http://www.meekhao.com/news/inside-isis-capital
หญิงชาวซีเรียยอมเสี่ยงตาย ซ่อนกล้องเพื่อแอบถ่ายเบื้องหลังแท้จริงในเมืองหลวง ISIS
หญิงใจกล้าชาวซีเรียสองคนลักลอบนำกล้องเข้าไปในอัรร็อกเกาะฮ์ เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย เพื่อบันทึกสภาพความเป็นไปในเมืองหลวงของกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือ ISIS
การกระทำของหญิงสาวทั้งสองคนผู้ใช้นามแฝงว่า Om Omran และ Om Mohammad ถือได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างแท้จริง เพราะถ้าถูกจับได้พวกเธอจะต้องถูกลงโทษด้วยการโบยในที่สาธารณะหรืออาจถึงขั้นประหารชีวิต
โดยวิดีโอพิเศษนี้จัดทำขึ้นโดยสำนักข่าวสวีเดน Expressen เริ่มจากการถ่ายทำในสำนักข่าวจากนั้นพวกเธอก็เริ่มออกเดินทางไปในอัรร็อกเกาะฮ์โดยซ่อนกล้องไว้ในผ้าคลุม
กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเข้ายึดครองเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ตั้งแต่ปี 2013 และขยายอำนาจอย่างเต็มที่ในปี 2014 ชาวเมืองต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การครอบงำของไอซิส จากวิดีโอจะเห็นว่าหญิงสาวนั่งรถแท็กซี่โดยมีเพลงสรรเสริญ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำอาวุโสของกลุ่มไอซิสบรรเลงอยู่ตลอด
โดยเนื้อหาบางส่วนร้องว่า “โอ้ อะบู บักร์ อัลบัฆดาดี ท่านค่อยๆ สอนสั่งความเกรงกลัวให้กับศัตรู”
ตามกฎ “ชะรีอะฮ์” หรือกฎหมายรัฐอิสลาม ผู้หญิงไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้เพียงลำพังต้องมีผู้หญิงคนอื่นหรือผู้คุ้มครองเพศชาย พวกเธอไม่สามารถออกไปทำงานและเรียนหนังสือได้
ตำรวจจะคอยเข้มงวดตรวจตราความเรียบร้อยด้านการแต่งกายของสตรี ทุกคนต้องสวมเครื่องแต่งกายที่มิดชิด มีผ้าคลุมหน้าสีดำ สวมถุงมือ หรือเรียกว่าชุด “อาบายา” ที่แปลว่าการปกปิด
ในเดือนมกราคม หญิงวัย 21 ปีถูกประหารชีวิตเนื่องจากไม่ทำตามกฎของรัฐอิสลาม
เมื่อทั้งสองเข้าไปถ่ายวิดีโอในร้านสะดวกซื้อ ก็พบว่าแม้กระทั่งใบหน้าของผู้หญิงบนกล่องน้ำยาย้อมสีผมก็ถูกระบายด้วยหมึกสีดำ เจ้าของร้านอธิบายว่าเธอกำลังสวมนิกอบ (ผ้าคลุมหน้า)
สภาพภายในเมืองเต็มไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อและกฎที่เข้มงวดของไอซิส ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์หรือศาสนาอื่นถูกทำลายจนหมดสิ้น โบสถ์ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองกลายเป็นกองบัญชาการรัฐอิสลาม
ผู้หญิงทุกคนใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดระแวง พวกเธอไม่รู้เลยว่าวันไหนจะถูกลงโทษด้วยการปาหินจนสิ้นใจ
หญิงคนหนึ่งเผยว่า “พวกเขาไม่เคยประกาศว่าความผิดของผู้หญิงเหล่านั้นคืออะไร ถ้าพวกเธอถูกตัดสินโทษประหาร พวกเขาก็จะบอกให้ผู้คนเดินมาล้อมเป็นวงพร้อมก้อนหินในมือ”
หลังจากปาหินเสร็จ ร่างของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็จะถูกนำมาทิ้งไว้บนถนนให้รถเหยียบย่ำจนแหลกสลายเหลือทิ้งไว้เพียงเสื้อผ้าที่เคยสวมใส่
นอกจากสตรีแล้ว ชายรักร่วมเพศก็ถูกประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยมไม่แพ้กัน ร่างของพวกเขาจะถูกโยนทิ้งลงมาจากหลังคาต่อหน้าผู้ชมนับร้อยซึ่งมีทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็ก
พวกเธอเคยวางแผนที่จะหนีออกไปจากเมืองที่ถูกไอซิสปกครอง แต่ก็ต้องยกเลิกไปเพราะมีเพื่อนอีกคนหนึ่งตั้งครรภ์กับชายที่ไม่ใช่สามี ถ้ากลุ่มไอซิสรู้เข้าเธอจะต้องถูกสั่งประหาร นอกจากนี้การทำแท้งก็ผิดกฎของรัฐอิสลามเช่นกัน Om Omran และ Om Mohammad จึงต้องลักลอบทำแท้งให้กับเพื่อนด้วยตัวเอง
Om Mohammad กล่าวว่า “ฉันอยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ตามต้องการอย่างที่เคยทำ ฉันอยากเดินไปบนถนนโดยไม่ต้องหวาดระแวงหรือพบเจอกับอาวุธและคนต่างชาติที่ดูน่ากลัว”
“ฉันอยากใช้ชีวิตตามใจตัวเอง อยากซื้ออะไรก็ได้ที่ต้องการ ฉันอยากออกไปเดินข้างนอกคนเดียวอย่างอิสระโดยไม่ต้องมีผู้คุ้มกัน”
ที่มา http://www.businessinsider.com/new-footage-released-of-life-inside-isis-2016-3?utm_content=bufferf2999&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer