https://www.yaklai.com/lifestyle/special-article/fact-horrifying-airport/
เบื้องหลังการทำงานสนามบิน…ไม่เหมือนที่หลายคนคิด แต่เชื่อเถอะมันเกิดขึ้นทุกวัน
หากใครมีความจำเป็นที่จะต้องโดยสารด้วยเครื่องบิน หรือว่ารักการเดินทาง อาจจะมีบ้างที่จะเจอเหตุการณ์ไม่น่าประทับใจ หรือว่าเรื่องราวที่ไม่ค่อยดีกับการเดินทางนั้น แต่รู้หรือไม่…ว่าที่เราเห็นๆ กันอยู่ เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น…. เพราะเบื้องลึก เบื้องหลังของการทำงานสนามบิน ยังมีอะไรที่ไม่น่าจดจำอีกเยอะ แต่เชื่อเถอะ ว่านี่คือความจริง และเกิดขึ้นทุกวัน!!!
1. เครื่องบิน…ศูนย์รวมความสกปรก
ใครคิดว่าเครื่องบินสุดแสนจะสะอาด ไร้ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลืมไปได้เลย เพราะสิ่งสกปรกที่เราว่านั่นคือ เชื้อโรคและแบคทีเรียที่เรามองไม่เห็น เชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านี้ส่วนมากติดมาจากตัวผู้โดยสาร หรือลูกเรือที่ผ่านกันแวะเวียนมาใช้บริการเครื่องบินลำนั้น ทุกครั้งหลังการเดินทางสิ้นสุดจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บทำความสะอาด แต่ทว่า ด้วยเวลาที่ค่อนข้างจะจำกัดอาจทำให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตรวจตราความเรียบร้อยไม่หมด เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค แบคทีเรียที่ปนมากับอากาศภายในเครื่อง และกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดีเลยล่ะ
2. ทั้งปลอดภัยและอันตราย
แม้ความปลอดภัยบนเครื่องบินถือเป็นความปลอดภัยสูงสุดในการทำงาน แต่ทราบหรือไม่ว่า เจ้าหน้าที่ผู้คอยดูแลเกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือเจ้าหน้าที่ทำงานบนลานจอดเครื่องบินส่วนมาก มักจะจบชีวิตเพราะถูกเครื่องยนต์ดูดเข้าไปติดกับใบพัด ยานพาหนะนี้มันคือเครื่องยนต์ทรงพลังที่สามารถยกเหล็กหลายร้อยตันให้ลอยบนฟ้าได้ ก็ไม่แปลกที่มันจะสามารถดูดคนเพียงคนเดียวเข้าไปได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัยจึงควรอยู่ห่างเจ้าเครื่องยนต์ใหญ่ยักษ์ในระยะ 14 ฟุต ถ้าไม่อยากถูกปั่นเป็นสมู้ทตี้ภายในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงการทำงานภายในลานจอดเครื่องบินก็ควรระวังรถขนกระเป๋า หรือรถลากเครื่องบินที่ขับด้วยความเร็วสูงไว้ให้ดี เพราะทำงานแข่งกับเวลาจึงต้องขับด้วยความเร็วสูง ถ้าไม่ระวังก็อาจจะนอนกองกับพื้นหรือไม่ก็เป็นผีเฝ้าสนามบินก็ได้ และเชื่อเถอะว่ามันเกิดขึ้นจริงทุกวัน!
3. ดูแลกระเป๋าเดินทางดุจลูกรักหรือ…ไม่มีทาง!
มันต้องมีกันบ้างแหละกับประสบการณ์แย่ๆ เกี่ยวกับกระเป๋าเดินทาง ที่มักจะถึงมือคุณในสภาพที่แตกต่างจากตอนขามาโดยสิ้นเชิง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการดูแลกระเป๋าเดินทางกล่าวว่า การลำเลียงกระเป๋าเดินทางจำเป็นจะต้องทำงานแข่งกับเวลา ดังนั้นเขาต้องรีบขนกระเป๋าออกจากใต้ท้องเครื่องบินก่อนที่กระเป๋าของเที่ยวบินถัดไปจะมาถึง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำความด้วยความรวดเร็วไปพร้อมๆ กับการลำเลียงกระเป๋าอย่างทะนุถนอมเหมือนลูก ลืมไปแล้วหรือว่ากระเป๋าเดินทางแต่ละใบมันหนักกันกี่กิโล! แล้วพวกเขาต้องขนมันวันละหลายสิบใบ เอาง่ายๆ แค่เกือบห้าสิบใบต่อวันก็พนันได้เลยว่าแม้แต่เดอะฮัล์คก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องสงสัยถ้ากระเป๋าของคุณสภาพมันจะดูไม่ค่อยสวยงามเมื่ออยู่บนสายพานรับกระเป๋า อาจจะมีเลอะ หรือบุบบ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าเละเหมือนโดนรุมขย้ำมานะ
4.โรคดีเลย์
เคยเป็นไหม เมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางเร่งด่วน แต่เที่ยวบินกลับเกิดการล่าช้าหรือดีเลย์ ทำให้ตารางชีวิตในวันต่อไปที่วางแผนไว้มันเละไม่เป็นท่าเสียหมด เมื่อผู้โดยสารไม่พึงพอใจกับความล่าช้า ผู้ที่รองรับอารมณ์ก็คงหนีไม่พ้นพนักงานภาคพื้น หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องทั้งหมดเช่นกัน สาเหตุที่ทำให้เกิดการดีเลย์ส่วนมากคือ การจราจรทางอากาศจากท่าอากาศยานต้นทางหรือปลายทาง เครื่องบินขัดข้อง มีเหตุฉุกเฉิน ภัยพิบัติ อีกมากมายหลายสาเหตุที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ คนที่ต้องคอยรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายเหล่านี้คือเจ้าหน้าที่ของสายการบิน ที่ต้องคอยประสานงานกันเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางถึงที่หมายได้ในที่สุด พวกเขาก็ได้แต่หวังว่าผู้โดยสารจะเข้าใจและอารมณ์เย็นลงบ้าง เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเช่นกัน ยิ่งมีการดีเลย์ล่าช้าเท่าไร ระยะเวลาทำงานของพวกเขาก็ต้องยืดออกไปเช่นกัน อย่าว่าแต่ผู้โดยสารเกลียดการดีเลย์เลย พนักงานก็เกลียดมันไม่แพ้ผู้โดยสารเหมือนกัน
5. พนักงานสนามบิน จะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ?
ไม่จริงเลยที่การทำงานในสนามบินจะสามารถนำสิ่งของต้องห้าม หรือว่าเดินเข้าออกสถานที่ภายในสนามบินได้อย่างเสรี พวกเขาจะโดนตรวจสอบแม้กระทั่งกระเป๋าที่ถือเข้าไปด้านในพื้นที่จำกัดทุกคน ห้ามนำของมีคมหรืออาวุธเข้าภายในพื้นที่เช่นเดียวกันกับผู้โดยสารทุกคน แม้แต่พื้นที่ในการทำงานทุกคนต้องมีการสอบวัดระดับความปลอดภัยเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงพื้นที่จำกัดในบางพื้นที่ได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดภายในสนามบิน
ที่มา : cracked.com