http://www.meekhao.com/news/life-in-yale-university

ในวงการศึกษา ‘มหาวิทยาลัย Yale’ ถือเป็นหนึ่งในที่ที่ทรงอิทธิพลและเก่าแก่ติดลำดับต้นๆของโลก ที่นี่ได้สร้างยอดคนแห่งยุคสมัยขึ้นมากมาย และเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งถึงจุดครบรอบ 314 ปี!

มหาวิทยาลัย Yale นั้นก่อตั้งเมื่อ วันที่ 9 ตุลาคม ปี 1701 แรกเดิมทีใช้ชื่อว่ามหาวิทยาลัยคอนเน็คติกัต แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นเยลเพราะ  Elihu Yale ได้บริจาคเงินให้กับโรงเรียนในปี 1718 จึงได้ตั้งตามชื่อของเขา…ว่าแต่เมื่อกาลเวลาผ่านมายาวนานขนาดนี้ บางทีมันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘บรรดานักศึกษา’ ในยุคแรกเริ่มก่อตั้งของที่นี่เค้าจะใช้ชีวิตกันยังไง แล้วมันแตกต่างกันมหาวิทยาลัยยุคปัจจุบันแค่ไหน?  เดี๋ยวหมีขาวขออาสาพาทุกคนนั่งไทม์แมชชีน แล้วย้อนไปดูชีวิตนักศึกษาในยุคนั้นกันจ้ะจะได้หายคาใจ

รูปถ่ายสวนสาธารณะ Hamilton ในยุค 1870 ที่ที่เยลได้เป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬา New York Times ได้กล่าวไว้ว่านี่คือที่ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่มันถูกรื้อถอนไปแล้ว

 ทีมนักกีฬาพายเรือของมหาวิทยาลัยเยลปี 1877 กิจกรรมพายเรือในยุคนั้นถือเป็นหนึ่งในกีฬาของคนชนชั้นสูงก็ว่าได้

ทีมนักกีฬาฟุตบอลปี 1878

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยกำลังนั่งหันหน้าเข้าหาถนน ปี 1878 พวกเขาคือลูกผู้ชายที่อยู่ในยุคที่ไร้ WiFi และไม่มีเฟซบุ๊กให้เล่น

แต่ถึงจะไม่ได้มีเทคโนโลยีเริ่ดหรูดั่งปัจจุบัน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายคนเลยก็นิยมโพสท่าถ่ายรูปไม่แพ้คนในปัจจุบันเช่นกัน รูปนี้ถ่ายเมื่อปี 1884

นักศึกษาที่นี่มีโอกาสสัมผัสความหนาวยะเยือกเสมอ อย่างในภาพนี้จากปี 1888 วันที่ 11 ถึง 14 มีนาคม เมือง New Haven โดนพายุหิมะถล่มระดับความหนา 45 นิ้ว

รูปถ่ายนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ในอดีต ‘สิทธิสตรี’ ยังห่างไกลจากคำว่าเท่าเทียม โดยเมื่อปี 1891 ผู้หญิงไม่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้จนกระทั่งปี 1969

ร้านค้าที่ถนน Chapel ของมหาวิทยาลัย ราวๆปี 1869 ที่พึ่งของเหล่านักศึกษายามขาดแคลนสิ่งของต่างๆ

เมือง New Haven ช่วงปลาย ค.ศ. 1800 ต้น Elm อุดมสมบูรณ์มาก จึงทำให้เมือง New Haven มีชื่อเรียกเล่นๆว่า The Elm City

นี่คือสภาพหอพักใน Durfee Hall ช่วง ศตวรรษที่ 20 เก๋ไก๋มีสไตล์ไม่เบา เผลอๆยังดูจะสะดวกสบายยิ่งกว่าหอมหาวิทยาลัยในปัจจุบันอีกนะเนี่ย

ภาพเหล่านี้ก็เป็นดั่งสีสันของประวัติศาสตร์แห่งวงการมหาวิทยาลัยโลก แต่อันที่จริงจะเรียนที่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่า คุณตั้งใจเรียนรู้และมุ่งมั่นแค่ไหน เพราะถ้าคุณมีไฟมีความเอาจริงเอาจังในตัว ไม่ทำตัวเรื่อยเปื่อย รับรองว่าจะจบมหาวิทยาลัยไหน ก็ย่อมจะเอาดีได้อย่างแน่นอน

ที่มา http://www.businessinsider.com/yale-university-campus-life-in-the-1800s-2015-10