ที่สุดของคดีในปี 2009

1. เจย์ซี ดูการ์ด สาวน้อยผู้หายไป 18 ปี

  เรื่องราวของเด็กสาว เจย์ซี ดูการ์ด ที่เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย อาจจะสร้างความหวังให้กับบรรดาพ่อแม่ในสหรัฐอเมริกาที่ลูกถูกลักพาตัวไป เมื่อ ดูการ์ด วัย 11 ขวบถูกลักพาตัวไประหว่างเดินไปขึ้นรถโรงเรียนที่ เซาท์ เลกทาโฮ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกพบหลังจากเวลาผ่านไปถึง 18 ปี ในเมืองแอนติออช รัฐแคลิฟอร์เนีย

  โดย ดูการ์ด ซึ่งในขณะที่พบมีอายุ 29 ปี และมีลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 11 ปี ตามลำดับ กับนายฟิลิปป์ การ์ริโด ชายผู้ลักพาตัวเธอไป โดยนายฟิลิปป์พร้อมด้วยภรรยา นางแนนซี การ์ริโด ขัง ดูการ์ด ไว้ในกระท่อมหลังบ้านของเจ้าตัวเป็นเวลานานถึง 18 ปี ตำรวจได้ตั้งข้อหานาย ฟิลิปป์ ทั้งลักพาตัว, กักขังหน่วงเหนี่ยว และข่มขืนโดยใช้กำลังบังคับ โดยทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่มีความผิด ขณะที่ ดูการ์ด ซึ่งไม่ยอมปริปากพูดอะไรมาก ได้กลับสู่อ้อมอกแม่และมีรายงานว่าลูก ๆ ทั้งสองของเธอ ซึ่งเพิ่งได้เข้าโรงเรียน สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ



โฉม หน้าชั่ว

เจ ย์ซี ลี ดูการ์ด ตอนเด็ก


ที่เจย์ซี ลี ดูการ์ด อยู่มา18ปี

2. แอนโธนี เซาเวลล์ ฆาตกรฆ่าข่มขืนจากคลีฟแลนด์

       

  หนึ่งในฆาตกรฆ่าข่มขืนที่ก่อคดีสะเทือนขวัญมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ที่ผ่านมา เซาเวลล์ ถูกจับกุมตัวในข้อหาก่อคดีฆ่าข่มขืนหญิงสาว หลังจากที่ตำรวจเดินทางมาตรวจบ้านของเขาตามเบาะแสจากเพื่อนบ้านในละแวกใกล้ เคียง โดยเมื่อตำรวจเดินทางมาถึงอพาร์ตเมนต์ ของ เซาเวลล์ ในคลีฟแลนด์ ก็ถึงกับผงะ เนื่องจากพบศพหญิงสาว 2 คนเน่าเปื่อยอยู่ในห้องนั่งเล่น รวมถึงอีก 4 ศพ ที่ถูกฝังไว้ตื้น ๆ ในห้องใต้ดินและใต้ถุนบ้าน นอกจากนั้นตำรวจยังได้ขุดสนามหลังบ้านของ เซาเวลล์ พบศพอีก 4 ศพ และเมื่อรวมกับหัวกะโหลกคนที่พบในถังน้ำทำให้จำนวนศพทั้งหมดมากถึง 11 ศพ ซึ่งทั้งหมดเป็นหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน

  อย่างไรก็ตาม นายแอนโธนี เซาเวลล์ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ให้การในชั้นศาลว่าตนเองบริสุทธิ์ เนื่องจากมีสติไม่ปกติ ทำให้คดีนี้ยังต้องเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป

 

3. ฟิลิปป์ มาร์คอฟฟ์ นักล่า "เคร็กส์ลิสต์"




คดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก จูลิสซา บริสแมน หมอนวดซึ่งประกาศขายบริการของเธอทางเว็บไซต์ "เคร็กส์ลิสต์" ผู้ให้บริการโฆษณาสินค้ารวมถึงบริการต่าง ๆ แบบแบ่งออกเป็นประเภทถูกตีที่ ศีรษะ และโดนยิงอีก 3 นัด จนถึงแก่ความตายที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในบอสตัน ตำรวจรวบตัวผู้ต้องสงสัย นายฟิลิปป์ มาร์คอฟฟ์ นักศึกษาแพทย์รูปร่างกำยำจากมหาวิทยาลัยบอสตัน โดยหลังจากเกิดเหตุขึ้นบรรดาเพื่อนและคู่หมั้นของ ฟิลิปป์ ต่างพากันปฏิเสธโดยยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นคนจิตใจดีซึ่งไม่น่าจะ ก่อเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้ได้

  นอกจากนี้ ฟิลิปป์ ยังโดนตั้งข้อหาลักขโมยเงินของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งประกาศขายบริการของเธอทาง "เคร็กส์ลิสต์" อีกเช่นกัน เป็นจำนวน 600 ปอนด์ แม้ว่าตำรวจจะค้นหลักฐานคืออาวุธปืนในบ้านของฟิลิปป์ที่บ้านในแมสซาชูเซตส์ แต่ทนายของเจ้าตัวกลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

4. อเล็กซ์ เวียน ผู้ทำเลือดเปื้อนศาล




นี่อาจจะเป็นคดีแห่งศตวรรษสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลกเลยก็ได้ หลังจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม มาร์วา เอล-เชอร์บินี เภสัชกรหญิงวัย 31 ปี ซึ่งเกิดในอียิปต์ และเป็นคนศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า เดินทางไปยืนยันในศาลว่า นาย อเล็กซ์ เวียน ผู้อพยพชาวรัสเซียซึ่งตกงานอยู่ ดูถูกเธอด้วยการเรียกเธอว่า "มุสลิม" และ "ผู้ก่อการร้าย" ที่สนามเด็กเล่น

  เรื่องสะเทือนใจ เกิดขึ้นหลังจากนั้น เมื่ออัยการเล่าว่า หลังจาก เอล-เชอร์บินี ให้การเสร็จแล้ว นายอเล็กซ์ ได้นำมีดยาว 7 นิ้ว ที่แอบนำเข้ามาในศาล แทงนางเอล-เชอร์บินี ซึ่งขณะนั้นกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน ถึง 16 ครั้ง จนเธอถึงแก่ความตายต่อหน้าลูกชายวัย 3 ขวนของเธอทั้ง 2 คน

  ขณะที่ นายเอลวี โอคาซ สามีของ เอล-เชอร์บินี ก็ถูกแทงด้วยเช่นกัน แถมยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าใจผิดคิดว่า โอคาซ เป็นคนแทง เอล-เชอร์บินี ยิงอีกต่างหาก โชคดีที่รอดมาได้ ส่วน นาย อเล็กซ์ เวียนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตหลังจากเหตุการณ์น

5. วิลเลียม สปาร์กแมน ประชาทัณฑ์หรือฆ่าตัวตาย




ศพของ นายวิลเลียม สปาร์กแมน ถูกพบเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่สุสาน บริเวณชานป่าสงวนแห่งชาติ ดาเนียล บูน ในเขตเคลย์มลรัฐเคนทักกี โดยศพของเจ้าหน้าที่ทำสำมะโนประชากร ถูกพบแขวนอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมตัวอักษรคำว่า "Fed" ถูกกรีดไว้ที่หน้าอก

  ข่าวการตายของ นายวิลเลียม แพร่สะพัดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ยิงกว่าข่าวฆาตกรรมอื่น ๆ ตามชนบท เนื่องจากเป็นคดีที่มีกลิ่นอายของการต่อต้านรัฐบาล แม้หลังจากนั้นจะไม่มีผู้ต้องสงสัยคนใดถูกจับเลยก็ตาม ส่วนตัวอักษรปริศนานั้นก็ยังไม่มีผู้ใดตีความได้ว่าหมายถึงสิ่งใด ขณะที่หลาย ๆ คนเชื่อว่านี่เป็นการฆ่าแขวนคอด้วยอำนาจศาลเตี้ยในโลกยุคสมัยใหม่ แต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจท้องถิ่นเปิดเผยว่าเป็นการฆ่าตัวตายที่ทำให้ดูเหมือน ถูกประชาทัณฑ์


7. สังหารหมู่ที่ทาโคมา



มัว ริซ เคลมมอนน์ ผู้ก่อคดีสังหารโหดที่ทาโคมา เริ่มฉายแววตั้งแต่เขามีอายุได้ 16 ปี ซึ่งเขาถูกสั่งจำคุก 30 ปี จากคดีลักทรัพย์ และก่อความรุนแรง ในเมืองลิตเติล ร็อค มลรัฐอาคันซอร์ แต่ในเดือนพฤษภาคมปี 2000 หลังจากใช้ชีวิตในคุกมา 11 ปี มัวซิซ เขียนจดหมายถึงผู้ว่าการรัฐอาคันซอร์ ไมค์ ฮัคคาบี โดยอ้างว่าในชีวิตนี้เจ้าตัวยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อพระเจ้าเลย จึงขอความเมตตาเพื่อให้ได้กลับตัวกลับไปใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งไมค์ก็ลดโทษให้ทำให้ มัวริซ ได้ออกมาจากคุก

  อย่างไรก็ตาม มัวริซ ไม่เคยปรับปรุงตัว เข้ายังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และเข้า-ออกเรือนจำอยู่เป็นประจำ ทั้งยังหลอกคนอื่นว่าเขาเป็นผู้มาโปรดโลกที่จะเป็นที่ยอมรับแม้กระทั่ง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จนกระทั่งวันที่ 29 พฤศจิกายน มัวริซ เดินเข้าไปในร้านกาแฟและยิงตำรวจ 4 นายเสียชีวิต ตำรวจออกไล่ล่าเขา และเพียง 2 วัน ชีวิตของ มัวริซ จบลงเนื่องจากโดนตำรวจยิงตาย


8. แอนนี เล เจ้าสาวผู้สาบสูญ




ในตอนแรกที่มีข่าวว่า แอนนี เล ผู้สำเร็จการศึกษาจากขณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล หายตัวไป เป็นแค่เรื่องเล่นตลกของคนที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์เท่านั้นแต่หลังจากที่ เล หายตัวไป 1 วัน ศพของสาววัย 24 ปี ผู้นี้ถูกพบในห้องทดลองของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแต่งงานของเธอพอดี

  ผู้ต้องสงสัย เรย์มอน คลาร์ก ช่างวัย 24 ปี ถูกพบว่าเข้า-ออก ตึกที่ เล เสียชีวิตเป็น 10 ครั้งในวันที่ เล หายไป แถมยังมีรอยแผลน่าสงสัยตามหน้าอก, แขนและหลังอีกด้วย โดย คลาร์ก ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 กันยายน ในข้อหาฆ่าคนตาย แต่ยังไม่ได้ให้การในชั้นศาล

9. เบิร์ด และเมนาลี บิลลิงส 2 นักบุญผู้จากไป




เศรษฐีสองสามี-ภรรยาจาก เพนซาโคลา มลรัฐฟลอริดา เบิร์ด และเมนาลี บิลลิงส ผู้ซึ่งรับเลี้ยงดูเด็กพิการหลายสิบคน ถูกสังหารอย่างโหดเ***้ยมโดยกลุ่มคนซึ่งแต่งชุดดำเหมือนนินจา ที่บ้านของตนเอง โดย เบิร์ด วัย 66 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ 3 นัด และที่ขาอีก 1 นัด ส่วนเมลานีภรรยาของเขา ถูกยิงที่ศีรษะ 2 นัด และที่หน้าอก 2 นัด ต่อหน้าต่อตาบุตรบุญธรรมทั้ง 9 คน (ครอบครัวบิลลิงสมีบุตรทั้งหมด 17 คน โดย 13 คนเป็นเด็กพิการเช่น ดาวน์ซินโดรม)

  ลีโอนาร์ด ปาทริค กอนซาเลซ จูเนียร์ อดีตครูฝึกสอนคาราเต้ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยนายอำเภอท้องถิ่นเชื่อว่า เป็นการสมรู้ร่วมคิดเพื่อกำจัด เบิร์ด บิลลิงส เนื่องจาก เบิร์ด เปิดบริษัทให้กู้ยืมเงิน ขณะที่ชายอีก 6 คน ถูกจับในข้อหาร่วมมือฆ่าคนตายเช่นกัน แต่ทั้งหมดปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยบอกว่า กอนซาเลซ เป็นคนลงมือเพียงคนเดียว


10. การกลับมาของ "พิซทากอส"




"พิซทากอส" เป็นเรื่องเล่าในตำนานแถบเทือกเขาแอนดีส เกี่ยวกับปีศาจซึ่งมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับผีดูดเลือด ที่ฆ่านักเดินทางเพื่อขโมยไขมันในร่างกาย แต่ใครจะเชื่อว่าในยุคนี้จะยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง

  อย่างไรก็ตาม ข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่วโลกนี้ทำให้ผู้คนต้องนึกถึง "พิซทากอส" อีกครั้ง หลังจากตำรวจเปรูจับกุมแก๊งที่ฆ่าคนเพื่อขโมยไขมันในร่างกาย โดยเชื่อว่าไขมันถูกนำไปขายให้กับบริษัทเครื่องสำอางในยุโรป แต่หลายบริษัทเครื่องสำอางยังกังขากับสมมติฐานนี้ เนื่องจากตลาดวัตถุดิบเครื่องสำอางนี้เป็นตลาดขนาดเล็ก

  แต่เมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน บรรดานักข่าวท้องถิ่นได้ตั้งคำถามถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า คดีนี้เป็นการบิดเบือนความสนใจของประชาชนจากเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ หรือไม่ เช่น ข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต

Credit: http://atcloud.com/stories/75129
17 มิ.ย. 53 เวลา 21:25 3,337 9 190
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...