลูกหลานได้อีกด้วย