ในที่สุดตำรวจสงขลาก็คลำจนเจอต้นเหตุแห่ง ความขัดแย้ง อันนำมาสู่การฆ่าอำพราง "อึ้ง ชุน เกียง" เศรษฐีร้อยล้านชาวมาเลย์ มาจากเมียน้อยและชายชู้วางแผนฆ่าเพื่อฮุบสมบัติ

ใกล้รุ่งวันที่ 7 เมษายน 2552 คนร้ายจำนวนหนึ่งบุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 69/23 หมู่บ้านเพชรไพลิน ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา แล้วใช้ปืนจ่อยิงศีรษะอึ้ง ชุน เกียง เจ้าของธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งวัย 40 ปี ชาวมาเลเซีย ที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนตามลำพัง ส่วนในห้องนอนต่างๆ ที่แยกออกไปยังมีคนจมอยู่ในนิทรารมณ์อีก 5-6 คน แต่น่าแปลกที่ทุกคนไม่ได้ยินเสียงปืนเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่เสียงนั้นดังพอให้เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไป 5 เมตร และ รปภ.ประจำป้อมยามปากทางเข้าหมู่บ้านที่อยู่ไกลออกไป 300 เมตรได้ยินอย่างชัดเจน

นี่คือประเด็นพิรุธแรก...นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดตั้งตาม เหลื่อมมุมต่างๆ ถึง 4 ตัว แต่ทุกตัวไม่สามารถใช้การได้เลยแม้แต่ตัวเดียว เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดจึงพบว่า กล้องวงจรปิดทุกตัวถูกถอดสายเชื่อมต่อวงจรออก ประกอบกับจากการตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านยังอยู่ครบ ทั้งที่หากคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ข้าวของมีค่าต่างๆ น่าจะรื้อค้นจนกระจัดกระจาย แม้แต่ปืนขนาด .38 และ 9 มม.ของผู้ตายที่เก็บเอาไว้ในห้องนอนก็ยังอยู่ครบ ด้วยเหตุนี้ชุดสืบสวนจึงมั่นใจมากว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนใกล้ชิดกับผู้ตายนั่นเอง ไม่ใช่ใครอื่นไกล และต้องรู้ความเป็นไปในบ้านเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงพุ่งเป้าไปที่คนแวดล้อม โดยพยายามหาพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องสงสัยรายนี้หรือกลุ่มนี้

เวลาผ่านไป 2 เดือนชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ และ สภ.คอหงส์ ได้ร่วมกันหาเบาะแสคนร้ายกระทั่งได้ข้อมูลมาว่า เศรษฐีร้อยล้านมาเลย์ผู้นี้มีภรรยาน้อยเป็นคนไทยชื่อ "รำพึง พุทธคุณ" อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับ "จุ๋ม ทรัพย์ยอดแก้ว" พี่สาววัย 38 ปี ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยมาเลย์กับเมียน้อยจะเป็นอย่างไรไม่ทราบ ได้ แต่ระยะหลังมานี้รำพึงเริ่มปันใจให้แก่ชายหนุ่มอีกคนคือ "แสนวสิน ทิพยกุล" พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัย 31 ปี ซึ่งพัฒนาไปสู่การมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งในเวลาต่อมา

ต่อมา อึ้ง ชุน เกียง เริ่มระแคะระคายในความผิดปกติที่เกิดกับเมียสาว อาจจะถึงขั้นจับได้หรือเข้าใจได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ ในที่สุดเขาก็พยายามโอนทรัพย์สินต่างๆ ในเมืองไทยที่เป็นของเขา แต่มีชื่อภรรยาเป็นผู้ครอบครองกลับคืนมาเป็นชื่อตัวเอง รำพึงก็ตระหนักในสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น ตำรวจจึงเชื่อว่าการฆาตกรรมครั้งนี้ มีมูลเหตุจูงใจมาจากเรื่องต้องการฮุบสมบัติผัวร้อยล้านชาวมาเลย์ของเมียสาว และชายชู้...นั่นเอง

"เรื่องนี้ทำให้นางรำพึงไม่พอใจและโกรธแค้นมาก จึงวางแผนร่วมกับนายแสนวสินและพี่สาว ฆ่าสามีชาวมาเลเซีย เพื่อหวังเอาทรัพย์สินกลับคืนมา โดยให้นายแสนวสินบุกเข้าไปในห้องนอน แล้วจ่อยิงขมับนายอึ้ง ชุน เกียง 1 นัด จนเสียชีวิตคาที่แล้วหลบหนีไป" พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว.สงขลา กล่าวต่อ "คม ชัด ลึก"

ทั้งนี้ ก่อนจะมาพบจุดจบในเดือนเมษายนประมาณ 2 เดือนเศษ เศรษฐีเคราะห์ร้ายเคยถูกตามสังหารมาแล้วครั้งหนึ่ง ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์อยู่จู่ๆ ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วไล่ยิง โชคดีที่กระสุนด้านจึงรอดตายมาได้หวุดหวิด หลังจากนั้นก็มาถูกฆาตกรรมเสียชีวิตภายในบ้านตัวเอง

เมื่อพยานหลักฐานพร้อมมูลพนักงานสอบสวน จึงขออนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนต่อศาลจังหวัดสงขลา กระทั่งผ่านไป 4 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนก็สามารถจับกุมรำพึงได้ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ส่วนจุ๋มพี่สาวถูกตามรวบได้ที่บ้านพักเลขที่ 103 หมู่ 3 ถนนกาญจนวณิชย์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับแสนวสินมือปืนหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาย้อนกลับเข้ามาใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ชุดสืบสวนจึงตามจับกุมได้อีกคน จากการสอบสวนทั้งสามยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับคดีฆาตกรรมครั้งนี้

"แม้ว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนจะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่" พล.ต.ต.วิรุฬยืนยัน