http://www.meekhao.com/history/picasso-might-steel-monalisa
เป็นไปได้หรือไม่!? “ปาโบล ปีกัสโซ” อาจอยู่เบื้องหลังการโจรกรรมภาพ “โมนาลิซา”
ปาโบล ปีกัสโซ จิตรกรเอกของโลก เป็นบุคคลที่นิตยสาร TIME ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นที่รู้จักในด้านชีวิตรักที่อื้อฉาวและไลฟ์สไตล์แบบโบฮีเมียนที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการโจรกรรมภาพ “โมนาลิซา”
ในวันที่ 22 สิงหาคม 1911 ศิลปินชาวปารีเซียง Louis Béroud ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังด้านการวาดภาพเลียนแบบภาพเขียนชั้นน้ำระดับโลก ได้เดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เพื่อลงมือคัดลอกภาพ “โมนาลิซา” ของ Leonardo Da Vinci แต่เมื่อไปถึง Salon Carré ที่ภาพโมนาลิซาแขวนอยู่ เขาก็พบกับผนังที่ว่างเปล่า
Béroud ปลุกผู้รักษาความปลอดภัยที่กำลังงีบหลับด้วยความตื่นตระหนก เป็นเวลานับชั่วโมงที่เหล่าเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบจนแน่ในว่าภาพโมนาลิซาไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายเพื่อไปทำความสะอาดหรือยืมไปถ่ายภาพ จากนั้นจึงประกาศอย่างเป็นทางการว่า เธอถูกขโมยไปแล้วจริงๆ ชาวปารีสช็อคและเศร้าโศกเสียใจกับการหายไปของภาพโมนาลิซา นักสืบหลายชีวิตออกทำการค้นหาและตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ พิพิธภัณฑ์ถูกปิดเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ถูกไล่ออกจากงาน ชายแดนฝรั่งเศสถูกปิดเพื่อทำการค้นหาในเรือและพาหนะทุกชนิดที่เดินทางเข้าออก มีการตั้งเงินรางวัลให้ผู้ที่สามารถนำภาพโมนาลิซามาคืนได้ในมูลค่ากว่า 25,000 ฟรังก์ หรือราวๆ 900,000 บาท
ชาวปารีเซียงเชื้อสายอิตาลี Guillaume Apollinaire ซึ่งอยู่ในลัทธิ Cubism ครั้งหนึ่งเคยพูดถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ว่าควรจะ “ถูกเผาให้ราบ” ถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัยในการโจรกรรม
หมอดูนิรนามคนหนึ่งมักจะเดินตามผู้คนบนท้องถนนในปารีสและพูดถึงดวงชะตาของผู้คนเสียงดังไปทั่ว จู่ๆ เขาก็ชี้นิ้วไปยัง ปาโบล ปีกัสโซ
ปีกัสโซถูกจับและดำเนินการไต่สวนครั้งใหญ่โดยผู้พิพากษา แต่ด้วยสติและความใจเย็น เขาสามารถไขข้อข้องใจและข้อสงสัยในตัวเขาได้ทั้งหมด ทั้งปีกัสโซและนักทำนายคนนั้นจึงถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ
ภาพโมนาลิซาที่คิดว่าน่าจะหายสาบสูญไปตลอดกาลปรากฎตัวในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มากนักในอีก 2 ปีต่อมา
เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ Vincenzo Peruggia รับสารภาพว่าในขณะที่กำลังทำความสะอาดเขาก็ถอดภาพโมนาลิซาออกมาและซ่อนไว้ในเสื้อคลุม
เขาถูกจับได้หลังจากพยายามจำหน่ายภาพโมนาลิซาให้กับแกลอรี Uffizi ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี Vincenzo ซึ่งเป็นชาวอิตาลีเต็มตัวมีความเชื่อว่าโมนาลิซาที่ถูกวาดโดยจิตรกรชาวอิตาลีอย่างดาวินชีนั้นควรเป็นสมบัติของประเทศเขา ไม่ใช่ประเทศฝรั่งเศส
เขาถูกจำคุกเป็นเวลา 7 เดือน และภาพโมนาลิซาก็ได้เดินทางกลับคืนสู่ชาวปารีส
แต่ความสงสัยไม่จบแค่นั้น เพราะกรอบที่ใส่ภาพโมนาลิซานั้นใหญ่และหนักจนไม่น่าเชื่อว่า Vincenzo จะกระทำการคนเดียว และทำไมเขาถึงได้มีความกล้าขนาดนั้น เรื่องราวการโจรกรรมนี้ช่างซับซ้อน ตัวละครมีทั้งจิตรกรผู้ชอบวาดภาพเลียนแบบที่เป็นคนค้นพบการโจรกรรมเสียเอง สมาชิกลัทธิ Cubism ที่แอนตี้ศิลปะในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และนักทำนายผู้ชี้นิ้วกล่าวหาใครหลายคน รวมทั้งตัวปีกัสโซด้วย
ว่ากันว่าทัศนคติของ ปาโบล ปีกัสโซ ต่อการขโมยงานศิลปะนั้นน่ากังขาไม่น้อย มีคนเล่าว่า ถ้าหากเขาพบงานศิลปะที่ไม่มีลายเซ็นและคิดว่าเป็นของเขาหรือคล้ายคลึงกับงานของเขา เขาจะอาสาเซ็นชื่อลงไป หมายความว่า ถ้าเขาชอบงานศิลปะชิ้นไหน เขาจะเซ็นชื่อลงไปให้มันกลายเป็นผลงานของเขานั่นเอง
เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือการทำกันเป็นขบวนการ? อาจเป็นไปได้ว่าปีกัสโซและเพื่อนของเขาในลัทธิ Cubism คือผู้อยู่เบื้องหลังการเล่นตลกด้วยการโจรกรรมงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้? แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ผู้ที่รู้ความจริงที่ยังอยู่มาถึงทุกวันนี้คงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ “โมนาลิซา” เอง
ที่มา messynessychic