9 การทดลองลับสุดยอดที่อันตรายจนไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นจริง

มนุษย์นี่แหละคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในจักรวาล ถ้าคุรได้อ่านการทดลองเหล่านี้แล้วคุณจะอดิดแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน นี่คือ 9 การทดลองแปลกประหลาดที่ใช้มนุษย์ในการทดลอง ซึ่งแต่ละการทดลองนั้นเป็นการทดลองลับสุดยอดในประวัติศาสตร์แต่สุดท้ายก็ถูกเปิดเผยให้โลกรู้ และมันเป็นการทดลองที่โหดร้ายและอันตรายอย่างมากจนไม่น่าเชื่อเลยว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นจริง

 

1. Project 4.1

รัฐบาลสหรัฐได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์บริเวณแนวเกาะปะการัง Bikini Atoll ผลที่ตามมาคือบริเวณเกาะมีรังสีจากการระเบิดนิวเคลียร์ในปริมาณสูงมากส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่อาศัยบนเกาะเต็มๆ และที่แย่ไปกว่านั้นคือรัฐบาลสหรัฐไม่เคยบอกถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นเลย แต่กลับทำการศึกษาผลกระทบที่ประชาชนบนเกาะได้รับ มีรายงานว่าช่วงแรกยังไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่ต่อมากลับพบว่ารังสีส่งผลให้เด็กทารกคลอดออกมาพิการและมีการเจริญตเิบโตบกพร่อง

 

 

2. การทดลองเปลี่ยนเพศด้วยขั้นตอนที่ผิดจรรยาบรรณแพทย์

เป็นโครงการทดลองลับสุดยอดของหน่วยงานตามนโยบายแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ โดยการบังคับนำทหารรักร่วมเพศผิวขาวเข้าร่วมการทดลองกว่า 900 คน พวกเขาถูกจับมา "เปลี่ยนเพศ" ด้วยวิธีที่โหดร้ายสุดๆ มีทั้งการใช้สารเคมี การใช้กระแสไฟฟ้าช็อต การฉีดฮอร์โมน และหลากหลายวิธีที่ผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ และผลลัพธ์ที่ได้คือผู้เข้าทดลองมีอาการทางจิตจนไม่สามารถรักษาให้หายได้

 

 

3. Enrico Fermi สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใต้สนามฟุตบอล

Enrico Fermi เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการแมนฮัตตัน ทั้งยังเป็นผู้รับผิดชอบการสร้าง Chicago Pile 1 หรือเครื่องปฏิกรณืนิวเคลียร์เพื่อศึกษาการทำงานอย่างที่ของมัน และปรากฎว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในการทดลองครั้งนี้ถูกสร้างอยู่ใต้สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยชิคาโก และไม่มีทางที่จะทำให้มันเย็นลงได้เพราะมันไม่มีที่ระบายความร้อนเลย

 

 

4. Project MKUltra ของ CIA การทดลองพยายามควบคุมจิตใจมนุษย์

โดยการทดลองครั้งนี้เป็นโครงการทดลองลับของ CIA ใช้นักโทษมาเป็นผู้ทดลอง ซึ่งนักโทษที่เลือกมาทดลองนั้นมีทั้งโสเภณี บุคลากรทางทหาร และประชาชนคนปกติ ผู้ที่ถูกทดลองจะได้รับสาร LSD ในปริมาณสูงโดยที่ไม่ได้เต็มใจ ทั้งพวกเขายังถูกสะกดจิตจนมีอาการหวาดวิตกอีกด้วย

 

 

5. รัฐบาลอเมริกาฆ่าคนตายกว่า 10,000 คน ด้วยการใส่ย่พิษลงในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ประธานาธิบดี Coolidge มีความต้องการให้ประชาชนหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นเขาจึงคิดค้นวิธีที่ทำให้แอลกอฮอล์กลายเป็นเครื่องดื่มที่น่ากลัวด้วยการเพิ่มสารเคมีที่ทำให้กลิ่นและรสชาติแย่มาก ทั้งยังเพิ่มเมทิลแอลกอฮอล์เข้าไปอีกด้วย แต่ว่ารัฐบาลใส่สารเคมีมากเกินไปทำให้เครื่องดื่มกลายเป็นยาพิษและฆ่าคนตายไปกว่า 10,000 คน

 

 

6. ชายที่เล่นกับพลูโตเนียม การทดลองที่เป็นศูนย์กลางของความเลวร้าย

Louis Slotin เป็นนักวิจัยที่ Los Alamos โดยเขาศึกษาเกี่ยวกับวิกฤตของเชื้อเพลิงกัมมันตรังสี - พลูโตเนียม การศึกษานั้นเขาต้องใช้พลูโตเนียมซึ่งเป็นสารที่ตั้งต้นของนิวเคลียร์ที่อันตรายเป็นอย่างมาก การวิจัยของเขาเข้าสู่ขั้นที่อันตรายมากจนเกือบเป็นการสร้างนิวเคลียร์ขึ้นมา แต่สุดท้ายการวิจัยยังไม่ทันสำเร็จเขาก็เสียชีวิตจากพิษของรังสีทำให้เขาตายภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา

 

 

7. การทดลองให้คน 5 คนยืนอยู่ขณะที่มีการระเบิดปรมาณู

โดยการทดลองนี้ใช้บุคลากรของกองทัพอากาศสหรัฐ 5 คนกับช่างถ่ายภาพอาสาโดยให้พวกเขายืนอยู่บนพื้นดินขณะเหนือหัวของพวกเขาสูงขึ้นไประมาณ 3 ไมล์บนท้องฟ้ามีการระเบิดของระเบิดปรมาณูหนักกว่าสองพันตันเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 1957 ซึ่งการทดลองนี้เพื่อเป็นการโน้มน้าวประชาชนว่าอาวุธนิวเคลียร์มันโอเคถ้าจะใช้ในการตอบโต้รัสเซีย

 

 

8. การทดลองทำให้เด็กที่ไร้เดียงสารู้สึกหวาดกลัวไปตลอดชีวิต

Dr. Johnson ของมหาวิทยาลัย University of Iowa ทดลองนำเด็กกำพร้า 22 คนมาศึกษาเกี่ยวกับการพูดติดอ่างเพื่อหาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กที่พูดติดอ่าง โดยการทดลองแบ่งเด็กเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะให้รับฟังแต่คำพูดในเชิงบวก ส่วนเด็กอีกกลุ่มหนึ่งจะได้รับฟังแต่คำพูดเชิงลบ ทั้งการตำหนิและดูหมิ่นต่างๆ นานาผลคือมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็กเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเด็กที่ต้องฟังคำพูดเชิงลบ

 

 

9. การทดลองของนาซีและญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

แพทย์นาซีได้ทำการทดลองที่น่ากลัวมากมายหลายการทดลองและการฉีดเชื้อมาลาเรียให้กับผู้ป่วยก็เป็นหนึ่งในการทดลองที่โหดร้าย นอกจากนี้ของญี่ปุ่นก็มีการทดลองที่เรียกว่า Unit 731 เป็นการทดลองเกี่ยวกับผู้ที่ติดเชื้อหนองในซิฟิลิสเพื่อพัฒนาอาวุธเชื้อโรค

Credit: https://www.wittyfeed.com/story/21183/8-apocalypses-we-survived-in-history?abT=16&abS=2
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...