มหัศจรรย์แมวนัยน์ตาสองสี ที่อุทยานแมวไทยโบราณ



สัตว์สี่ขาตัวนุ่มนิ่มที่ชอบร้องเหมียวๆ กับคนไทยนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมานานแล้ว โดยเรื่องราวเกี่ยวกับแมวก็ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณว่ามีแมวประเภทใด บ้างเป็นแมวมงคล และแมวประเภทใดบ้างเป็นแมวอัปมงคล แสดงว่าแมวกับคนไทยเรานั้นผูกพันกันมายาวนานจริงๆ  แมวขาวมณี หรือขาวปลอด นัยน์ตาสองสี แห่งอุทยานแมวไทยโบราณ

ที่อุทยานแมวไทยโบราณนี้ เขามีแมวน่ารักๆ อยู่หลายตัว ที่ไม่ธรรมดาก็คือแมวเหล่านี้ล้วนแต่เป็นแมวขาวมณี แมวไทยโบราณสีขาวสะอาดทั้งตัว แถมยังพิเศษตรงที่นัยน์ตาทั้งสองข้างยังมีสีแตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นก็เลยพลาดไม่ได้ที่จะมาชมแมวเหมียวเหล่านี้ให้ถึงที่
 



แมวขาวมณีหรือที่เรียกว่าขาวปลอดนั้น เป็นแมวไทยที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในสมุดข่อยโบราณ เพราะเพิ่งจะเป็นที่รู้จักก็กันเมื่อสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นมานี้เอง แต่ก็ถือว่าเป็นแมวไทยโบราณหนึ่งในห้าพันธุ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แก่ แมววิเชียรมาศ แมวสีสวาด แมวศุภลักษณ์ แมวโกญจา และแมวขาวมณี

เจ้า แมวขาวมณีนี้มีลักษณะเด่นก็คือจะมีขนสั้นสีขาวตลอดหัวจดหาง ไม่มีสีอื่นมาแซมเลย และหากเป็นสายพันธุ์แท้ดวงตาทั้งสองข้างก็จะมีสีที่แตกต่างกัน เช่นข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง หรือบางตัวก็อาจเป็นสีน้ำตาล และอีกข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าหรือสีขาว สวยงามมาก
 

 

และสำหรับแมวขาวมณีนี้ ถือว่าเป็นแมวทรงเลี้ยงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดและทรงหวงมากๆ พระองค์ทรงมอบหน้าที่ให้ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขต อุดมศักดิ์ พระราชโอรสเป็นผู้ดูแลและขยายพันธุ์ หน้าที่นี้สืบทอดจนมาถึงพระธิดาของพระองค์ คือหม่อมเจ้าหญิงเริงจิตรแจรงอาภากร

ก่อนที่แมวขาวมณีที่เหลืออยู่ ทั้งหมด 18 ตัวจะตกมาอยู่ในความดูแลของ นำดี วิตตะ เด็กชายที่หม่อมเจ้าหญิงได้อุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก และก็ได้ดูแลแมวขาวมณีเหล่านี้มาตลอด จนกลายมาเป็นผู้ก่อตั้งอุทยานแมวไทยโบราณ (นัยน์ตาสองสี) ที่ฉันได้มาชมในวันนี้ ดังนั้น แมวขาวมณีในอุทยานแมวฯ แห่งนี้จึงเป็นแมวที่สืบเชื้อสายมาจากแมวทรงเลี้ยงของรัชกาลที่ 5 คุณนำดีจึงเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี และไม่เคยขายเจ้าขาวมณีพันธุ์แท้เหล่านี้เลยสักตัว

 

 

อุทยานแมวไทย โบราณริมคลองทวีวัฒนาในวันธรรมดาที่จะเข้าไปชมกลางวันธรรมดาจะเงียบเชียบไร้ ผู้คน แต่ก็ยังได้ยินเสียงแมวดังแง้วๆ แว่วๆ อยู่ด้านบนบ้านหลังใหญ่ใต้ถุนสูง เมื่อขึ้นไปด้านบน จ่ายเงินค่าเข้าชมและช่วยค่าอาหารแมวไป 50 บาท แล้วก็ได้พบกับบรรดาเหมียวๆ อ้วนท้วนสีขาวสะอาด นัยน์ตาสองสีที่ชื่อพันธุ์ขาวมณีเหล่านั้นอยู่ภายในห้องกว้างค่อนข้างโล่ง ที่มีกรงแมวขนาดไม่ใหญ่นักวางเรียงกันอยู่ 3-4 แถว และในแต่ละกรงก็มีแมวขาวมณีอยู่กรงละหนึ่งตัว นับรวมแล้วก็ได้ 14 ตัวพอดี

 


 

ที่อุทยานแมวโบราณนี้มีแมวขาวมณีอยู่ทั้งหมด 44 ตัว แต่เอามาจัดแสดงไว้เพียง 14 ตัว โดยในแต่ละวันก็จะสลับกันออกมาโชว์ตัว ตัวไหนโชว์อยู่นานแล้วก็จะเข้าห้องไปพัก ปล่อยให้เพื่อนแมวตัวอื่นๆ ได้ออกมารับแขกบ้าง

เมื่อก่อนนี้ ก่อนที่อุทยานแมวโบราณจะย้ายมาตั้งอยู่ในบริเวณปัจจุบันนั้น ก็ยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้อุ้มได้กอด แต่ปรากฏว่า แมวเหล่านั้นเฉามือคน แถมบางตัวยังติดโรคจากคนโดยการเลียหรือสัมผัสจนตายไปหลายตัว ในปัจจุบันก็เลยทำกรงไว้ให้แมวแต่ละตัวได้อยู่กัน
 

หลังจากที่อุทยานแมวฯ ปิดให้บริการในแต่ละวันแล้ว ประมาณห้าโมงเย็น แมวเหล่านี้ก็จะได้ไปวิ่งเล่นในสนามหลังบ้าน วิ่งไล่กันหรือปีนป่ายต้นไม้ไปตามเรื่อง แมวที่นี่จึงมีสุขภาพดีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

ด้วยความที่แมวเหมียว ขาวมณีเหล่านี้เป็นแมวที่สืบเชื้อสายมาจากแมวของรัชกาล ที่ 5 คุณนำดี ผู้เป็นเจ้าของจึงตั้งชื่อว่า "เจ้า" นำหน้าทุกตัว ทั้งเจ้าฟ้าเงินฟ้าทอง เจ้าเปรียว และอีกมากมายหลายเจ้า อย่างที่ฉันบอกไปแล้วว่าบรรพบุรุษของแมวเหล่านี้เคยเป็นแมวของพระมหา กษัตริย์ และไม่มีการขายแมวขาวมณีสายพันธุ์แท้ คุณนำดีผู้ก่อตั้งอุทยานแมวฯ จึงถวายแมวเหล่านี้ให้แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ก็โปรดให้แมวเหล่านี้อยู่ที่อุทยานแมวฯ เพื่อให้ประชาชนได้ชมกันต่อไป

        นอกจากจะได้มารู้จักกับแมวขาวมณีและได้มาชมแมวเหมียวที่แสนจะน่ารักแล้ว การที่ได้มาเยี่ยมชมอุทยานแมวฯ ก็ทำให้รู้สึกว่า น่าดีใจที่แมวพันธุ์ไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของเรายังมีผู้ที่ตั้งใจ อนุรักษ์ไว้ เพราะฉะนั้นขอเชิญชวนบรรดาคนรักแมวทั้งหลายให้แวะมาเยี่ยมเยียนเหมียวๆ เหล่านี้กันบ้าง รับรองว่าต้องหลงเสน่ห์แมวขาวมณีแน่นอน
 


 

อุทยานแมวไทยโบราณ (นัยน์ตาสองสี) ตั้งอยู่ที่ 103 หมู่ที่ 10 ถ.ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170 เปิดบริการ 10.00-17.00 น. ทุกวัน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-9765-6697
      
       การเดินทาง จากสายใต้ใหม่ขับรถมาทางถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี มาจนถึงพุทธมณฑลสาย 4 แล้วให้ขับไปทางมหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา จากนั้นให้กลับรถเข้าสู่ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีอีกครั้ง (ฝั่งที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทวีวัฒนา (ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา) มาอีกประมาณ 400 เมตร อุทยานแมวโบราณจะอยู่ทางขวามือริมคลองทวีวัฒนา สามารถจอดรถได้บริเวณด้านหน้า หรือหากมาทางรถประจำทาง มีสาย 124, 125, 515 หรือรถตู้ปรับอากาศ พาต้าปิ่นเกล้า-พุทธมณฑลสาย 4 ผ่าน


แมวที่นี่ สืบสายเลือดมาจากสมัย ร.5 เลยล่ะ เลยอยู่ในกรงทองแบบนี้ เวลากินอาหารก็กินในขันเงินขันทอง



มีป้ายชื่อติด บอกไว้ทุกตัว



นอกจากแมวขาว มณีแล้ว ที่นี่ก็มีแมวไทยพันธุ์อื่น ๆ ให้ชมกันด้วย
เช่นตัวนี้ วิเชียรมาศ



สีสวาด



แมวขาวมณีตา สองสีเท่านั้นที่จะอยู่กรงทอง เพราะมาจากสายเลือดในสมัย ร.5
คุณลุงนำดีเจ้าของอุทยานฯ บอกว่า ต้องเรียกว่าเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย เลยที
เดียว ส่วนแมวอื่นจะอยู่ในกรงสีชมพู



แมวน้อยในกรง ทอง



ต่อไปเป็นภาพ ข่าว แมวขาวมณีที่อุทยาน ฯ แห่งนี้ ที่ได้รับความสนใจจากสื่อประเทศต่าง ๆ






 

Credit: http://atcloud.com/stories/84557
17 มิ.ย. 53 เวลา 16:08 11,621 13 110
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...