จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ เขย่าเฮติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม
สังหารชีวิตพลเรือนไปราว 100,000 ถึง 200,000 คน
และในขณะที่เฮติกำลังมองหาความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานจากทั่ว โลก
ทางการได้ยอมรับว่าภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้รอดชีวิต
คือ อาการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษาและโรคติดต่อที่เริ่มระบาดไปทั่ว
ตามหลังเหตุแผ่นดินไหว ความช่วยเหลือด้านมนุษยชนถูกส่งมาจากทั่วทุกมุมโลก
อย่างไรก็ตามเฮ ติกลับต้องประสบความปัญหาด้านความรุนแรงและปล้นชิงสิ่งของ
เหตุเพราะ ความช่วยเหลือไม่เพียงพอต่อประชาชนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสนคน
(ที่โคเปนเฮเกนเมื่อ ธันวาคม 2552 - ฮูโก ซาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลา
กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม โลกร้อน
โทษลัทธิทุนนิยมเป็นสาเหตุสำคัญที่นำมาซึ่งปัญหานี้)
มีข่าวออกมาว่า ฮูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งกระหายเลือดนี้
เกิดขึ้นตาม หลังการทดสอบ "อาวุธแห่งแผ่นดินไหว" ใกล้ชายฝั่งเฮติ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แจกแจงแหล่งข่าวที่ใช้กล่าวหา สหรัฐฯครั้งนี้
สื่อมวลชนของเวเนซุเอลา รายงานว่าแผ่นดินไหวเขย่าเฮติ
"อาจเกี่ยวเนื่องกับโครงการ HAARP ระบบที่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ของสภาพอากาศอย่างรุนแรงและแบบ ไม่คาดฝัน"
ทั้งนี้โครงการ HAARP(High Frequency Active Auroral Research Project)
คือศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ในมลรัฐอะแลสกา มีจุดมุ่งหมายสำรวจทรัพยากรชั้นบรรยากาศโลก เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม
โครงการ HAARP ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 1997 วิลเลียม โคเฮน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯขณะนั้น
ได้แสดงความกังวลต่อเครื่อง HAARP นี้ ในกรณีที่
มันสามารถก่อ ความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ
จุดชนวนแผ่นดินไหวและควบคุมการปะทุของ ภูเขาไฟด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
HAARP เป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาตร์ของรัฐบาลสหรัฐ
เพื่อ สร้างและควบคุมสภาพ ภูมิอากาศโดยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่
ขึ้นไป ที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลก ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ
ในจำนวนนั้นรวมไปถึงส่งพลังงานนั้นลงไปสู่ชั้น หินใต้ดินเพื่อก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแผ่นดินไหวนั่นเอง
อนึ่งเครื่อง HARRP นี้ ยังสามารถประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีร่วมกับดาวเทียม และเทคโนโลยีอื่นๆ
เพื่อ ควบคุมกระแสลมกรด ซึ่งเป็นกุญแจของธรรมชาติที่จะนำพากลุ่มเมฆ น้ำฝน ความร้อน
ความแห้งแล้งและความหนาวเย็น และอื่นๆ อีกมาก
ไม่เพียงแต่กรณีแผ่นดินไหวที่เฮติ
HAARP ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยว ข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ที่เสฉวน ประเทศจีน เมื่อ พฤษภาคม 2008 ด้วย
โดยมีผู้อ้างถึงคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ ใน 30 นาทีก่อนเกิดแผ่นดินไหว
เป็นภาพแสงประหลาดที่ปรากฏให้เห็นในท้องฟ้าเหนือ เสฉวน
ว่ากันว่าแสงนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้า HAARP (High Frequency Active Auroral Research Project)
เดือนสิงหาคมที่จีน
เกิดพายุไต้ฝุ่น รานานิม (Typhoon Rananim)
พายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 48 ปี
ทำ ให้มีผู้เสียชีวิต 164 คน บาดเจ็บกว่า 1,800 คน
และคาดว่าถึงกว่า 13 ล้านคน
ได้รับผลกระทบ
หลุมอุกกาบาต (Impact Craters)
เมื่ออุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาถึงพื้นโลกจะทำ ให้เกิดหลุมที่มีลักษณะเหมือนอ่างขนาดใหญ่เรียกว่า หลุมอุกกาบาต ที่มีขนาดตั้งแต่ 1 เมตร
ไปจนถึง 1,000 กิโลเมตรทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมวลของอุกกาบาตนั้น
และความเร็วที่พุ่งชนพื้น โลก มีหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่อยู่
ประมาณ 150 แห่งทั่วโลก หลุมอุกกาบาตทั้งหมดที่พบมีอายุน้อยกว่า 500 ล้านปี
ทำให้เรารู้ว่าก่อน หน้านั้นเปลือกโลกยังมีการเปลี่ยนแปลงโดย
กระบวนการเพลตเทคโทนิคอยู่
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ทราบที่มา:กุญแจไขปริศนา?
นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (รังสีแกมม่า) นี้ได้
ในบริเวณขั้วโลกเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 5 ปีมาแล้ว
และหลังจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้พบว่าปริมาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ได้เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนความถี่และ ความรุนแรง
ภาพท้องฟ้าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของกรีนแลนด์ 800 ไมล์จาก ขั้วโลกเหนือ
ในช่วงฤดูหนาว ของเดือนธันวาคม 2008
อะไรที่ชี้ว่าเทคโนโลยีในการ บังคับดินฟ้าอากาศมีจริง
หลักฐานที่น่า เชื่อถือที่สุดอยู่ที่การยอมรับเกี่ยวกับเทคโนโลยี
ในการบังคับดินฟ้า อากาศของบุคคลสำคัญ สถาบันและองค์กรชั้นนำระดับโลกต่างๆ อาทิเช่น
เอกสารชื่อ “กองทัพอากาศสหรัฐฯ 2025” ที่ประกาศใช้ในปี 2539
ได้ระบุเป้าหมายในอนาคตของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ว่า
“การ เปลี่ยนแปลงดินฟ้าอากาศจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคง
ทั้งใน และระหว่างประเทศและสามารถทำได้แบบเอกภาคี...
มันเป็นไปได้ทั้งเชิงการ รุกและรับ หรือกระทั่งในการข่มขู่ศัตรู...
ความสามารถในการทำฝน หมอกและพายุ หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก...
และการสร้างดินฟ้า อากาศต่างๆ นี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีแบบบูรณาการ
ซึ่งสร้างเสริม ศักยภาพให้กับสหรัฐฯ หรือลดทอนศักยภาพของศัตรู...”
จริง อยู่ที่ข้อความข้างต้นนี้เป็นเพียงเป้าในอนาคต
แต่ก็หมายถึงว่า ก่อนหน้าการประกาศ สหรัฐฯ ได้ทำเริ่มลงทุนพัฒนา
และทดลองเทคโนโลยีการควบ คุมดินฟ้าอากาศเป็นประจำมาเป็นเวลาช้านาน
จนกว่าจะมั่นใจได้ว่าสามารถ บรรลุภารกิจที่ตั้งไว้ได้
ปี 2539 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานคำพูดของนายวิเลียม โคเฮน
รัฐมนตรีกระทรวง กลาโหมสหรัฐในขณะนั้น
ที่กล่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย ณ มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ตอนหนึ่งมีใจความว่า
“การป้องกันเกี่ยวกับอาวุธที่ไม่ธรรมดาจะต้องเพิ่มมากขึ้น
เมื่อ กลุ่มผู้ก่อการร้ายพัฒนาอาวุธเคมีและเชื้อโรคและกรรมวิธีทางพลังงานแม่เหล็ก
ที่ สามารถเปิดรูโหว่ในชั้นโอโซนหรือกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ได้”
เป็นไปได้หรือที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะ สามารถค้นคิดอาวุธร้ายแรงเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง?
เพราะตลอดมาพวกเขามี ศักยภาพเพียงการลอกเลียนและประยุกต์อาวุธขึ้น
จากเทคโนโลยีที่มีบรรดา ประเทศมหาอำนาจได้ค้นคิดพัฒนาและใช้การได้จริงแล้วทั้งสิ้น
ปี 2544 วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐโอไฮโอ นายเดนิส คูชินิช
ได้เสนอร่าง กฎหมายเลขที่ HR2977 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธในอวกาศ
ตอนหนึ่งของร่างนี้ กล่าวถึง “อาวุธทางภูมิอากาศหรือ อาวุธทางรอยเลื่อนของชั้นแผ่นดิน”
เป็นไปได้หรือที่ผู้ ที่เป็นถึงวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จะกล้าเสนอกฎหมายนี้
หากปราศจากหลักฐานข้อ เท็จจริงเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธเหล่านี้
นอกจากบุคคลสำคัญและ องค์กรของสหรัฐฯ เองจะกล่าวถึง
การพัฒนาและทดลองอาวุธที่เปลี่ยนแปลงดิน ฟ้าอากาศแล้ว
บุคคลสำคัญและองค์กรในระดับโลกต่างๆ ก็ได้เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธนี้มาแล้วด้วย
ที่ ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติประจำปี 2540 ได้มีการลงนามในอนุสัญญา
“การห้ามใช้เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศเพื่อการทหารและการรุกราน
ที่สร้างผลกระทบ อย่างกว้างขวาง ยาวนานและรุนแรง”
ทั้งนี้นิยามของ “เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ” หมายถึง
“เทคโนโลยีที่จงใจดัด แปลงกระบวนการทางธรรมชาติ
การเคลื่อนไหว องค์ประกอบ โครงสร้างของโลก รวมถึงชั้นบรรยากาศต่างๆ หรืออวกาศ
หลักฐานที่ชี้ถึงแสนยานุภาพของฮา ร์พ
ในปี 2546 สมาชิกของคณะกรรมาธิการถึงสี่คณะของสภาสูงสุดรัสเซียหรือสภาดูม่า
และ สมาชิกสภาทั้งหมด 90 ท่าน ได้ร่วมกันลงชื่อ
ในรายงานเสนอต่อประธานาธิบดี วลาดีเมีย ปูติน
องค์การสหประชาชาติและประเทศสมาชิก องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ
ผู้นำและรัฐสภาของทุกประเทศ องค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและสื่อมวลชนชั้นนำของโลก
เพื่อ เรียกร้องให้ประชาคมโลกมีมติห้ามสหรัฐฯ ทดลองอาวุธที่มีแสนยานุภาพสูงนี้
ใน รายงานนี้ปรากฏข้อความดังนี้
“ภายใต้โครงการฮาร์พ สหรัฐฯ กำลังสร้างอาวุธใหม่ทางธรณีฟิสิกส์
ซึ่ง อาจสามารถส่งอิทธิพลต่อชั้นบรรยากาศใกล้โลกด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง”
“แสนยานุภาพ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้
อาจเทียบได้กับการเปลี่ยนแปลงจากอาวุธ มีคมสู่อาวุธปืน
หรือจากอาวุธธรรมดาสู่อาวุธนิวเคลียร์”
รายงานนี้ยังระบุอีกว่า สหรัฐฯ กำลังสร้างอาวุธฮาร์พนี้ในพื้นที่สามแห่ง
แห่งแรกที่รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา
แห่งที่สองที่กรีนแลนด์
และที่สามในประเทศนอร์เวย์
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เตรียมที่จะเริ่มทดลองอย่างเต็มที่ได้ตั้งแต่ต้นปี 2546