เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผิวโดยนาซีเยอรมันในประวัติศาสตร์เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญและน่าสะเทือนใจเป็นอย่างมาก มีชาวยิวมากมายถูกฆ่าตายอย่างทรมาน แต่ก็มีชาวยิวบางส่วนสามารถรอดจากเหุตุการณ์นั้นมาได้อย่างเฉียดฉิว
โดย Klara Markus หญิงชราชาวยิววัย 100 ปี ที่กำลังจะฉลองครบรอบวันเกิดอายุ 101 ปีในอีกไม่นาน ได้เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตเธอที่สามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาได้อย่างเฉียดฉิว
ในปี 1944 ตอนที่เธอยังสาวเธอทำงานในโรงงานผลิตร่มที่ประเทศฮังการี แต่พอนาซีเยอรมันประกาศฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แม่และพี่สาวของเธอก็ถูกจับตัวไปก่อนและถูกนำตัวไปที่ค่าย Auschwitz นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้พบแม่กับพี่สาว
จากนั้นไม่นานเธอก็ถูกจับตัวและนำไปขังยังค่าย Dachau และ Ravensbruck ก่อนจะถูกพาตัวมายังค่าย Auschwitz หลังจากนั้นเธอก็พยายามตามหาแม่และพี่สาวของเธอ แต่พอเธอถามทหารชาวยิวเขากลับบอกให้เธอไปคุ้ยขี้เถ้าหาดู เนื่องจากนักโทษที่ถูกจับตัวไปจะถูกนำไปรมแก๊สแล้วนำไปเผานั่นเอง
เธอเล่าว่า ตอนที่เธออยู่ในค่ายกักกันนั้นเธอซูบผอมมากจนมีน้ำหนักเพียง 32 กิโลกรัมเท่านั้น และสุดท้ายเธอก็มีชะตากรรมเหมือนกับชาวยิวคนอื่นๆ โดยเธอถูกส่งตัวเข้าไปในห้องรมแก๊ส ตอนที่อยู่ในห้องนั้นหญิงชาวยิวจำนวนมากพากันนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสาร แล้วทหารก็เปิดแก็สพิษ แต่นับว่าโชคดีที่แก๊สหมดทำให้เธอสามารถรอดพ้นชะตากรรมอันเลวร้ายมาได้
จากนั้นเธอจึงนัดแนะกับเพื่อนบางส่วนเพื่อหนีออกมาจากค่ายกักกัน ไม่เช่นนั้นถ้าถูกนำตัวเข้าห้องรมแก๊สครั้งต่อไปเธออาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็เป็นได้ และการหลบหนีของเธอก็สำเร็จ เธอจึงหนีไปยังประเทศโรมาเนีย
เมื่อมาถึงโรมาเนียเธอก็ทำการตามหาครอบครัวของเธอ แต่พบว่าพวกเขาเสียชีวิตในสงครามกันหมดแล้ว เวลาต่อมาเธอจึงเริ่มใช้ชีวิตคู่กับ Andrei Markus สามีของเธอจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้เธอยังกล่าวอีกด้วยว่า เธอเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่ตอนนี้เธอมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต ถือว่าเธอโชคดีเป็นอย่างมากที่สามารถหลบหนีออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเธอมาเล่าประสบการณ์ให้เราฟังในวันนี้อย่างแน่นอน