บทความ 10 องค์กรลับครองโลก(??)

อันดับ 10 Skull and Bones

 


สมาคม หัวกะโหลกและกระดูกไขว้เป็นสมาคมที่ก่อ ตั้งในมหาวิทยาลัยเยลในปี 1832 เริ่มต้นขึ้นในหมู่นักศึกษาปีสุดท้าย จากนั้นสมาชิกเก่าจะคัดเลือกทาบทามเชิญนักศึกษาเพียงปีละ 15 คน โดยมีคุณสมบัติของผู้จะได้รับการคัดเลือกคือ ในครอบครัวเคย เป็นสมาชิกองค์กรนี้มาก่อน, เป็นคนหนุ่มไฟแรงมีความกระตือรือล้นสูง, ชอบการเมือง, ฐานะดี, ฉลาด, เก่งกีฬาและชอบทำงานเป็นทีม โดยสมาชิกทุกคนจะต้องทาพบหน้าทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ในแต่ละสัปดาห์ โดยสมาชิกเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สุสาน”

สมาคมแห่งนี้ให้ความสำคัญต่อ สมาชิกเป็นหลัก และเคารพกฎเหนือสิ่งอื่นใด โดยทิ้งความเชื่อเดิมและรับเอาเป้าหมายและปรัชญาของ สมาคม เพียงหนึ่งเดียวคือ  เป็นผู้นำโลก ในแต่ละช่วงสมาชิกสมาคมนี้จะมีประมาณ 500-600 คน

ปัจจุบัน ว่ากันว่าสมาชิกของสมาคมนี้ก่อร่างสร้างตัวเป็นตระกูลมั่งคั่ง เป็นเจ้าเศรษฐกิจ มีอิทธิพลไพศาลของโลก เช่นตระกูล Harriman, Rockefeller, Payne, Davison นอกจากนี้ยังแทรกซึมไปทุกวงการของ สังคมอเมริกัน เช่น รัฐบาล นักกฏหมาย นักการเมือง สื่อสารมวลชน การศึกษา ธนาคาร นักธุรกิจ การค้า อุตสาหกรรม สำนักพิมพ์ คริสตจักร ในตำแหน่งบริหารอันดับสูง ทำการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย กิจกรรมทุกอย่าง แม้กระทั่งชื่อจริงของสมาชิก จะถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด

ว่ากันว่าองค์กร CIA ถูกสมาคมนี้ชักใยอยู่เบื้องหลัง และบุคคลสำคัญในปัจจุบันที่เปิดเผยตัวได้ คือ อดีตประธานาธิบดีอเมริกา จอร์จ บุช เขาเป็นสมาชิกของสมาคม หัวกระโหลกไขว้ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญใน CFR
 

อันดับ 9  Freemasonry

              
องค์กร ฟรีเมสัน เป็นองค์กรภราดรภาพที่มีที่มาของเบื้องหลังอันลึกลับตั้งแต่ราวปลายคริสต์ ศตวรรษที่ 16 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17  เป้าหมายแรกของพวกฟรีเมสันคือการต่อสู้กับศาสนาคริสต์ หลังจากนั้น เป้าหมายของพวกนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นการต่อสู้กับทุก นอกจากนั้นแล้ว พวกนี้ยังได้ใช้เครื่องหมายใหม่เป็นรูปสามเหลี่ยมและวงเวียนปลายแหลมสองด้าน เป็นสัญลักษณ์อีกด้วย แหล่งพบปะหรือที่เรียกกันว่า “ลอดจ์” (lodge) แห่งแรกของคนพวกนี้ถูก ตั้งขึ้นในอังกฤษโดยใช้คำขวัญใหม่ว่า “เสรีภาพ ภราดรภาพและเสมอภาค”

การเข้าเป็นสมาชิกฟรีเมสันส์จะมีกฎระเบียบที่ เข้มงวดมาก จะต้องเป็นชายที่มีความเป็นอิสระ ไม่ผูกพัน, เชื่อในความมีตัวตนของพระผู้เป็นเจ้า (จะ พระเจ้าตามความเชื่อของชาวคริสต์หรือศาสนาอื่นไม่ก็ได้) มีอายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี ต้องมีจิตใจดีงาม มีคุณธรรมและจริยธรรม และข้อสุดท้ายก็คือ จะต้องมีชาติกำเนิดที่เป็นไท ไม่เคยตกเป็นทาส และ ต้องผ่านพิธีกรรมลับ หากใครก็ตามที่แอบไปได้เห็นการกระทำพิธีกรรมลับอันนี้ ก็จะต้องถูก ให้เข้าเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์

องค์กร ฟรีเมสันในปัจจุบันมีด้วยกันหลายรูปหลายแบบในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีสมาชิกประมาณ 5 ล้านคนที่รวมทั้งเกือบ 2 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และราว 480,000 คนในอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์)เชื่อกันว่าองค์การนี้ได้เติบโต อย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกระจายอยู่ในทุกวงการ เช่น ประธานาธิบดีเป็น รัฐมนตรี ผู้พิพากษาศาลสูง วุฒิสมาชิก ผู้ว่าการรัฐ ฯลฯ คน ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกขององค์กรลับตั้งแต่เด็กๆ องค์กรเหล่านี้รับสมาชิกยากมากจริงๆ แต่เมื่อรับไปแล้ว สมาชิกก็จะเขยิบขึ้นเป็นคนระดับโลก เดินทางมาไหนไปประเทศใด จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจัดการอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง เมื่อปฏิบัติ การงานสิ่งใด ก็จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจำกัดศัตรูเพื่อให้ท่านใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
 

อันดับ 8 Rosicrucians

 


โรสิครูเซี่ยน เป็นศาสนศาสตร์สมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นประมาณศศวรรษที่ 16 โดย คริสเตียน โรเซนครูสทธ์(Chrisan Rosenkreuz) ชาวเยอรมัน ที่ถือหลักคำสอน “ความจริงลึกลับของอดีตกาล” มีเอกสารสามชุดเผนแพร่คือ Fama Fraternitatis Rosae Crucis(ค.ศ.1614),   Confessio Fraternitatis(ค.ศ.1615),  , and The Chymical Wedding (ปี ค.ศ.1616) เอกสารเหล่านี้เผยแพร่อย่างกว้างขวางและมีอิทธิพลต่อประวัติศาตร์ เนื่องด้วยเนื้อหาบอกเรื่องราวลึกลับการศึกษาวิถีแบบโบราณ การศึกษา ภาษาคับบาลายุคโบราณ  จิต วิญญาณและเทคนิคของการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อความมั่งคั่งโดยสามารถแปรธาตุโลหะทั่วไปให้เป็นธาตุทองคำได้ ที่ต่อมาสมาชิกของสมาคมนี้ก็กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ และมีอิทธิพลในยุโรปในหลายสาขา และการเมืองของยุโรป และมีความเกี่ยวข้องกับฟรีเมสัน เพราะแนวคิดบางส่วนของโรซิครูเซียนถูกนำไปใช้ร่วมกับแนวคิดของฟรีเมสัน นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับลัทธิโปรเตสแตนต์ และขยายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา

......... สัญลักษณ์ ของสมาคม คือ ไม้กางเขน และดอกกุหลาบซึ่งอยู่ตรงกลางไม้กางเขน ว่ากันว่าชาวเยอรมันเป็นผู้นำอย่างพระเจ้าไกเซอร์ และฮิตเลอร์เคยเป็นสมาชิกในองค์กรนี้ด้วย
 

อันดับ 7. Ordo Templis Orientis

 


ออโด เทมพลี โอเรี่ยนติส เป็นองค์กรศาสนาก่อตั้งต้นศตวรรษที่ 20 โดยอเลสเตอร์ โครวลีย์ (Aleister Crowley)ชาวอังกฤษ องค์กรนี้มีเอี่ยวกับฟรีเมนสัน มีเป้าหมายคือต้องการให้องค์กรที่ร่างกฎหมายในองค์กรมาใช้เป็นศูนย์กลางหลัก และเป็นศาสนาใหม่สำหรับยุคใหม่ โดยสมาชิกกลุ่มพิธีกรรมการแต่งตัวและพิธีเป็นของตัวเอง และว่ากันว่าพิธีกรรมเหล่านี้ลึกลับ มนต์ดำ กามราคะ ฯลฯ ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 3000 คนทั่วโลก และหลายคนบอกว่าเป็นกลุ่มลัทธิซาตานสมัยใหม่
 

อันดับ 6. Hermetic Order of The Golden Dawn

         


เป็น ลัทธิมนต์ดำที่รุ่งเรืองมากใน ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นศูนย์รวมของจิตวิญญาณและเคยเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพล ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตกมาแล้ว ก่อตั้งในปี ค. ศ.1888 โดยคนสามคน ซึ่งก็คือ William Wynn Westcott , William Robert Woodman และ MacGregor และ สามคนนี้เป็นมันสมองของ Free Manson (สรุปคือกลุ่ม ฟรีเมนสันมีเกี่ยวทุกงาน)

กลุ่ม นี้มีจุดประสงค์คือการสอนปรัชญาลึกลับและพัฒนาบุคลากรให้เข้าใจหลัก โหราศาสตร์,การทำนายต่างๆ กลุ่มนี้มีความพยายามรวบรวมพิธีกรรมและหลักปรัชญาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยซึ่ง ทำให้เกิดอิทธพลอย่างมากต่อชาวตะวันตกในช่วงระยะเวลานั้น โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนี้ก็มีA.E.Waite (ผู้กำเนิดไพ่ทา โรต์ ) นอกจากนี้ยังมีผู้กวี, นักประพันธ์, นักเขียนบทละคร, นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายที่เป้นสมาชิกกลุ่มนี้ ซึ่งหมายความว่ากลุ่มนี้มีอิทธพลในวงการศิลปะและวัฒนธรรมนั้นเอง

กลุ่ม Golden Dawn นี้ ได้ปิดฉากลงในปี1914  เพราะสมาชิกร่อยหรอและหมดความ สนใจลง รวมระยะเวลาของลัทธินี้เป็นเวลา 26ปี แต่กระนั้นก็มีการฟื้นฟูลัทธินี้อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นองค์การทาง ศาสนาแล้ว,แม้จะยังมีการสอนเรื่องไพ่อยู่ แต่ก็อิงไปทางศาสนาอยู่มากจนถึงปัจจุบัน
 

อันดับ 5. The Knights Templar

        


อัศวิน เทมพลาร์ หรือชื่อเต็มคือ(full name: The United Religious, Military and Masonic Orders of the Temple and of St John of Jerusalem, Palestine, Rhodes and Malta) เป็นกลุ่มอัศวินศาสนาคริสเตียนที่มีบทบาทในสงครามครูเสด ก่อตั้งเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในปี 1119 Hughes de Payens ชนชั้นสูงจากฝรั่งเศส พร้อมกับอัศวินผู้ติดตามอีก 8 คน จุดมุ่งหมายคือปกป้องผู้แสวงบุญในดินแดนศักดิ์สิทธิ  และ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สร้างระบบธนาคาร  ภายหลังมี ตำนานต่างๆ ที่เกิดจากกลุ่มนี้ รวมไปถึงกลุ่มนี้ค้นพบอะไรของวิเศษบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนโลกได้(ข่าวลือ บอกว่าอาจ เป็น***บแห่งพันธสัญญา ที่โมเสสใช้ติดต่อกับพระเจ้า บางตำนานก็ว่า ชิ้นส่วนของไม้กางเขนที่ใช้ตรึงพระเยซู บางตำนานก็กล่าวว่าในนั้น เก็บเอกสารสำคัญบางอย่างที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเยซู)

                แม้จะสร้างผลงานมากมาย แต่ในระยะแรกกลุ่มอัศวินนี้ใช้ชีวิตอย่างสมถะ ประทังชีวิตด้วยของบริจาค จึงได้รับการขนานนามว่า อัศวินผู้ยากไร้ จนกระทั้ง 9 ปีต่อมา กลุ่มนี้สร้างชื่อเสียงหลายครั้ง จนมีผู้บริจาคเงินทองมากมายอีกทั้งมีกิจการหลายแห่ง มีดินแดนจนแทบจะครองยุโรปได้ คนชนชั้นสูงชาวยุโรปหลายคนยังส่งลูกหลานของตัวเองให้เข้าร่วมกลุ่มด้วย ทำให้กลุ่มนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีอำนาจนอกเหนือกฎหมาย

                แต่แล้วจุดตกต่ำของกลุ่มนี้ก็มาถึง เมื่อกลุ่มอัศวินนี้มีธุรกิจกู้ยืมเงิน มีลูกค้ามากู้ยืมเงินเพื่อไปทำสงครามมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นพระราชา และเมื่อทำสงครามพ่ายแพ้พวกเขาไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ เลยวางแผนใส่ร้ายกลุ่มอัศวินนี้ว่าเป็นพวกนอกรีต บูชาปีศาจบาโฟเมต และสั่งประหาร และยึดทรัพย์สิน ผู้นำอัศวินถูกเผาทั้งเป็น จนกลุ่มอัศวินนี้ล้มสลายในที่สุด

                ถึงแม้อัศวินเท มพลาร์จะล่มสลายลง แต่ยังคงทิ้งปริศนาเอาไว้หลายอย่าง เช่น เกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกที่ยังหลงเหลือในยุโรป ทรัพย์สินของอัศวินเทมพลาร์หายไปใหน   ในปัจจุบันมีตำนาน เล่าลือของพวกอัศวินเทมพลาร์อยู่ทั่วไปว่ากันว่าพวกเขาได้แทรกซึมไปทั่ว ราชสหอาณาจักรอังกฤษ  และมีสาขา องค์กรแตกแขนงซึ่งส่วนใหญ่จุดประสงค์คือช่วยเหลือมนุษย์ หนึ่งในนั้นคือ สมาคม Freemasonry ที่ รับธรรมเนียมปฏิบัติและพิธีกรรมจากกลุ่มฮัศวิน จนกระทั้งกลายเป็น ปริศนายอดฮิตที่มักมีคนนำไปแต่งนิยายหรือภาพยนตร์เสมอ

อันดับ 4 Illuminati

          


สมาคมอิลลูมิ นาติ มาจากภาษาลาติน แปลว่า การรู้แจ้ง เป็นอีกหนึ่งสมาคมที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถูกเชื่อมโยงกับการปฏิวัติโดยเฉพาะอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย และไทย สมาคมนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1776 (ปีเดียวกันกับที่อเมริกาประกาศอิสรภาพ)ในเมืองอินกอลสตาดท์ (บาวาเรียตอนบน) โดยอดัม ไวส์ฮอปต์ (Adam Weishaupt) ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน(เกิดในปี ค.ศ.1748 และ เสียชีวิตในปี) ซึ่งเป็นผู้เลื่อมใสในคณะเยซูอิต และเป็นศาสตราจารย์ด้านประมวลกฎหมายโรมันเกี่ยวกับศาสนาที่เป็นฆราวาสคนแรก ที่มหาวิทยาลัยอินกอลสตาดท์ ต่อมาสมาคมนี้ได้มีอิทธพลต่อปัญญาชนและกฎหมาย มีสมาชิกหลายคนเป็นนักการเมืองที่เจริญหน้าที่การงาน

แนวคิดและจุด ประสงค์นิกายนี้ค่อนข้างน่ากลัวนิดหนึ่ง คือกลุ่มนี้ยึดถือมั่น “การจัดระเบียบโลกใหม่” การกำกับดูแลปกครองประเทศต่างๆทั่วโลก ผ่านรัฐบาลโลกอิสระ โดยยึดถือกฎเดียวกัน ยึดถือ ศาสนายูดาย โดยมีกลุ่มชนชาติยิวเป็นกำลังหลัก มีแนว บางทฤษฎีก็เชื่อว่า มีความต้องการที่จะให้ประเทศอิสราเอลเป็นเมืองหลวง

Illuminati เป็นกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังอำนาจอย่างลับๆ โดยการควบคุมเหตุการณ์ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลายเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็น การแทรกซึมและโค่นล้มรัฐบาลของหลายๆรัฐในยุโรป การปฎิวัติที่ฝรั่งเศส และรัสเซีย จัดฉากและก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย เป็นผู้สนับสนุนเงินทั้งหมดให้ฮิตเลอร์ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวไป 6 ล้านคน, ก่อตั้ง UN หรือสหประชาชาติ IMF และ World Bank หรือธนาคารโลก และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ขึ้นเพื่อเดินหมากตัวต่อไป……ยึดครองโลก

สำหรับ ในปัจจุบัน หลายคนเชื่อว่าสมาคมนี้ยังคงเป็นเงาที่ดำเนินการและจัดการนโยบายรัฐบาลของ โลก  ครอบคลุมถึงการแทรกซึมควบคุมทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การใช้อำนาจอย่างลับๆ โดยการควบคุมเหตุการณ์ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆใน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย และคำว่า อิลลูมินาติ มักจะถูกใช้อ้างถึง New World Order (NWO) นักทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมากเชื่อว่าอิลลูมินาติอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่จะนำ ไปสู่การสถาปนาลัทธิดังกล่าว และข้อเท็จจริงที่สร้างความสับสนมากขึ้นไปอีกก็คือ ปัจจุบันมีกลุ่มภราดรหลายกลุ่มที่มีคำว่า "อิลลูมินาติ" อยู่ในชื่อกลุ่มด้วย
 

อันดับ 3 The Bilderberg Group

 


หาก Illuminati  อยู่เบื้องหลังควบคุมการทหาร และการสงครามทั้งหมด  The Bilderberg Groupd ก็คือสมาคมที่อยู่เบื้องหลังการเงิน เศรษฐกิจ ละที่ปรึกษาและการวางแผนระดับสูง และควบคุมนโยบายหลักๆ ของรัฐบาลของ โลก

บิล เดอร์เบิร์กเป็นอีกสมาคมหนึ่งที่อยู่คู่กับฟรีเมสัน ในยุค 1954 ก่อตั้งโดย Dr. Joseph Retinger ชาวยิวเจ้าเก่า  โดย การประชุมนัดแรกนัดกันที่โรงแรม Hotel de Bilderberg เมืองอูสเตอร์บีก ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม กลุ่มนี้เป็นสมาคมลับของชนชั้นสูง สำหรับเหล่ามหาเศรษฐี ในโลกแห่งการทำธุรกิจและธนาคารข้ามชาติ, วงจรการ เมือง และรวมถึงประชาชนทั่วไปที่เป็นมืออาชีพ  โดย กลุ่ม Bilderberg จะทำการประชุมกันปีละครั้ง.. อย่างเปิดเผย โดยจะมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 100 ที่นั่ง ทุก1ปีที่เจอกัน คนเหล่านี้มาด้วยคำถามซ้ำๆกันทุกปีว่า

“เรา จะเปลี่ยนโลก นี้ ให้เป็นอย่างที่พวกเรา(ชาวยิว)อยากให้เป็นไปได้อย่างไร ? ในฐานะที่เรา(ชาวยิว)เป็นรัฐบาลโลกที่แท้จริง” พอประชุมเสร็จก็มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าประชุมอะไรกันไปบ้าง แต่จะไม่พูดถึงวาระลับซ่อนเร้นที่รู้กันเฉพาะในหมู่สมาชิกเท่านั้น

ว่า กันว่ากลุ่มนี้เกี่ยว ข้องกับ Illuminati และฟรีเมนสัน ในเหตุการณ์ถล่มอัฟกานิสถานและอิรัก ความพยายามในการสกัดกั้นจีนความรุนแรงในบางจังหวัดของบางประเทศ ฯลฯ จุดมุ่งหมายคือเพื่อโลกเสรีไม่เอาคอมมิวนิสต์

ปัจจุบัน The Bilderberg Group  มีสมาชิกมากมาย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอำนาจจากภาคธุรกิจและการเมือง เช่น สมาชิกกลุ่มนี้ทั้งที่ตายไปแล้วและที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น เฮนรี คิสซิงเจอร์, บิลล์ เกตส์, เดน นิส เฮียเลย์ (อดีตผู้นําพรรคแรงงานและ รมว.ความมั่นคงของอังกฤษ), เดวิด ร็อคกีเฟลเลอร์, เจ้าชายเบิร์นฮาร์ด (พระสวามีของราชินีจูเลียนา แห่งเนเธอร์แลนด์), โรนัลด์ รัมส์เฟลด์ ฯลฯ.. นอกจากนี้ยังมี Lord Rothschild และ Laurance Rockefeller 2 ใน 100 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เข้าร่วมวงไพบูลย์ด้วยอีกคน(มีข่าวลือด้วยนะว่าทักษิณก็เป็นสมาชิกกลุ่ม นี้........)
 

อันดับ 2. The Priory of Sion

 


ไพร เออรี ออฟไซออน หรือ สำนักศาสนาแห่งไซออน เป็นองค์กรลับสมาคมชายล้วนที่ก่อตั้งในปี  ค.ศ. 1956 โดยปิแอร์ ปลองตาร์ด (Pierre Plantard) ในเมืองอานเนอมาซ  ทางตะวันออกของฝรั่งเศสโดยเขาได้ได้แต่งประวัติศาสตร์ขององค์กรขึ้นมา โดยอ้างว่ามันเป็นสมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มเมื่อปี ค.ศ. 1099 มีหน้าที่ปกป้องสายเลือดของราชวงศ์เมโรแว็งเชียง เพื่ออ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของฝรั่งเศส จนหลายคนเชื่อและแล้วก็แพร่หลายไปทั่วยุโรป ผู้คนมากมายที่เชื่อว่าไพรออรี ออฟ ไซออนเป็นสมาคมลับในยุคเก่าซึ่งได้ปกปิดความลับที่จะล้มล้างเอาไว้ เช่น ต้นกำเนิดพระเยซู, จอกศักดิ์สิทธิ

ส่วน สมาชิกคนสำคัญของสมคมนี้ถูกกล่าวถึงใน เลส์ โดสซิเยส์เซอเกรส์ (Les Dossiers Secrets) ได้แสดงรายชื่อของเหล่าประมุข ของสมาคมลับ เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน ซึ่งมีทั้ง เลโอนาร์โด ดาวินชี, ซานโดร บอตตีเชลลี, โรเบิร์ต บอยล์, เซอร์ไอแซก นิวตัน, วีกเตอร์ อูโก ฯลฯ(ภายหลังมีคนบอกว่ามันเป็นของปลอม)

เรื่อง ราวของลัทธินี้ถูกนำไปแต่งนิยายมากมาย ในฐานะทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ประวัติศาสตร์เทียม และการสับสนอื่นๆ  กลายมาเป็น กระแสหลักโด่งดังในหนังสือชื่อ The Holy Blood and the Holy Grail  ในปี ค.ศ. 1982 และต่อมาในนวนิยายสืบสวนชื่อรหัสลับดาวินชี
 

อันดับ 1. Opus Dei                

     

 

อันดับ หนึ่งไม่รู้ผมให้ติดเพราะอะไร อาจเป็นนิยายของแดน บราวน์ที่ทำให้องค์กรนี้โด่งดังขึ้น ในขณะที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับองค์กรนี้มาก โดยเชื่อกันว่าองค์กรนี้มีอิทธิพลต่อวาติกัน

โอปุสเดอีเป็นภาษา ละติน แปลว่า งานของพระเจ้า,ผลงานของพระเจ้า หรือ ”คณะสงฆ์แห่ง กางเขนศักดิ์สิทธิ์” เป็นองค์กรคาทอลิก อนุรักษ์นิยม ตั้งขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคม 1928 โดยนักบวชสเปน โฆเซ่ มาเรียเอสคิวบา(Josemaría Escrivá de Balaguer) ที่ถูกประกาศความศักดิ์สิทธิ์เป็นนักบุญโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่2 ผู้ล่วงลับ

จุด ประสงค์ขององค์กรนี้คือช่วยเหลือ อุดหนุน สนับสนุน ส่งเสริม คณะผู้เผยแผ่คำสอนของพระเยซูเจ้าของคริสตจักรและโบสถ์ โดยส่วนหนึ่งขยายความถึงการร่วมงานกับกลุ่มพระนิกายเยซูอิ

เรื่องราว ขององค์กรนี้โด่งดังจาก หนังสือ Da vinci code ของแดน บราวน์ ที่กล่าวถึงนักบวชบำเพ็ญทุกกริยา ซึ่งความจริงแล้วองค์กรนี้ไม่มีการประกอบพิธีกรรมหรือคลั่งศาสนาแต่อย่างใด เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ขององค์กร เป็นสามัญชนที่ชื่อในพระคริสต์และพร้อมที่จะเผยแผ่ความรักของพระองค์ออกไปใน วงกว้างเท่านั้น

นอกจากนั้นหนังสือ ของบราวน์ยังผูกเรื่องให้บิช็อปโอปุส เดอีผู้หนึ่ง สั่งการให้นักบวช (monk) โอปุ ส เดลี ไปกระทำฆาตกรรม ผูกเรื่องให้บิช็อปโอปุส เดอีผู้หนึ่ง สั่งการให้นักบวช (monk) โอปุส เดลี ไปกระทำฆาตกรรม ทั้งนี้ในหนังสือเล่มนี้ได้ แม้ความจริงแล้วองค์การนี้มิได้มีนักบวชประเภทนี้แต่อย่างใด

หนังสือ แดน บราวน์ยังกล่าวไปอีกว่า องค์กรนี้อยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อการประชุมลับของบรรดาพระคาร์ดินัล เพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ซึ่งความจริงแล้วในจำนวนพระคาร์ดินัล 115 คน ที่จะใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งโป๊ป มีเพียง 2 คน เท่านั้นซึ่งนับเป็นสมาชิกของโอปุส เดอี

แต่ ที่แน่ๆ ปัจจุบันโอปุสเดอีมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 85000 คนใน60ประเทศ จนได้รับสมญานามว่า "ออคโตปุส (ปลาหมึก) ของพระเจ้า"  มีศูนย์กลางการทำงานที่โรม ในปี1982 เป็นนิกายที่ขึ้นตรงกับพระราชาคณะชั้นสูง ภายใต้พระลัญจกรพระสันตะปาปา สามารถเข้าถึงพระสันตปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ อีกทั้งได้รับความสนับสนุนและการส่งเสริมจากพระคาร์ดินัลทรงอิทธิพลจำนวน มาก  พระและฆราวาสที่เป็นสมาชิกวงในของโอปุส เดอีจำนวนมาก สมาชิกในองค์กรได้ครองตำแหน่งสูงๆ ในระบบราชการของสำนักวาติกัน ทั้งนี้รวมถึง โจอาควิน นาวาร์โร-วัลส์ หัวหน้าโฆษกสำนักวาติกัน จึงไม่น่าแปลกอะไรที่หลายฝ่ายเชื่อว่าโอปุส เดอี เป็นองค์การนี้เป็นคริสตจักรอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว มีอำนาจบารมี ซึ่งซ้อนซ่อนอยู่ภายใน โดยทำตัวลึกลับและคอยบงการชักใย คริสตจักรคาทอลิกอีกชั้นหนึ่ง

 

เนื้อหาจาก Wikipedia(ไทยและอังกฤษ)

http://www.oknation.net/blog/TalkingBook/2009/03/17/entry-3

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=29-09-2009&group=1&gblog=1

 http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=585&sid=b7f9822caf1c36e55efc2e49222ac873
 

 

 

Credit: http://atcloud.com/stories/84735
20 มิ.ย. 53 เวลา 23:12 7,160 23 238
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...