สมัยก่อนผู้คนยังไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง ก็มักจะถูกหลอกให้หลงเชื่อในสิ่งที่มาย้อนคิดในสมัยนี้แล้วต้องขำกันแทบตกเก้าอี้ ว่าไปเชื่อคำเหล่านั้นกันได้อย่างไร โดยมีเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ถูกหลอกให้เชื่อเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น
1. คำเตือนเกี่ยวกับ “ใบหน้า” และการ “ปั่นจักรยาน”
แพทย์ในยุคนั้นได้ออกมาเตือนว่าถ้าหากปั่นจักรยานมากเกินไป จะทำให้ผู้หญิงดูอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงและอิดโรยราวกับคนป่วย ส่วนจุดประสงค์ในการเตือนก็เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงมีโอกาสได้สนุกสนานกับนวัตกรรมใหม่และมีอิสรภาพมากจนเกินไปนัก
2. ถ้าผู้หญิงกระสับกระส่าย วิตกกังวล หรือมีอารมณ์ทางเพศ แพทย์จะวินิจฉัยว่าพวกเธอป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับมดลูกและฮิสทีเรีย แต่ต่อมาแพทย์ยุคใหม่ได้ยืนยันว่านี่เป็นเพียงการถึงจุดสุดยอดของความรู้สึกทางเพศ
3. ผู้ชายทุกคนสงสัยและหวาดระแวงเกี่ยวกับกิจกรรมการพบปะสังสรรค์และปาร์ตี้น้ำชาของผู้หญิง เนื่องจากพวกเขากลัวว่าผู้หญิงเหล่านี้กำลังวางแผนเคลื่อนไหวในขบวนการสตรีนิยมหรือ “เฟมินิสต์”
4. ในปี 1870 ดอกเตอร์จอห์น โคแวน ได้เขียนรายงานเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง โดยเขายืนยันว่าถ้าหากผู้หญิงทำการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองจะส่งผลให้การทำงานของต่อมที่ทำหน้าที่พัฒนาฮอร์โมนเพศเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้ผู้หญิงเหล่านั้นมีหน้าอกที่แบนราบ
5. ในปี 1873 เอ็ดเวิร์ด เอช. คลาร์ก ได้เผยแพร่บทความโต้แย้งการเปิดสอนแบบสหศึกษาและการอนุญาตให้สตรีสามารถศึกษาเล่าเรียนในระดับสูง เขากล่าวว่าผู้หญิงที่ได้รับการศึกษามากเกินไปจะเกิดความผิดปกติในรังไข่และทำให้พวกเธอไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้
6. นอกจากนี้ครั้งหนึ่งนักปรัชญาชาวออสเตรียเคยตีพิมพ์บทความที่โน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่า “เลสเบี้ยน” หรือผู้หญิงที่ชื่นชอบเพศเดียวกันนั้นแท้จริงแล้วเป็น “ครึ่งหญิงครึ่งชาย”
">
ขอบคุณที่มา: http://www.meekhao.com/history/1800s-women-crazy-belief