การเดินทางในอวกาศแต่ละครั้งนั้นมีความเสี่ยงมากมายที่อาจทำให้นักบินอวกาศเสียชีวิตได้ แต่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนและคิดว่าการเดินทางไปในอวกาศนั้นเป็นเรื่องง่ายดายมาก โดยทางเว็บไซต์ Vox ได้รวบรวมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการเดินทางไปดาวอังคาร และแต่ละข้อนั้นร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้นการเดินทางไปนอกโลกไม่ใช่เรื่อง่ายเลนเพราะต้องเสี่ยงตายอยู่ตลอดเวลา
1. จรวดอาจเกิดระเบิดขึ้นได้ตลอดเวลาตั้งแต่ยังไม่เดินทางออกจากโลก
เพราะหากมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้จรวดเกิดระเบิดขึ้นได้ และมันทำให้คนในจรวดเสียชีวิตทั้งหมดแน่นอน ถ้ามีคนอยู่ในจรวดจำนวนมากก็ส่งผลเสียจำนวนมาก ดังนั้นการเดินทางด้วยจรวดจึงเสี่ยงอันตรายยิ่งกว่าการขับรถหรือปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์เสียอีก
2. รังสีดวงอาทิตย์อาจแผดเผาจนตายได้
ซึ่งช่วงการเดินทางนั้นมีสิทธิ์ที่นักบิวอวกาศจะได้รับรังสีมากกว่าบนโลกมาก เพราะอยู่บนโลกเรามีสนามแม่เหล็กคอยปกป้องเราจากรังสีเหล่านี้ แต่ในอวกาศนั้นแม้มันจะดูว่างเปล่าแต่มันไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่เราคิดนะเพราะเต็มไปด้วยรังสีและอนุภาคมากมาย
โดยทางนาซ่าคำนวนว่าการเดินทาง 1 เที่ยวนั้นจะเกิดรังสีสะสมในตัวนักบินอวกาศมากเทียบเท่ากับการทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เลยทีเดียว แต่นักวิจัยเชื่อว่าน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีในการกำบังรังสี
แต่มันไม่ง่ายหรอกเพราะถ้าเดินทางไปถึงดาวอังคารแล้วก็ยังเสี่ยงโดนรังสีอยู่ดีเพราะดาวอังคารไม่มีโอโซนและสนามแม่เหล็กเหมือนโลก มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกรังสีแผดเผา ดังนั้นการสร้างสถานีอวกาศใต้ดินอาจเป็นตัวเลือกที่ดีในอนาคต
3. ยานอาจจะตกในขณะที่พยายามลงจอดบนดาวอังคาร
หลังจากผ่านการเดินทางอันยาวนานมากว่า 6 เดือนกว่าจะถึงดาวอังคารและสามารถรอดชีวิตมาได้จากสถานการณ์ต่างๆ แต่อาจจะมาตายเพราะการนำยานลงจอดก็ได้เพราะชั้นบรรยากาศของดาวอังคารมีความหนาแน่นมากกว่าโลก
เพื่อการลงจอดที่ปลอดภัยจึงจำเป็นต้องพุ่งตัวด้วยความเร็วมาก รวมถึงใช้แรงขับเคลื่อนจากเชื้อเพลิงมากอีกด้วย ดังนั้นนาซ่าจึงใช้ชูชีพเข้ามาเป็นตัวช่วยในลงจอดยานสำรวจที่มีน้ำหนัก 1 ตัน
4. แรงโน้มถ่วงที่ต่ำของดาวอังคารอาจส่งผลต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ
แรงโน้มถ่วงต่ำเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญบนดาวอังคารโดยมีค่าเพียง 0.38 ของโลกเท่านั้น ตามปกติแล้วเมื่ออยู่นอกโลกกระดูกจะสูญเสียแคลเซียมไปเรื่อยๆ และจะได้รับการฟื้นฟูหลังกลับมายังโลกอีกครั้ง ดังนั้นแม้ว่าจะมีการวิจัยว่ามนุษย์สามารถกระโดดสูงขึ้นและใช้ชีวิตบนดาวอังคารได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง
5. หากเกิดอุบัติเหตุกับชุดอวกาศจะขาดอากาศตายทันที
มนุษย์จะผลิตออกซิเจนได้จากคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากเครื่องจักร ดังนั้นการเดินทางไปนอกโลกจึงจำเป็นต้องขนน้ำ อาหาร และอากาศไปจำนวนมหาศาล และถ้าเกิดชุดอวกาศเกิดชำรุดหรือผิดพลาดนั่นหมายถึงจุดจบของชีวิตแน่นอน
6. มนุษย์อาจตายจากพิษในดินบนดาวอังคารได้
เพราะดินที่ดาวอังคารเต็มไปด้วยสารเพอโคเรทเป็นเกลือชนิดหนึ่งที่สร้างความเสียหายกับต่อมไทรอยด์ของมนุษย์ แต่ถ้าไม่ไปสัมผัสก็จะไม่เกิดอันตราย แต่ถ้าปนเปื้อนลงไปในน้ำหรืออาหารอาจเกิดอันตรายได้ ดังนั้นดินบนดาวอังคารจึงไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืช
7. เพื่อนร่วมทางอาจกลายเป็นบ้าได้
เพราะในการเดินทางนั้นแต่ละคนต้องเจอกับสภาพความกดดันจำนวนมากเป็นไปได้ว่าบางคนอาจสติหลุดไปได้ ดังนั้นในปี 2007 - 2011 นาซ่าจึงทำการทดลองสมมติให้คน 6 คนมาอยู่รวมกันเพื่อปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคารเป็เวลานาน 520 วัน ปรากฎว่าไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นเลย
แต่ก็ไม่มีวิธีการคัดกรองทางจิตวิทยาที่บ่งบอกได้ 100% แต่คนที่เดินทางไปในอวกาศต้องมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ หากมีเรื่องรบกวนใจเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้