http://www.meekhao.com/history/badass-scientists

เมื่อพูดถึง “นักวิทยาศาสตร์” คนส่วนใหญ่คงนึกถึงบุคคลที่เฉลียวฉลาด เคร่งขรึม และมีเหตุมีผล จนอาจลืมไปว่านักวิทยาศาสตร์ล้วนเป็นมนุษย์ปุถุชนจึงมีบางคนที่ใช้ชีวิตได้อย่างสุดเหวี่ยงไม่แพ้ใคร

และนี่คือ 7 รายชื่อนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ ที่นอกจากจะมีผลงานเจ๋งๆ ที่ควรค่าแก่การยกย่องแล้ว ยังมีวีรกรรมที่สุดยอดจนโลกต้องจดจำอย่างไม่มีวันลืม

ไทโค บราเฮ (1546-1601)

เขาคือนักดาราศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญในการยืนยันว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ ไทโคเป็นผู้ค้นพบและจดบันทึกข้อมูลสำคัญทางดาราศาสตร์เช่นซุปเปอร์โนวาหรือตำแหน่งดาวเคราะห์ ที่ทำให้ลูกศิษย์และนักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

บราเฮ เป็นราชตระกูลสำคัญราชตระกูลหนึ่งในราชวงศ์เดนมาร์ก ดังนั้นไทโค บราเฮ จึงเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ร่ำรวยที่มีชีวิตหรูหราไม่แพ้ใคร ในเวลาว่างไทโคชอบจัดปาร์ตี้ในปราสาทบนเกาะส่วนตัวของเขา โดยแขกรับเชิญคน(?)สำคัญก็คือกวางมูส สัตว์เลี้ยงตัวโปรด นอกจากนี้ครั้งหนึ่งไทโคเคยเสียจมูกไปในการดวลแบบตัวต่อตัว เขาก็เลยเอาทองคำมาแปะเป็นจมูกอันใหม่ให้กับตัวเอง

นิโคลา เทสลา (1856-1943)

นักประดิษฐ์ผู้คิดค้นอุปกรณ์และทฤษฎีต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ด้านไฟฟ้าและการสื่อสารได้มากมาย

นิโคลาถูกขนานนามว่าเป็น “นักวิทยาศาสตร์เพี้ยน” เพราะนอกจากเขาจะเป็นอัจฉริยะแล้วเขายังบ้าคลั่งมากเช่นกัน นิโคลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์และผลงานสร้างสรรค์มากกว่า 700 รายการ แต่กลับเสียชีวิตไปอย่างสิ้นเนื้อประดาตัวพร้อมกับหนี้สินที่มากเกินกว่าจะชำระไหว ครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้มือของผู้ช่วยหลอมละลายเพราะโดนรังสี X มากเกินไป นอกจากนี้การทดลองและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ของเขายังได้รับการขนานนามว่าอันตรายจนถึงขั้นทำลายล้างโลกได้

มารี กูว์รี (1867-1934)

นักเคมีผู้ค้นพบรังสีเรเดียมที่ใช้ยับยั้งการขยายตัวของมะเร็ง เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 สาขา และยังเป็นอาจารย์หญิงคนแรกของมหาวิทยาลัยปารีส ตลอดชีวิตของมารีเธอแทบจะไม่เคยมีเงินพอสำหรับค่าอาหาร แม้ว่าเธอจะสามารถจดสิทธิบัตรได้และอาจกลายเป็นเศรษฐี แต่มารีกลับทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับการค้นควาทดลอง จนท้ายที่สุดก็เสียชีวิตเพราะสัมผัสกับรังสีเรเดียมมากเกินไป

ริชาร์ด ไฟน์แมน (1918-1988)

หนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ทรงคุณค่าและมีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ผู้ได้รับรางวัลโนเบลจากการขยายทฤษฎีพลศาสตร์ไฟฟ้าควอนตัม เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลกและยังเป็นผู้ตรวจสอบการระเบิดของกระสวยอวกาศแชลเลนเจอร์อีกด้วย ทุกคนที่ได้รู้จักริชาร์ดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็นคนสนุกสนาน ครื้นเครง และเป็นกันเองมาก ในเวลาว่างเขาชอบตีกลอง และยังมีข่าวลือว่าเขาทำการทดลองเกี่ยวกับสารเสพติดอย่าง LSD เคตามีน และกัญชา ริชาร์ดชอบทำงานในบาร์ของนักเต้นระบำเปลื้องผ้า และจดทฤษฎีฟิสิกส์ แต่งบทกวี หรือวาดภาพลงบนที่รองจาน

เซอร์แพทริก มัวร์ (1923-2012)

นักดาราศาสตร์และผู้ดำเนินรายการ The Sky At Night ได้รับการแต่งตั้งยศจากผลงานด้านดาราศาสตร์ในปี 2001 เซอร์แพทริกเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักดาราศาสตร์ผู้แปลกประหลาดที่เรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง เขาชอบตีไซโลโฟนและรักแมวมาก เขาเข้าร่วม British Astronomical Association ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ขวบ ตีพิมพ์ผลงานด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ Mare Crisium (แอ่งบนดวงจันทร์) ครั้งแรกตอนอายุ 13 ปี เริ่มสวมแว่นตาและสูบยาเส้นครั้งแรกตอนอายุ 16

เมเรดิท กร์ดีน (1929-1998)

นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นวิธี “Incineraid” ในทางวิศวกรรม เขาเป็นทั้งนักฟิสิกส์ นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์ ผู้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจนได้รับรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันกระโดดไกลในปี 1952 แม้ว่าในช่วงบั้นปลายชีวิตเขาจะสูญเสียการมองเห็น แต่ก็ได้สร้างผลงานไว้มากมายจนถูกบรรจุชื่อไว้ใน Engineering and Science Hall of Fame

เคร็ก เวนเตอร์ (1946-ปัจจุบัน)

นักพันธุศาสตร์คนแรกของโลกที่สามารถสร้างแผนที่พันธุกรรมมนุษย์และพันธุกรรมแบคทีเรียได้สำเร็จ เคร็ก เวนเตอร์ ในช่วงวัยรุ่นนั้นใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเล่นเซิร์ฟและกีฬาทางน้ำจนไม่สนใจการเรียน แต่ต่อมาในปี 1995 เขากลายเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่สร้างแผนที่พันธุกรรมแบคทีเรียได้สำเร็จ จึงได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Human Genome Project โดยขับรถปอร์เช่สีดำปราดเปรียวและล่องเรือยอชต์ขนาด 95 ฟุตแบบเก๋ๆ ขณะทำงาน

ที่มาhttps://www.buzzfeed.com/skarlan/7-badass-scientists-throughout-history?utm_term=.wlQ0R00Dj