สำหรับใครที่นั่งชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันทางเรียบ มาราธอน 24 ชั่วโมง
ชื่อดัง“เลอ มังส์” ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปีนี้จะเริ่มขึ้นวันที่ 12-13 มิถุนายน 2010
อย่าแปลกใจที่จะเห็นรถ แข่งในคลาส GT2 ที่มีสีสันและลวดลายแปลกๆ
เพราะนี่คือ Art Car คันที่ 17 ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยูพัฒนาขึ้นมาเพื่อนำมาใช้
ในการแข่งขันรายการนี้ โดยคงคอนเซ็ปต์งานศิลป์ในสนามแข่งเหมือนกับ Art Car
ทั้ง 16 รุ่นที่ถูกผลิตออกมาตลอดช่วง 23 ปีที่ผ่านมา

โปรเจ็กต์ Art Car ของบีเอ็มดับเบิลยูเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 1977 และสร้างความฮือฮา
ได้ไม่ น้อย เพราะเป็นการนำศิลปินชื่อดังแห่งยุคเข้ามาร่วมทำงานด้วยการสร้างสรรค์
งาน ศิลป์โดยใช้พื้นที่บนตัวถังรถแทนผืนผ้าใบ และศิลปินที่ผ่านงานจากโปรเจ็กต์นี้
ล้วนแล้วแต่ชื่อดังกันทั้งนั้นไม่ ว่าจะเป็นแอนดี้ วอร์ฮอห์ล, แฟรงค์ สเตลล่า
หรือรอย ลิคเทนสไตน์

สำหรับผลงานใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยูเกิดจากความร่วม มือระหว่างแผนกมอเตอร์สปอร์ตของค่ายใบพัดสีฟ้ากับศิลปินชื่อดังอย่างเจฟฟ์ คูนส์ โดยใช้เรือนร่างของตัวแข่ง M3 GT2 มาเป็นแม่แบบ ซึ่งตัวแข่งรุ่นนี้เพิ่งพาบีเอ็มดับเบิลยูประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ในประเภท Overall ของการแข่งขัน 24 ชั่วโมงซึ่งจัดขึ้นเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ The Green Hell สนามนูร์บูร์กริง ฝั่งเหนือ หรือ Nordschleife ซึ่งมีระยะทางต่อรอบ 20 กว่ากิโลเมตร

คูนส์กับบีเอ็มดับเบิลยูมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วในฐานะลูกค้า เพราะช่วงที่เขาอาศัยอยู่ที่เมืองมิวนิก คูนส์ชื่นชอบรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างมาก ขณะที่การทำงานกันนั้น คูนส์ร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยูในการสร้างสรรค์งานศิลป์หลายโปรเจ็กต์มาตั้งแต่ ปี 2003

ตามโปรเจ็กต์นี้ คูนส์จะต้องทำงานร่วมกับวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีนานหลายเดือน เพื่อให้ความมั่นใจว่า Art Car คันที่ 17 จะเสร็จทันเปิดตัวและสามารถเข้าร่วมการแข่งขันในเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงปีนี้ ซึ่งจุดเริ่มต้นของการทำงานเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยูประกาศให้คูนส์เข้ารับผิดชอบการสร้าง Art Car คันที่ 17 ของตัวเอง โดยคูนส์จะเข้าร่วมสร้างสรรค์งานศิลปบนเรือนร่างของตัวแข่งผ่านทางภาพ 3 มิติของโปรแกรม CAD- computer-aided design คร่าวๆ และนำไปสู่การสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นคันจริงภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดของทีม วิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูที่ Schmid Design แคว้นบาวาเรีย

สิ่งที่ท้าทายในการทำงานสำหรับ Art Car มากที่สุดคือ การแต่งเติมสีสันบนตัวถังโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักของตัวรถและสภาพพื้น ผิวซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังความเพรียวลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่วนในเรื่องของเวลาก็เป็นเงื่อนไขที่สำคัญ เพราะหลังจากเริ่มอนุมัติโครงการแล้ว พวกเขามีเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้นในการเริ่มจากขั้นตอนออกแบบครั้งแรกไปจนถึงการเปิดตัวที่ปารีส ซึ่งพวกเขาก็ทำสำเร็จ