http://www.meekhao.com/history/rasputin-daughter-life
เผยชีวิต Maria บุตรสาวของ ‘รัสปูติน’ พ่อมดปีศาจเจ้าของคำสาปแห่งราชวงศ์โรมานอฟ
เรื่องราวของ “มาเรีย” บุตรสาวเพียงคนเดียวของ “รัสปูติน” พ่อมดจอมขมังเวทย์แห่งรัสเซียผู้เป็นต้นกำเนิดของคำสาปแห่งราชวงศ์โรมานอฟนั้นเต็มไปด้วยปริศนาและความน่าสนใจไม่แพ้ชีวิตของผู้เป็นพ่อ
เป็นเวลากว่าร้อยปีมาแล้วที่การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟแห่งรัสเซียนั้นยังอยู่ในความทรงจำของผู้คน สาเหตุหนึ่งก็เพราะปริศนาคาใจว่าสิ่งที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลายนั้นเป็นเพราะ “คำสาป” ของพ่อมดที่มีชื่อว่ารัสปูตินจริงหรือไม่
แต่นอกเหนือไปจากเรื่องราวชีวิตอันน่าพิศวงของรัสปูตินเองแล้ว เรื่องราวของบุตรสาวแท้ๆ หนึ่งในสามคนที่รอดชีวิตจนเติบใหญ่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
แม้จะมีเรื่องอื้อฉาวกับโสเภณีและสตรีมากมายตั้งแต่สาวชาวบ้านไปจนถึงชนชั้นสูง รัสปูตินเองก็มีภรรยาชื่อ Praskovia ซึ่งเขาและเธอมีบุตรด้วยกันทั้งสิ้น 7 คน อนิจจามีเพียงบุตรสาว 3 คนที่รอดชีวิตจนเติบใหญ่ ได้แก่ Dmitri (เกิดในปี 1895) Matryona (เกิดในปี 1898) และ Varya (เกิดในปี 1900) ซึ่ง Matryona นั้นภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นมาเรีย (Maria) และย้ายไปอาศัยอยู่กับพ่อของตนในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตอนปี 1913
หลังจากนั้นในปี 1916 จุดจบของรัสปูตินก็มาถึง เชื่อกันว่าเขาถูกวางยาพิษ กระหน่ำยิง และทิ้งศพลงในแม่น้ำ Neva สถานที่ที่มีคนพบศพของเขาในสภาพถูกแช่แข็งเนื่องจากอากาศที่หนาวเหน็บ ความโด่งดังของรัสปูตินทำให้มีผู้คนมากมายอ้างตัวว่าเป็นทายาทตัวจริงของเขา แต่เรื่องราวของบุตรสาวคนโตและคนเล็กนั้นคลุมเครือ ซึ่งคนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าทั้งคู่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยัังสาว เหลือเพียงมาเรียคนเดียวเท่านั้นที่ใช้ชีวิตอย่างน่าสนใจไม่แพ้พ่อ
หลังจากย้ายไปอาศัยอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเธอก็แต่งงานกับข้าราชการชาวรัสเซียชื่อ Boris Soloviev การแต่งงานของทั้งคู่ไม่ได้เกิดจากความรัก หนังสือ Nicholas and Alexandra: The Fall of the Romanov Dynasty ได้เปิดเผยบันทึกของมาเรียซึ่งเธอเขียนไว้ว่า “พ่อพูดกับเราอีกครั้ง…ทำไมพวกเขาถึงพูดเหมือนกันไปหมด? ‘รักโบริส ลูกต้องรักโบริส’ ฉันไม่ชอบเขาด้วยซ้ำไป”
มาเรียและโบริสมีบุตรด้วยกันสองคนคือทาเทียอาน่าและมารีอา ก่อนที่โบริสจะเสียชีวิตด้วยวัณโรคในปี 1926 มาเรียประกอบอาชีพเป็นนักเต้นคาบาเร่ต์เพื่อดูแลครอบครัว
ในปี 1930 เธอก็เข้าร่วมกับคณะละครสัตว์ Ringling Bros. โดยรับบทบาทเป็นผู้ฝึกสิงโต พวกเขาย้ายถิ่นฐานไปยังอเมริกา มาเรียเล่าว่าเธอสามารถควบคุมสัตว์ป่าที่ดุร้ายได้เนื่องจาก “ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ? ฉันเคยถูกขังอยู่กับพวกบอลเชวิก(กลุ่มสังคมนิยม)มาแล้ว”
หนังสือเรื่อง Women of the American Circus, 1880-1940 เล่าถึงประวัติชีวิตของมาเรียว่าเธอใช้เรื่องราวชีวิตของพ่อมาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงโชว์ “ลูกสาวของพ่อมดแห่งรัสเซียแสดงตนในบทบาทของผู้มีเวทย์มนตร์ในการควบคุมสัตว์ป่าดุร้าย เหมือนกับที่พ่อของเธอควบคุมผู้คน”
แต่หลังจากถูกหมีทำร้ายเธอก็เลิกอาชีพนักแสดงละครสัตว์ มาเรียแต่งงานกับวิศวกรไฟฟ้าและหลังจากการหย่าร้างก็ขึ้นเรือไปทำงานเป็นช่างเครื่อง
มาเรียและนักหนังสือพิมพ์ชื่อ Patte Barham พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของเธอ จากนั้นจึงตีพิมพ์ลงในหนังสือ Rasputin: The Man Behind the Myth ในปี 1977 ปีเดียวกับที่มาเรียเสียชีวิต
“พ่อของฉันเป็นคนมีจิตใจเมตตาและเคร่งศาสนา เขานึกถึงคนอื่นตลอดเวลาโดยไม่เคยนึกถึงผลประโยชน์ของตัวเอง คนมากมายอิจฉาท่าน”
ที่มา http://www.mentalfloss.com/article/69238/rasputins-daughter-maria-was-fascinating-mad-monk-himself