สหรัฐอเมริกามีการสร้างโครงการวิจัยมากมายในประวัติศาสตร์ และนี่คือผลพวงอย่างหนึ่งของความพยายามซึ่งตอนนี้เป็นภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมในกรีนแลนด์ 

โดยในปี 1959 วิศวกรของกองทัพสร้างสถานีวิทยาศาสตร์ที่เป็นสถานที่ลับสุดยอดขึ้นมา ตั้งอยู่ใต้พื้นน้ำแข็งอาร์กติกทางตอนเหนือของเกาะกรีนแลนด์ มันเป็นฐานที่ทหารสร้างขึ้นมาและมีเพียงทหารเท่านั้นที่อยู่อาศัย

มันเป็นสถานีที่ตั้งอยู่ห่างไกล และเป็นฐานที่กองทัพสหรัฐสร้างขึ้นมาเพื่อทำการทดลองโครงการ "Project Iceworm" 

วัตถุประสงค์ของโครงการ "Project Iceworm" คือการสร้างอุโมงค์ใต้ดินยิงขีปนาวุธ เนื่องจากฐานทัพนี้สร้างขึ้นในสมัยสงครามโซเวียตและเกาะกรีนแลนด์ก็เป็นพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับรัสเซียมากกว่าทวีปยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา ดังนั้นอมเริกาจึงคิดว่าถ้าสร้างฐานทัพอาวุธลับไว้ใกล้โซเวียตก็จะสามารถถล่มโซเวียตได้ภายในเวลาอันสั้นจนสามารถได้รับชัยชนะได้

แต่โชคดีที่ไม่เคยเกิดสงรามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตมาก่อน แต่ความตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจลับทำลายแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ทำห้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางมานานนับศตวรรษเพราะฐานทัพแห่งนี้กลับถูกทอดทิ้งในภายหลัง

ตลอดระยะเวลาหลายปีด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบอันตรายอย่างกว้างขวาง

เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วจนทำให้น้ำแข็งที่ละลายมีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนกากนิวเคลียร์หลายร้อนแกลลอน ส่งผลให้บริเวณรอบเกาะกรีนแลนด์และมหาสมุทรโดยรอบได้รับผลกระทบ

และเรื่องราวก็ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เมื่อเจ้าของสถานีทดลองทางวิทยาศาสตร์ตามกฎหมายเป็นของบริษัทร่วมทุนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเดนมาร์ก แต่ปัจจุบันมันถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีใครสนใจ...

นี่คือผลกระทบอีกอย่างหนึ่งของสงครามที่คงไม่มีใครคาดถึงว่าจะส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งดูท่าทีว่าผลกระทบนี้จะไม่มีใครอยากรับผิดชอบด้วยซ้ำ...!!