https://www.yaklai.com/lifestyle/special-article/10-amazing-extinct-animals-p2/
สัตว์มหัศจรรย์ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา! เสียดาย..พวกมันล้วนสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว(2)
เสือโคร่งแคสเปียน (Caspian Tiger) สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 1970
เสือโคร่งแคสเปี้ย หรือเสือเปอร์เซีย สายพันธุ์ย่อยที่กระจายอยู่ในภูมิภาคเอเชียกลางถึงตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน อิรัก อัฟกานิสถาน ตุรกี มองโกเลีย คาซัคสถาน คอเคซัส ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน นับว่าเป็นเสือสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 จากจำนวนเสือทั่วโลก โดยตัวผู้ที่พบในเตอร์กิสถานมีความยาวลำตัว 2.70 เมตร นับเป็นสถิติที่ใหญ่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา น้ำหนักโตเต็มที่ประมาณ 240 กิโลกรัม ขณะที่ตัวเมียมีขนาดย่อมลงมา น้ำหนักประมาณ 85-135 กิโลกรัม
เสือโคร่งแคสเปียน สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 70 โดยตัวสุดท้ายถูกฆ่าตายในตุรกี
วัวป่าออรอช (Aurochs) สูญพันธุ์เมื่อปี 1627
วัวป่าออรอช จัดเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์มีมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง เป็นต้นตระกูลของวัวบ้านพันธุ์ต่างๆ ซากที่เก่าแก่ที่สุดพบในอินเดีย มีอายุถึง 250,000 ปี แต่ต่อมา วัวออรอชป่า พบหลงเหลืออยู่แต่ในทวีปยุโรปเท่านั้น เป็นวัวป่าที่มีขนาดใหญ่มาก มีความสูงมากกว่า 2 เมตร พบในยุโรป เอเซีย และแอฟริกาเหนือ
ในศตวรรษที่ 13 วัวป่าออรอช ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง การล่าออรอช กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมของบรรดาเชื้อพระวงศ์ จนจำนวนของออรอชลดลง ในที่สุดก็เหลือฝูงสุดท้ายที่ ป่าจาคทอโรว์ (Jaktorow forest) ในประเทศโปแลนด์เพียงแห่งเดียว อย่างไรก็ดีวัวป่าเหล่านี้ยังคงถูกล่าโดยเชื้อพระวงศ์ของโปแลนด์ จนกระทั่งในฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1627 วัวป่าออรอชเพศเมียตัวสุดท้ายของโลกก็ถูกสังหาร เหลือเพียงกะโหลกศีรษะให้ดูต่างหน้า ซึ่งเวลานี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Livrustkammaren ในสตอกโฮล์ม
ในปี 1920 เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ของเยอรมนี ชื่อ Heinz กับ Heck พยายามที่จะเพาะพันธุ์วัวออรอชอีกครั้งโดยใช้วัวท้องถิ่นซึ่งมีเชื้อสายตรงจากออรอชมาเพาะพันธุ์ ผลที่ได้คือวัวพันธุ์ Heck ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียง แต่ก็ไม่ใช่ออรอชแท้ๆ อยู่ดี
นกอ๊อคใหญ่ (Great Auk) สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 1844
The Great Auk นกยักษ์จากมหาสมุทรแอตแลนติก เคยพบมากในหมู่เกาะและชายฝั่งหลายแห่งแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ทางตะวันออกของแคนาดา กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ พวกมันมีจงอยปากใหญ่ค่อนข้างหนาและมีหน้าท้องสีขาวกับหลังสีดำเป็นมันวาวคล้ายนกเพนกวิน นอกจากนี้ยังบินไม่ได้เหมือนกันอีกด้วย เมื่อยืนจะมีความสูงประมาณ 75 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
เนื่องจากเนื้อและไข่ของมันมีรสชาติอร่อย จึงทำให้พวกมันจำนวนมากถูกชาวเรือล่านำไปเป็นอาหาร จนลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ชีวิตของนกอ๊อคใหญ่คู่สุดท้ายของโลกสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี 1844 บนเกาะเบิร์ด นอกชายฝั่งของไอซ์แลนด์ หลังจากมันวางไข่ได้ 1 ฟองก็ถูกนักล่าสัตว์ฆ่าตาย เหลือเพียงไข่ฟองสุดท้ายที่ไม่มีวันฟักเป็นตัวได้อีกต่อไป
สิงโตถ้ำ (Cave Lion) สูญพันธุ์ไปเมื่อ 2,000 ปีก่อน
Cave Lion เป็นที่รู้จักในยุโรปหรือเอเชีย เป็นสายพันธุ์ย่อยของสิงโตในปัจจุบัน ซากฟอสซิลของมันถูกขุดค้นพบในปี 1985 ใกล้กับเมือง Siegsdorf ในเยอรมนี จัดว่าเป็นหนึ่งในสิงโตที่ใหญ่ที่สุด เพศผู้มีความสูงวัดจากช่วงขาถึงไหล่ประมาณ 1.2 เมตร ยาวของ 2.1 เมตรไม่รวมหาง ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสิงโตในปัจจุบัน 5-10% จากเดิมคาดกันว่ามันสูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 1 หมื่นปีก่อนยุคน้ำแข็ง แต่มีการพบมันอีกครั้งในช่วง 2 พันปีที่แล้ว ที่ประเทศในแถบคาบสมุทรบอลข่าน และไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย
นกโดโด (Dodo) สูญพันธุ์ไปเมื่อศตวรรษที่ 17
นกโดโด หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Raphus cucullatus เป็นนกที่บินไม่ได้ อาศัยอยู่บนเกาะมอริเชียส เป็นนกในตระกูลเดียวกับนกพิราบ มีความสูงประมาณ 1 เมตรสูง (3 ฟุต) กินผลไม้เป็นอาหาร ทำรังอยู่บนพื้นดิน นกโดโดถูกยืนยันการสูญพันธุ์ตั้งแต่ช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 17 นิยมใช้เป็นแม่แบบของสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ เพราะมันเป็นสัตว์ชนิดแรกของโลกที่สูญพันธุ์ในยุคที่มนุษย์เริ่มบันทึกการสูญพันธุ์ของสัตว์ ดังนั้น ฝรั่งจึงมีสำนวนที่แทนความหมายการตายชนิดเด็ดขาด ไม่มีเหลือ ว่า “as dead as dodo” หรือ “to go the way of the dodo”
ที่มา : oddee.com